27 Sep 2021
Review

รีวิว Xiaomi FlipBuds Pro หูฟัง True Wireless ดีไซน์สวยหรู มาพร้อมฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน Active Noise-cancelling


  • TopZaKo

เสียง และ ทดสอบการใช้งาน

มาเริ่มทดสอบเสียงกัน

ตัวหูฟังใช้ไดร์เวอร์แบบ Dynamic Driver ขนาด 11 มิลิเมตร ที่ถูกปรับแต่งจูนเสียงโดย Xiaomi Sound Lap ตอบสนองความถี่ได้ตั้งแต่ 20 Hz ถึง 20,000 Hz ใช้การเชื่อมต่อเป็น Bluetooth 5.2 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดในท้องตลาด รองรับการถอดรหัสสัญญาณเสียงในรูปแบบ SBC, AAC, aptX และ เสียงระดับ Hi-Res อย่าง aptX Adaptive Dynamic ได้ด้วย แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์นำมาใช้งานด้วยนะครับ

***ในการทดสอบทางผู้รีวิวไม่มีมือถือที่รองรับการส่งสัญญาณ Bluetooth แบบ aptX Adaptive Dynamic เลยไม่ได้ทำการทดสอบตรงจุดนี้***

ทดสอบการฟังเพลงและแนวเสียง

ทดสอบเสียงคู่กับ iPhone X ผ่าน Apple Music

ในเรื่องของเสียงหูฟังตัวนี้จะออก แนวเสียง แบบเป็นกลาง ไม่ได้โดดเด่นย่านไหนเป็นพิเศษ เสียงเบสต้นจะมีปริมาณค่อนข้างมาก มีมวลที่ใหญ่ มาเป็นลูกๆ ในระดับหนึ่งแต่ไม่ถึงกับคมชัด เบสย่านลึกลงได้ในระดับหนึ่ง เสียงกลางออกนุ่มนวลฟังสบาย เสียงแหลมจะมาในระดับพอดีๆ ไปทางแนวซอฟต์นิดหน่อย

โดยรวมจะออกไปใน 2 ทางหลักๆ คือหากนำไปฟังเพลงสตริงทั่วไป เพลง Pop ถือว่าดีเลยทีเดียว เสียงจะออกนวลๆ ฟังสบาย ฟังนานๆ ไม่ล้าหู แต่ถ้าหากเป็นเพลงที่จังหวะสนุกๆ อย่างเพลง Dance Hip-Hop หรือ Rock ก็ให้เสียงเบสที่ดีในระดับที่ฟังสนุก แต่ด้วยความที่เสียงกลาง เสียงแหลม รวมถึงเสียงร้องจะไม่ได้จัดจ้านตามถ้าฟังเพลงแนวดังกล่าวนี้นานๆ อาจจะเกิดอาการล้าหูบ้างเล็กน้อย แต่ก็มีวิธีแก้ไขเป็นทริคเล็กๆ น้อยๆ ที่จะแนะนำให้ในส่วนถัดไป

สวมใส่สบาย เขากับรูหูได้เป็นอย่างดี

ในการ ทดสอบ ระบบตัดเสียงรบกวนภายนอกหรือ Active Noise-cancelling ถือว่าทำได้ดีในระดับนึงเลย จากที่ได้ลองนำหูฟังไปใส่เดินอยู่ริมถนนที่มีรถขับผ่านไปมาตลอดเวลา พร้อมกับเปิดเพลงไปด้วย เรียกว่าแถบจะไม่ได้ยินเสียงรถมากวนเสียงเพลงของเราเลย ประจวบเหมาะกับมีช่วงหนึ่งมีคนงานมาตัดหญ้าที่ออฟฟิศพอดีเลยได้ลองนำหูฟังไปทดสอบกันหน่อยพบว่าถือว่ากันเสียงได้ในระดับหนึ่งแต่จังหวะที่เสียงดังมากๆ อาจมีเล็ดลอดเข้ามาบ้างแต่ถ้าเราไม่ได้ตั้งใจไปจับผิดก็ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว

ส่วนอีกฟีเจอร์ขั่วตรงข้ามอย่าง Transparency Mode ส่วนผมค่อนข้างชอบเลย เพราะส่วนใหญ่ผมชอบฟังเพลงในเวลาทำงานและมักจะมีคนเรียกเราหรือต้องการคุยกับเราอยู่บ่อยๆ จะถอดหูฟังเข้าออก หรือจะกดเปิดปิดโหมดนี้ก็อาจไม่ทันใจในบางครั้ง ผมจึงชอบเปิดโหมดนี้ไว้ทำให้เราสามารถฟังเพลงได้พร้อมกับยังคงได้ยินเสียงคนรอบข้างเหมือนเดิม

ข้อสังเกตและทริคในการใช้งาน

จากที่ผมได้ลองฟังเพลงพร้อมกับใช้งานทั้ง 2 โหมด ระหว่าง Active Noise-cancelling และ Transparency Mode สลับกันไปมา พบว่ามีผลต่อเนื้อเสียงอยู่ในระดับหนึ่ง ซึ่งหากเราเปิด Active Noise-cancelling เสียงโดยรวมจะมีความคมชัดขึ้นเพราะไม่มีเสียงอื่นๆ มาคอยรบกวน แต่ในบางครั้งอาจรู้สึกว่าเสียงอาจจะชัดจนขาดความเป็นธรรมชาติไปบ้าง ให้ลองสลับมาเป็น Transparency Mode เสียงที่ได้จะมีความใสโปร่งสบายเป็นธรรมชาติมากขึ้นแต่ก็ต้องแลกกับเสียงภายนอกที่จะเข้ามาในหูฟังของเราแทน เรียกว่าสามารถเลือกใช้งานระหว่าง Active Noise-cancelling และ Transparency Mode ตาม Life Style ของแต่ละคนได้เลย

ทดสอบดูหนัง เล่นเกม

ทดสอบดูหนังกับแอป Disney + hotstar
ทดสอบเล่นเกม ROV

ในส่วนของการทดสอบการดูหนัง และ เล่นเกมนั้นถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว ทำให้เราสามารถรับรู้ทิศทางของตัวละครจากในหนังหรือศัตรูจากในเกมว่ามาจากทิศทางไหนอย่างชัดเจน แถมยังได้เนื้อเสียงโดยรวมเสียงเอฟเฟกต์ต่างๆ ที่มีความกระหึ่มเต็มอรรถรสมากขึ้นกว่าลำโพงของตัวมือถือหลายเท่าตัว นอกจากนี้ยังมีการส่งสัญญาณที่ฉับไว ไม่มีอาการดีเลย์ของเสียงให้เห็นแต่อย่างใด สามารถดูหนังเล่นเกมได้อย่างราบลื่นจริงๆ ครับ

ทดสอบคุยโทรศัพท์

นอกจากใช้ฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกมได้แล้ว Xiaomi FlipBuds Pro ตัวนี้ยังมาพร้อมไมโครโฟนที่ใช้คุยโทรศัพท์ได้ด้วย จากที่ทดสอบเสียงของเราที่ถูกส่งไปยังปลายทาง ถ้าอยู่ในที่ที่มีเสียงรบกวนไม่มากนั้นทำได้ดีเลย แต่ถ้าอยู่ในที่ที่มีเสียงรบกวนค่อนข้างมากในบางจังหวะ เสียงพูดของเราอาจมีความเบาบางไปบ้าง แต่โดยรวมถือว่าไม่มีปัญหาต่อการใช้งานแต่อย่างใด ส่วนเรื่องเสียงปลายทางมาสู่หูฟังของเรานั้นให้เสียงที่ดังฟังชัดเจนเป็นปกติ

สรุป

Xiaomi FlipBuds Pro เป็นหูฟัง True Wireless ไร้สาย ที่ให้เสียงที่ออกแนวนุ่มนวลฟังสบาย มีเบสให้ในระดับที่ฟังสนุกก็ได้ ฟังเพราะก็ดี ใช้การส่งสัญญาณเป็น Bluetooth 5.2 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดในท้องตลาด มาพร้อมฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนอย่าง Active Noise-cancelling และ Transparency Mode ให้เราเลือกใช้งานได้ตามใจชอบ ตัวหูฟังและเคสมีน้ำหนักเบา ขนาดเล็กกะทัดรัด มีดีไซน์ที่สวยงามให้ความรู้สึกเรียบหรู ดูแพง ถือว่าเป็นหูฟังอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจไม่น้อย ณ เวลานี้เลยครับ

ข้อดี

  • ตัวหูฟังมีดีไซน์ที่ให้ความรู้สึกเรียบหรู ดูแพง สมราคา
  • เคสชาร์จมีขนาดที่ค่อนข้างเล็กและเบาพกพาง่าย ใส่กระเป๋ากางเกงได้
  • รองรับการถอดรหัสสัญญาณเสียงระดับ Hi-Res ผ่านเข้ารหัสแบบ aptX Adaptive Dynamic
  • มีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนภายนอกอย่าง Active Noise-cancelling และ Transparency Mode ให้เราเลือกใช้งานได้

ข้อเสีย

  • เคสและตัวหูฟังมีลักษณะมันเงา อาจเกิดร่องรอยในการใช้งานได้ง่าย
  • ณ เวลาที่ทดสอบตัวหูฟังจะรองรับเฉพาะการตั้งค่าแบบละเอียดเฉพาะกับมือถือ Xiaomi เท่านั้น ยังไมมีแอปสำหรับมือถือทั่วไป
  • การสั่งงานแบบบีบอาจใช้งานยากไปสักเล็กน้อย ต้องอาศัยความคุ้นชินในการใช้งาน

คะแนน

ดีไซน์ (Design)
8.50
เสียง (Sound)
8.00
ลูกเล่น (Features)
8.50
การเชื่อมต่อ (Connectivity)
8.50
ความคุ้มค่า (Value)
8.00
คะแนนตัดสิน (Total)
8.30

Xiaomi FlipBuds Pro

8.3

รายละเอียดข้อมูลการจัดจำหน่าย

●            ราคา 5,699 บาท

●            โปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ที่ซื้อระหว่างวันที่ 8-10 สิงหาคม 2564 จำหน่ายราคาพิเศษเพียง 5,199 บาท

Xiaomi FlipBuds Pro