23 Aug 2015
Review

ทั้งโค้ง ทั้งคม! รีวิว TCL 55H9600 รุ่นท็อปแดนมังกรภาพแน่นฟีเจอร์เพียบ


  • tormoo

ภาพ

จากหน้าที่แล้วเรามาลุยต่อเรื่องของภาพแบบ 4K กันดีกว่าครับ แม้ว่าปัจจุบันเราจะยังไม่มีสื่อที่เหมาะสมในการแสดงภาพยนตร์ความละเอียดสูงความยาวเป็นชั่วโมงได้ แต่ในเมื่อทีวีเค้าให้ฟีเจอร์มาแล้วก็ขอลองดูหน่อยแล้วกันว่าจะสามารถแสดงผลได้จริงหรือไม่ โดยทดสอบกับไฟล์ภาพยนตร์ตัวอย่างที่ทีมงานได้ทำการขออนุญาตมาใช้ประกอบการทดสอบ โดยเราก็โยนเข้า External Harddisk แล้วเสียบเล่นที่ช่อง USB หลังเครื่องเนี่ยแหละ

จากการทดสอบเราพบว่าตัวเครื่องสามารถเล่นไฟล์ 4K บางชนิดได้ด้วยตัวเองเลย(ว้าว!) อย่างตัวที่ใช้ทดสอบนี่เป็นไฟล์โหลดจาก YouTube มาเป็น mkv ก็สามารถเปิดเล่นฉิวๆ แสดงผล 4K 24/30Hz ได้แน่นอน ด้วยเหตุนี้คุณชานมของเราเลยอยากจะลองของ เสียบเครื่อง Generator ปล่อยสัญญาณแบบ 60Hz เข้าไป ปรากฏว่ามีภาพขึ้นเช่นกัน แต่ว่ามีอาการสีเพี้ยนให้เห็น จึงไม่แน่ใจว่าสามารถรองรับการแสดงผลที่สัญญาณภาพนี้ได้ 100% หรือไม่ แต่คาดว่าหากในอนาคตภาพยนตร์ในฟอร์แมตนี้เกิดบูมขึ้นมา ทาง TCL ควรจะมีการปล่อยอัพเดตซอฟต์แวร์เพื่อแก้ไขในจุดนี้ให้กับลูกค้า

สำหรับการแสดงผลภาพแบบ 3 มิตินั้น ผมได้ทดสอบกับภาพยนตร์เรื่อง Gravity ครับ โดยรวมแล้วอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานสำหรับทีวีที่ใช้ 3D Active คือมีมิติในเชิงลึกเข้าไปในจอ และมีจังหวะที่หวือหวาบ้าง อย่างเช่นช่วงที่ Dr. Ryan นางเอกของเราลอยไปปะทะกับเศษซากของกระสวยอวกาศที่ลอยอยู่ บรรดาของที่ลอยปะปนด้านในก็ทำให้ภาพเหมือนลอยทะลุจอออกมา ทว่ายังคงมีสิ่งที่เรียกว่า Crosstalk ให้เห็นตามขอบเล็กน้อย ถ้าไม่ได้สังเกตุก็จะไม่ชัดเจนจนน่าเกลียดแต่อย่างใด รวมๆ แล้วก็ไม่หนีจาก 3D Active ด้วยกันเองในตลาดปัจจุบันมากครับ

สำหรับท่านที่ต้องการจูนช่องดิจิตอลทีวี ก็ให้เสียบเสาอากาศที่หลังเครื่องแล้วก็เลือก Source ไปที่ DTV จากนั้นตัวเครื่องก็จะให้เราเลือก Auto Scan หรือ Manual แนะนำให้เลือก Auto และปรับเป็น Fast ไปเลยครับ ใช้เวลาไม่นานราวๆ 15 นาที ก็น่าจะได้รับชมดิจิตอลทีวีบนจอ 4K เครื่องนี้

