Setup – การติดตั้ง
การติดตั้งลำโพงเซ็ตนี้นั้นไม่มีอะไรซับซ้อนมากมาย เริ่มจากดูแผนผังด้านบนเพื่อเช็คตำแหน่งคร่าวๆ ก่อนว่าควรที่จะวางลำโพงตัวไหนที่บริเวณใด ซึ่งหัวใจหลักก็คือคู่หน้าที่ควรจะมีระยะห่างจากกันอย่างต่ำ 2 เมตร เพื่อเวทีเสียงที่กว้างพอเหมาะกับการดูภาพยนตร์ เสร็จคู่หน้าก็ไปเช็คเซอร์ราวด์ด้านหลังสองตัว โดยตำแหน่งที่แนะนำก็คือข้างจุดนั่งฟังเลยครับ พยายามวางให้ได้ระดับตรงหูพอดี ไม่ควรต่ำหรือสูงจนเกินไป
เมื่อจัดได้ตำแหน่งก็เริ่มจูนเสียงกันตามลำดับ กรณีที่นำลำโพงชุดนี้ไปแทนที่ชุดลำโพงเดิมที่ใช้งานอยู่ ผมแนะนำให้ทำการรีเซ็ตแอมป์ให้เรียบร้อยก่อน เพื่อคืนค่าเริ่มต้นจากโรงงาน จากนั้นก็ไล่ปิดพวกฟีเจอร์สีสันที่ส่งผลกับ EQ ให้หมด ส่วนใหญ่จะซุกซ่อนไว้ตามเมนูเสียงของแอมป์ท่าน สำหรับผมที่รีวิวนี้เราใช้ Onkyo TX-SR608 ก็จะเป็นพวก Audyssey EQ ครับ
อันดับแรกเราจะเริ่มปรับ Speaker Configuration ให้เหมาะสมกับตัวลำโพงที่ใช้งานก่อน โดยเลือกขนาดของลำโพงเป็น Small ปรับจุดตัดความถี่ไปที่ช่วงความถี่สูงสุด ในที่นี้ปรับไปที่ 200Hz เพื่อโอนช่วงความถี่ต่ำไปให้ซับวูฟเฟอร์ช่วยขับ จากนั้นก็ให้ไปปรับระยะห่างระหว่างลำโพงกับจุดฟังให้ได้ค่าใกล้เคียงกับตัวเลขที่อ่านได้จากตลับเมตร
เมื่อตั้งค่าถูกต้องแล้วก็เริ่มวัดระดับเสียงที่ลำโพงแซทเทิลไลท์ก่อนครับ โดยเราจะใช้ Sound Level Meter ช่วยอ่านค่า หรือใครที่มั่นใจในหูของตัวเองก็สามารถปรับเอาเองได้เลย โดยเราจะต้องเกลี่ยเสียงของลำโพงทุกแชนแนลให้เท่ากันเพื่อปิดรอยต่อระหว่างเสียงให้เนียน เพื่อให้การโยนเสียงระหว่างแชนแนลทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สุดท้ายเราก็จะมาลองเซ็ตอัพซับวูฟเฟอร์กัน ซึ่งเราไม่สามารถใช้ Sound Level Meter ช่วยได้เพราะตัวเครื่องอาจจะไม่ได้ออกแบบมาให้รับความถี่ต่ำได้ดีมากนัก ถึงตรงนี้ก็ขอให้ลับประสาทหูให้เฉียบคมไว้ แล้วหยิบแทร็คเพลงที่คุณคิดว่าให้เบสที่สะอาดสมจริง มีไดนามิคเป็นเลิศมาเปิด จากนั้นหมุน Volume ไปที่ตำแหน่งเที่ยงตรง ปรับเฟสไปที่ 0 องศา และสุดท้าย crossover หมุนมาที่ตำแหน่งสูงสุด (150Hz) เพื่อเป็นการบายพาสวงจรครอสโอเวอร์ในลำโพงซับวูฟเฟอร์ และใช้ที่เราปรับไว้ที่ตัวแอมป์แทน
