ภาพ
มาถึงเรื่องของการใช้งานจริงกันบ้างแล้วล่ะ เนื่องด้วยหน้าจอ Vertex Easy-Fold Projection Screen ที่เราได้นำมารีวิวในครั้งนี้มีขนาดใหญ่ถึง 200 นิ้ว โปรเจคเตอร์ที่จะรองรับการฉายภาพขนาดใหญ่แบบนี้จึงมีตัวเลือกอยู่ไม่มากนัก ทีมงานจึงลงความเห็นว่าสมควรใช้ BenQ W11000 ซึ่งเป็น 4K DLP Projector มาใช้ในการฉายภาพ ดังนั้นรีวิวนี้เราจะรับชมที่ความละเอียดระดับ 4K ก็แล้วกันนะ เพราะว่าเราใช้ทั้งโปรเจคเตอร์ เครื่องเล่น และแผ่นภาพยนตร์ ที่มีความละเอียดสูงทั้งชุดเลยก็ว่าได้
โดยจากรายละเอียดที่ได้จากหน้าจอแบบ Rear Projector Screen คือตัวสีสันของภาพที่ถูกฉายลงบนเนื้อจอจะมีการเกลี่ยรายละเอียดของสีได้ค่อนข้างเนียนไม่ฟุ้งจนเกินไปและยังให้ความรู้สึกที่นวลตาอีกด้วย ในส่วนรายละเอียดของวัตถุต่างๆ หรือแม้กระทั้งตัวละครต้องขอบอกเลยว่าเมื่อมีการใช้งานร่วมกับโปรเจคเตอร์ 4K แล้วความละเอียดขอภาพที่ถูกถ่ายทอดลงบนเนื้อจอถือว่าเนียนเกินคาดกับหน้าจอ Projector Screen แบบอเนกประสงค์ที่เน้นเคลื่อนย้ายตัวนี้
ต้องขอบอกเลยว่าตัวหน้าจอนั้นสามารถเกลี่ยรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างเรียบเนียนและคมชัดอยู่ในระดับที่ดีเลยทีเดียว จากภาพด้านบนที่บริเวณใบหน้าของตัวละครและรายละเอียดอย่างรอยยับบนเสื้อสูทก็สามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างคมชัด
สรุป
Vertex Easy-Fold Projection Screen เป็นหน้าสำหรับรับภาพจากเครื่องฉายโปรเจคเตอร์ที่สามารถถอดประกอบได้อย่างง่ายดายด้วยการใช้คนประกอบเพียง 2-3 คนก็สามารถใช้งานได้แล้ว โดยการนำไปใช้งานสามารถใช้ได้ทั้งกลางแจ้งและในร่ม เป็นหน้าจอ Projection Screen ที่มีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 120 ไปจนถึง 240 นิ้ว และในแต่ละขนาดหน้าจอสามารถเลือกได้หลายแบบ คือจะเอาแบบที่มาพร้อมกับหน้าจอชนิด Front Projector Screen หรือจะเลือกเป็นหน้าจอแบบ Rear Projector Screen ก็ได้ และถ้าต้องการแบบที่มาพร้อมกับหน้าจอทั้ง 2 แบบเลยก็มีเช่นกัน ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไปตามชนิดของหน้าจอที่เลือกใช้งาน
ราคาโดยประมาณของเจ้า Vertex Easy-Fold Projection Screen 200″ จะมีดังนี้
1. Vertex Easy-Fold Projection Screen (Front) = 51,000 บาท
2. Vertex Easy-Fold Projection Screen (Rear) = 59,900 บาท
3. Vertex Easy-Fold Projection Screen (Front+Rear) = 67,000 บาท