เสร็จสิ้นจากการทดสอบภาพจากแผ่น ก็มาลงในเรื่องของภาพจากดิจิตอลทีวีในบ้านเรากันบ้างครับ เพราะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการเลือกซื้อทีวีของทุกคน ณ ตอนนี้ สำหรับการจูนหาช่องสัญญาณนั้นด้วยความที่ออฟฟิศเราติดเสาก้างปลา และอยู่ในเขตชานเมือง กทม. ทำให้สัญญาณที่ได้รับ ณ ตอนนี้เกือบจะแน่นๆ 100% จูนได้ครบไม่ตกหล่น

ประสิทธิภาพนั้นต้องบอกว่าค่อนข้างได้เปรียบทีวีที่เป็นแบบ Full HD ครับ ความรู้สึกส่วนตัวผมว่าพาแนลแบบ 4K มีส่วนช่วยให้ภาพดูคมีมิติขึ้นกว่าดูบนจอ Full HD ในระดับหนึ่ง ถือว่าทำได้ดีสำหรับการดูรายการทีวีทั่วไป จะมีตินิดหน่อยก็ในเรื่องของการโหลด EPG หรือตารางออกอากาศที่จะทำการ Sync ระบบกับสัญญาณของช่องนั้นๆ ให้เอง ตอนกดเข้าไปดูจะพบอาการหน่วงให้เห็นประปราย แต่ถ้าท่านไหนไม่สนเรื่องนี้ ก็เปลี่ยนช่องดูได้ลื่นไหล อย่างที่ทีวีรุ่นท็อปควรจะเป็น.

EPG ที่มีหน่วงให้เห็นบ้างเล็กน้อย อาจจะเป็นเพราะกำลังเรียบเรียงผังรายการจากสถานีให้เราดู

เสียง

เป็นถึงทีวีรุ่นสูงทั้งที จะให้ทำเสียงอู้อี้ออกมาก็กระไรอยู่ หลังจากที่ได้เปิดแผ่นคอนเสิร์ตของป๋า Elton John ดูแล้วไล่โหมดเสียงต่างๆ ไปเรื่อย สิ่งเดียวที่ผมแนะนำและเห็นว่าดีที่สุดสำหรับคนที่ไม่ชอบอะไรหวือหวาคือโหมด Standard ครับ เพราะมันจะให้เสียงที่เป็นธรรมชาติและมีความดังอยู่ในระดับที่ดีอยู่แล้วสำหรับแอลอีดีทีวี ไม่จำเป็นจะต้องปรุงด้วยค่า Preset อื่นๆ แต่หากชอบก็สามารถทำได้ตามเมนูที่ได้เปิดให้ชมด้านบนครับ อ้อ อย่าลืมเลือก Scene ให้ตรงกับการวางทีวีของคุณด้วยนะครับ เพื่อที่ตัวทีวีจะได้ทำการปรับรูปแบบการยิงเสียงออกมาให้เหมาะสม

เพิ่มเติม

แต่ก่อนเดิมที TCL นั้นได้ชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อแห่งสารพัดลูกเล่นอยู่แล้ว ไม่ว่าจะรุ่นเล็กรุ่นใหญ่มักจะมีของมาให้เราได้ทดลองอยู่ตลอดๆ สำหรับ H9600 ตัวนี้ที่ต้องบอกว่าเป็นถึงทีวีรุ่นท็อปของไลน์อัพปี 2015 ทาง TCL เลยจับยัด Android 4.2 มาให้แบบไม่มีกั๊ก รวมไปถึงได้จับมือกับนักพัฒนาเกมเพื่อออกแอปพลิเคชั่นสำหรับรันบนทีวีมากมาย มาตามดูกันเลยครับ

เมื่อกดปุ่ม Home ก็จะถูกพามาหน้า Homepage ทีเป็นเหมือนปากทางไปสู่สารพัดฟีเจอร์ออนไลน์ภายในเครื่อง
ไม่รอช้าเราก็เข้าไปที่หน้ารวมแอปพลิเคชั่น แล้วกดเลือกเล่นเกมแนวสงครามที่ดูจริงจังสุดๆ ตัวเกมสามารถรันได้อย่างลื่นไหล อาจจะมีเฟรมเรตตกบางช่วงให้เห็น ทว่าโดยรวมแล้วไม่รบกวนอรรถรสเท่าไรนัก ยิ่งใช้ร่วมกับคอนโทรลเลอร์ หรือจอยเกมคอนโซล จะยิ่งสนุกขึ้นไปอีกครับ
นอกจากเกมยิงกันระเบิดตูมตามแล้ว ก็ยังมีแนวกีฬาล้ำๆ อย่าง Riptide GP ลงมาให้อีกด้วย นอกเหนือจากนี้เราก็สามารถเลือกดาวน์โหลดเกมอื่นๆ มาติดตั้งได้เหมือนกับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ทั่วไป
แอปพลิเคชั่นสำหรับการรับชมทีวีออนไลน์ทั่วโลกก็มีให้เลือกใช้งานเหมือนกัน ประสิทธิภาพก็ขึ้นอยู่กับความเร็วอินเทอร์เน็ตบ้านและเซิฟเวอร์ที่ทำการสตรีมช่องรายการดังกล่าว
TCL nScreen แอปฯ ที่ใช้สำหรับควบคุมทีวีด้วยสมาร์ทโฟนจากทีวีรุ่นก่อนหน้า ก็ยังมีติดตั้งมาให้ในตัวนี้ รูปแบบการใช้งานก็ไม่ต่างจากเดิมมากครับ คือเชื่อมต่อทีวีและมือถือเข้ากับอินเทอร์เน็ตที่เดียวกัน แล้วก็เปิดแอปฯทั้งในโทรศัพท์และทีวี เท่านี้ก็พร้อมใช้งานแล้ว
สามารถโยนไฟล์เพลง, รูปภาพในโทรศัพท์มือถือ ขึ้นไปโชว์บนทีวีแบบไร้สายได้ทันที

สุดท้ายกับฟีเจอร์การอ่านไฟล์จาก External Harddisk สำหรับไฟล์เพลงนั้นทีมงานได้ทดลองกับ .mp3, .wav สามารถอ่านได้ปกติดี ส่วน .flac ที่บิตเรทสูงๆ ระดับ 24-bit / 192 kHz จะไม่สามารถอ่านได้ ส่วนไฟล์รูปภาพต่างๆ ถ้าเป็นนามสกุลมาตรฐานที่นิยมใช้กันตามเว็บไซต์อย่าง GIF, JPG หรือ PNG สามารถอ่านและแสดงผลได้ นอกจากนี้ยังเลือกให้เป็นพื้นหลังของหน้า Homepage ได้เช่นเดียวกัน

ส่วนไฟล์ Video ที่เป็นไฮไลท์สำคัญของฟีเจอร์นี้ บอกเลยว่าถ้าเป็น mkv ที่ไม่พิศดารจนเกินไป สามารถอ่านได้ลื่นไหลดี แม้ว่าจะเสียบกับฮาร์ดดิสก์ขนาด 1 TB ขณะทดสอบก็ตาม แต่ว่าการถอดรหัสซับไตเติ้ลแบบที่ฝังเข้าไปเองที่สามารถเปลี่ยนสีตำกับตำแหน่ง อาจจะต้องดูว่าทางคนฝังซับฯ ทำมาหวือหวาเว่อวังอลังก์เกินไปหรือไม่ เพราะทีวีเองก็มีขีดจำกัดของมันในการแบ่งพื้นที่บางส่วนมาให้ตัวถอดรหัส ฉะนั้นการจะให้อ่านซับไทยได้ทุกฟอนต์คงจะเป็นเรื่องยากของทีวีทุกตัวอยู่แล้ว

สรุป

สำหรับ TCL H9600 ตัวนี้นับว่าเป็นทีวี 4K ที่ให้ภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ได้ สังเกตุจากอุณหภูมิสีที่เครื่องวัดออกมาค่อนข้างจะแตกต่างจากค่ามาตรฐานอยู่ระดับหนึ่ง ทว่าหากลองพิจารณาด้วยตาเปล่าแล้วจะพบว่าตัวภาพไม่ได้ดูเลวร้ายอย่างที่ตัวเลขจากเครื่องวัดได้ฟ้องออกมา โดยรวมยังคงเป็นทีวีที่อัดแน่นไปด้วยสารพัดฟีเจอร์ตามสไตล์ TCL เช่นเคย ที่สำคัญคือราคาไม่แรงจนเกินไปแต่ได้จอโค้งและภาพความละเอียดแบบ Ultra HD ซึ่งจะได้เปรียบเรื่องความคมชัดในการรับชมภาพยนตร์แบบ Full HD  อันเนื่องมาจากจำนวนเม็ดพิกเซลที่มากกว่านั่นเอง

คราวนี้มาพูดถึงพัฒนาการของตัวทีวีจากปีที่แล้วซึ่งผมได้เคยให้โจทก์ทาง TCL ไว้ พอได้ทดสอบทีวีตัวนี้ก็พอจะสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงบางอย่างในทิศทางที่ดีขึ้น การใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ เริ่มมีให้เห็นในงานดีไซน์อย่างเช่นตัวทีวีและรีโมท ที่ดูเข้าใจง่าย(แต่กดยากไปนิด) ก็ต้องขอชมว่าเริ่มที่จะมาถูกทางแล้ว ตัวฮาร์ดแวร์ภายนอกสอบผ่านแล้ว เหลือก็แค่ซอฟต์แวร์หลักอย่างประสิทธิภาพของภาพ ถ้าได้มีการพัฒนาให้เข้าใกล้มาตรฐานมากขึ้น หรือปรับเมนูในตัวเครื่องให้ใช้ง่ายและเข้าถึงได้ภายในไม่กี่ขั้นตอน จะช่วยเสริมให้ทีวีแบรนด์นี้ตีคู่เข้ามาเป็นหนึ่งในตัวเลือกสำคัญของผู้บริโภคได้ในไม่ช้าครับ

ข้อดี
– งานดีไซน์จอโค้งสวยงาม การประกอบแข็งแรงและดูมั่นคงกว่าแต่ก่อน
– การแสดงผลภาพดีขึ้นและเริ่มจะใกล้ระดับมาตรฐานมาเรื่อยๆ
– ตัวเครื่องสามารถอ่านไฟล์ 4K บางชนิดได้ทันทีจาก External Harddisk เป็นสัญญาณว่าในอนาคตอาจจะไม่ต้องพึ่งเครื่องเล่นเลยก็ได้
– ฟีเจอร์ Android ที่ช่วยให้เราสามารถเพลินไปกับแอปพลิเคชั่นมากมายหลายประเภท

ข้อเสีย
– ค่าเบื้องต้นจากโรงงานแถม Sharpness มาเยอะไปหน่อย ควรปรับลดให้เหลือ 0 ไปเลยเพื่อที่จะลดความหยาบกร้านให้น้อยลง
– รีโมทแม้จะอ่านทำความเข้าใจง่าย แต่ปุ่มกดยากไปนิดนึง
– ตัวฟีเจอร์ Android บางส่วนยังทำงานได้ไม่ 100% อย่างตอนทดสอบเล่นเกมเราจะไม่สามารถใช้รีโมทบังคับอะไรได้ ยกเว้นออกจากเกมอย่างเดียว
– หน้าตาเมนูในเครื่องไม่ค่อยสวย นอกจากนี้ยังหน่วงเล็กน้อย ไม่ควรกดหลายอย่างในเวลาเดียวกัน

คะแนน

ดีไซน์ (Design)
8.5
ภาพ 2 มิติ ก่อนปรับภาพ (2D Picture Pre-Calibrated)
7.5
ภาพ 2 มิติ หลังปรับภาพ (2D Picture Post-Calibrated)
8.0
ภาพ 2 มิติ (HDR)
7.5
เสียง (Sound)
7.5
การเชื่อมต่อ (Connectivity)
8.0
ลูกเล่น (Features)
8.5
ความคุ้มค่า (Value)
7.0
คะแนนตัดสิน (Total)
7.8

TCL 55H9600

7.8