พอปรับทุกอย่างเสร็จก็เปิดแทร็คที่เตรียมเอาไว้ แล้วฟังเบสที่ออกมา หากมีลักษณะเป็นทรงกลมแน่นลอยขึ้นมาจากพื้นห้องก็ถือว่าใช้ได้ แต่ถ้าฟังแล้วเบสบวมหรือเบสหาย ก็ให้ลองปรับลดระดับ ระหว่าง Volume กับ Crossover จนได้อิมเมจของเบสที่ใกล้เคียงกับค่าที่เราต้องการมากที่สุด ทั้งหมดนี้คือวิธีการตั้งค่าชุดโฮมเธียเตอร์แบบแมนนวลคร่าวๆ ซึ่งในความเป็นจริงอาจจะมีความซับซ้อนมากกว่านี้อีกพอสมควร แต่เพียงเท่านี้ก็น่าจะได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นที่พอใจในระดับหนึ่งแล้ว
สำหรับทางเลือกอื่นหากเห็นว่าขั้นตอนข้างต้นดูซับซ้อนไป และมั่นใจว่า AVR ที่ท่านใช้งานอยู่นั้นมีระบบ Speakers Auto Calibration ที่เที่ยงตรงพอ อาจจะใช้งานระบบอัตโนมัติในการกำหนดตั้งค่าลำโพงแทนได้
Sound – เสียง
เช่นเคยเมื่อได้ลำโพงมาเป็นเซ็ต เราก็ควรต้องเปิดเบิร์นในโหมด All Channel Stereo ไปสักระยะ เพื่อให้ไดร์เวอร์ได้สัมผัสกระแสอิเล็กตรอนกันสักหน่อย ผมหยิบเอาแผ่นอินดี้ป็อปของสาวเก่ง Lorde – Pure Heroine ขึ้นมาฟังในเพลง Royal ที่มีมิติเสียงชัดเจนแยกแยะสูงต่ำหน้าหลังได้ง่าย
แม้ว่าจะเป็นลำโพงเซ็ตเล็ก แต่การเซ็ตอัพที่ดีจะช่วยดันประสิทธิภาพให้ออกมาดียิ่งขึ้นได้ เช่นเดียวกันกับเซ็ต MovieStar MS-100 HCP ตัวนี้ การทำงานตอบสนองความถี่ร่วมกันระหว่างลำโพงแซทเทิลไลท์และซับวูฟเฟอร์ ช่วยให้เวทีเสียงมีความหนาแน่นต่อเนื่องฟังแล้วเป็นแผ่นเดียวกันทั้งซิสเต็ม
เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะ ก็ได้เวลาสลับมาดูหนังกัน โดยผมเลือกใช้ซีนแรกจาก The Dark Knight ในการเบิกฤกษ์เช่นเคย จุดที่เราจะทดสอบฟังนั้นมีหลายที่มาก เช่น ฟังมิติเสียงจากการโหนตัวไปมาช่วงแรก หรือจะเป็นช่วงการสนทนาภายในที่เราจะได้ฟังเสียงสะท้อนก้องไปมาคล้ายกับว่าเรานั้นอยู่ในโถงธนาคารด้วย แน่นอนว่าลำโพงชุดนี้แม้จะตัวเล็ก แต่การจำลองห้องเสียงที่โอบล้อมทำได้ดีทีเดียว เสียงสะท้อนที่ออกมาดูจับต้องได้และมีทิศทางที่แน่นอน
สลับไปฟังเสียงที่รุกเร้าขึ้นเล็กน้อย กับฉากต่อสู้ระหว่าง Mr. กับ Mrs. Smith ที่เราจะได้ยินเสียงชิ้นส่วนของเฟอร์นิเจอร์ในบ้านกระจายเป็นเสี่ยงๆ จากการยิงถล่มกันอย่างเมามันส์ ผมลองขยับแซทเทิลไลท์คู่หน้าให้โทอินเข้ามาหาจุดนั่งฟังบริเวณกลางห้อง เพื่อขับเอาเสียงเศษซากต่างๆ ให้คมชัดยิ่งขึ้น โดยผลลัพธ์ที่ออกมาก็เรียกว่าช่วยเสริมให้ลำโพง Wharfedale เซ็ตนี้ดูเหมาะเป็นลำโพงดูหนังที่กระชับเก็บตัวไว และตอบสนองได้ดีกับทุกจังหวะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลยทีเดียว