08 Feb 2018
Review

รีวิว TCL 55P6US ทีวี 4K HDR รุ่นใหม่ ถูกใจทั้งคุณภาพ และราคา!!


  • Dear_Sir

ภาพ

TCL P6US เป็นซีรีส์ที่มาแทนที่ P2US ของปีก่อน ตัวนี้รองรับ 4K HDR ผ่านทาง HDMI ทุกช่อง โดยเทคโนโลยี HDR ที่รองรับก็มีทั้ง HDR, HDR10 และ HLG ใช้พาเนลแบบ VA เรียงเม็ดสีแบบ RGB เท่าที่สังเกตดูถือว่าเป็นพาเนล VA ที่มีคุณภาพมากทีเดียว เพราะระดับสีดำทั้งได้ดี อีกทั้งมุมมองด้านข้างไม่ได้ย่ำแย่เหมือนพาเนล VA ทั่วไป เท่าที่ผมได้รับชมด้วยตัวเอง หากเรานั่งเว้นระยะจากทีวีสักหน่อย มุมมองด้านข้างแทบจะไม่เป็นปัญหาเลย แต่ถึงจะมุมเฉียงมากจนเกินไปก็ยังสามารถรับชมภาพในระดับที่ดีอยู่

เริ่มแรก จะเป็นการทดสอบภาพ 4K บน TCL 55P6US กันก่อน โดยเรื่องที่เปิดก็คือ Dunkirk ที่เพิ่งจะได้มาสดๆ ร้อนๆ เลย พอใส่แผ่นเข้าไปปุ๊บก็มีป๊อบอัพแจกเตือนแสดงผล HDR ขึ้นมาทันที ถือว่าดีมาก เพราะทำให้เรามั่นใจได้เลยว่าตอนนี้นะเราชมภาพแบบ HDR กันอยู่จริงๆ หลังจากเลือกฉากที่ชอบแล้วผมก็ลองมานั่งดูอยู่นานสองนาน แอบคิดในใจไปว่า “เฮ้ย! ภาพมันดูดีไม่แพ้ตัว C2US เลย” ด้วยความที่กลัวจะคิดไปเองคนเดียวจึงได้ลากทีมงานท่านอื่นมาดูด้วย ผลสรุปก็ออกมาในทิศทางเดียวกัน ความคมชัด สีสัน ระดับความดำ ในการรับชมจุดกึ่งกลางถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีมาก เมื่อเทียบกับตัวอื่นๆ ในระดับราคาเดียวกัน โดยโหมดภาพที่ผมเลือกใช้ก็เป็นโหมด Movie ครับ ติดโทนอุ่น สไตล์โรงภาพยนตร์ ดูแล้วสบายตา

ภาพดีเกินตัวนะบอกเลย

ส่วนภาพแบบ HDR ผมเลือกที่จะทดสอบกับภาพยนตร์เรื่อง Transformer ภาค The Last Knight ในช่วงที่หุ่นยนตร์ยิงแสงเลเซอร์ หรือฉากระเบิดต่างๆ ต้องยอมรับว่าแสงมันไม่ได้เจิดจรัสอย่างในรุ่นท็อป แต่ถ้าหากเทียบกับภาพแบบปกติ ก็ถือว่ากินขาด สร้างอรรถรสในการรับชมให้มากขึ้นหลายช่วงตัวเลยทีเดียว ที่สำคัญตัวนี้รองรับ HDR แบบ HLG (Hybrid Log Gamma) ด้วย เพราะในปัจจุบันก็เริ่มมีไฟล์ที่ใช้ HDR แบบ HLG มาบ้างแล้ว ใครมีไฟล์ประเภทนี้อยู่ก็สามารถเปิดเล่นได้เลย จากการวัดค่า Peak Brightness ด้วยเครื่องมือของทีมงานค่าความสว่างสูงสุดในโหมด Movie จะอยู่ที่ 276 nits และโหมด Natural จะอยู่ที่ 313 nits 

ส่วนภาพแบบ HDR ผมเลือกที่จะทดสอบกับภาพยนตร์เรื่อง Transformer ภาค The Last Knight ในช่วงที่หุ่นยนตร์ยิงแสงเลเซอร์ หรือฉากระเบิดต่างๆ ต้องยอมรับว่าแสงมันไม่ได้เจิดจรัสอย่างในรุ่นท็อป แต่ถ้าหากเทียบกับภาพแบบปกติ ก็ถือว่ากินขาด สร้างอรรถรสในการรับชมให้มากขึ้นหลายช่วงตัวเลยทีเดียว ที่สำคัญตัวนี้รองรับ HDR แบบ HLG (Hybrid Log Gamma) ด้วย เพราะในปัจจุบันก็เริ่มมีไฟล์ที่ใช้ HDR แบบ HLG มาบ้างแล้ว ใครมีไฟล์ประเภทนี้อยู่ก็สามารถเปิดเล่นได้เลย จากการวัดค่า Peak Brightness ด้วยเครื่องมือของทีมงานค่าความสว่างสูงสุดในโหมด Movie จะอยู่ที่ 276 nits และโหมด Natural จะอยู่ที่ 313 nits 

ป๊อบอัพ HDR แสดงผลขึ้นมาชัดเจน
เล่นเกมสนุก! ลื่น!
เปิดแผ่น Full HD ทดสอบระบบอัพสเกล สามารถให้ความคมชัดได้ใกล้เคียงกับ 4K

จุดเด่นอีกเรื่องที่ไม่บอกก็คงไม่ได้คือรุ่นนี้มีการแบ่งแยกโหมดภาพระหว่าง HDR กับ SDR อย่างชัดเจน (รุ่นก่อนปรับรวมกัน) ทำให้คนที่มีพื้นฐานปรับภาพหน่อยสบายตัวกันเลยทีนี้ จากค่าที่วัดได้เดิมๆ จากโรงงาน โหมดภาพ Movie ที่ทางเราแนะนำกันไป ถือว่ามีอุณหภูมิสีที่ดี มีความเที่ยงตรงพอสมควร โดยเฉพาะการชมภาพแบบ HDR ติดเล็กน้อยตรงที่โหมด SDR สามารถให้ผู้ใช้ปรับแต่งภาพเบื้องลึกได้มากกว่าโหมด HDR อย่างเช่น 2P WB, 10 WB และ CMS แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นค่าเดิมๆ จากโรงงานของโหมด HDR ก็ถือว่าดูดีอยู่แล้วครับ ขอบเขตสียังไม่รองรับ Wide Color Gamut ครอบคลุมแค่ราว 74.3% ของ DCI-P3 หรือประมาณ 95.3% ของ Rec.709 

หลังปรับภาพอุณหภูมิสีดีมากเลยทีเดียวอยู่ทีี่ 6606K
ก่อนปรับภาพ โหมด SDR
หลังปรับภาพโหมด SDR แม่สีทั้งสามถูกปรับจูนอยู่ในระนาบเดียวกัน มีแกว่งเล็กน้อย
ชมดิจิตอลทีวีคมชัด แชนแนลลิสต์แบ่งแยกชัดเจนพร้อมมีชื่อรายการกำกับ แต่เปลี่ยนช่องช้าไปนิดนึง