21 Apr 2017
Review

รีวิว Yamaha YAS-306 เสียงเด่น ฟีเจอร์ดี ไม่ต้องมีซับฯ ก็เจ๋งได้!


  • boom

Sound – เสียง

Air Surround Extreme คือชื่อของระบบจำลองเสียงเซอร์ราวด์ของ Yamaha ที่ประยุกต์เอาทฤษฎีซึ่งว่าด้วยลักษณะเสียงที่เปลี่ยนแปลงจะแปรผันตามปัจจัยในเรื่องตำแหน่งและทิศทางของหูผู้ฟัง หรือที่เรียกกันว่า HRTF (Head Related Transfer Function) มาใช้ในการจำลองเสียงรอบทิศทาง

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก theheadphonelist.com

อธิบายง่ายๆ ให้ลองนึกถึงเสียงเครื่องบินครับ เวลาที่มันเคลื่อนที่จากหน้าไปหลัง เราจะได้ยินเสียงในความถี่และลักษณะที่แตกต่างกัน ฉะนั้นสิ่งที่ Yamaha ทำ ก็คือการปรับไดร์เวอร์ให้สามารถจำลองลักษณะการเคลื่อนที่ของเสียงเพื่อที่จะสร้างมิติทางด้านหลังผู้ฟังขึ้นมา จนเหมือนว่ามีลำโพงวางอยู่ด้านหลังจริงๆ

ผมเริ่มทดสอบด้วยการเสียบซาวด์บาร์ผ่านทางสาย Optical จากหลังเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งน่าจะเป็นช่องสัญญาณที่ดีที่สุดบน YAS-306 ที่สามารถเสียบกับคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะได้

ฟังเพลงกันก่อนกับแทร็คแจ๊ซมิติดี They All Laughed – Al Somma เสียงร้องโปร่งกังวาลถูกขับออกมาได้ชัดเจน พร้อมเสียงฉาบไรด์ที่เคาะคลอคอยให้จังหวะอยู่ไกลๆ ทั้งหมดถูกเรียบเรียงออกมาได้ไดนามิคดีทีเดียว ทำให้เราสามารถสัมผัสถึงสเตจเสียงและระยะห่างของชิ้นดนตรีกับนักร้อง

เปลี่ยนอารมณ์มาฟังคันทรี่นิดนึงกับเพลง Montana – James Taylor จุดเด่นของเพลงคือไลน์เบสอบอุ่นกับเสียงร้องคุ้นเคยในสไตล์คันทรี่ ถ้าฟังแบบธรรมดาเนื้อเสียงก็ออกมานวลเนียนกำลังดี แต่ส่วนตัวผมคิดว่ายังขาดแรงปะทะจากเบสไปนิด เลยกดปุ่ม Bass Extension บนรีโมทเพื่อเพิ่มระดับเสียงย่านความถี่ต่ำให้ดังขึ้นมาอีก ผลลัพธ์ที่ได้คือความหนาแน่น ช่วยเพิ่มความอบอวลให้กับเพลงขึ้นมาอีก เหมือนกับมีซับวูฟเฟอร์มาวางแยกอยู่ข้างๆ

เริ่มทดสอบดูหนังกันบ้าง โดยเรื่องที่ผมเลือกมาทดสอบได้แก่ Deep Water Horizon, The Magnificent Seven และหนังเก่าเสียงดีคุ้นหู The Dark Knight

ฉากสุดท้ายของ Deep Water Horizon คือการเอาชีวิตรอดท่ามกลางเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำบนแท่นขุดน้ำมัน ตลอดช่วงนี้เราจะได้ยินเสียงโครงเหล็กถล่ม แล้วก็เสียงเศษวัสดุตกหล่นรอบตัว แรกเริ่มฟังแบบเดิมๆ ไม่เปิดฟีเจอร์ช่วยอะไร เราจะได้ยินเสียงที่โอบล้อมเพียงด้านหน้าซ้ายขวาเท่านั้น แต่พอเราเปิดระบบจำลองเสียงเซอร์ราวด์ ก็เริ่มรู้สึกได้ถึงเสียงจากด้านหลังเพิ่มเข้ามา เรียกว่านั่งดูแล้วรู้สึกร้อนเหมือนอยู่กลางกองไฟจริงๆ (ลืมเปิดแอร์!)

ต่อด้วยฉากดวลปืนกลางเมืองของ The Magnificent Seven เสียงลูกกระสุนวิ่งเฉี่ยวไปมาคือใจความสำคัญในฉากนี้ ทิศทางเสียงซ้ายขวามีตำแหน่งจับต้องได้ ในจุดนี้ถ้าเราอยากได้เสียงพูดที่ชัดขึ้นสามารถเปิดใช้งานโหมด Clear Voice เพื่อยกฐานเสียงกลางให้เด่นขึ้นมาได้ เราก็จะได้ความชัดเจนของเสียงปืนและเสียงพูดที่เข้มข้นขึ้น

สุดท้ายด้วยฉากเปิดเรื่องของ The Dark Knight ที่ไล่เรียงมาครบตั้งแต่เสียงกระจกแตก เสียงปืน เสียงพูดของโจ้กเกอร์ เมื่อถูกขับผ่าน YAS-306 ก็ให้อารมณ์ลุ้นระทึกที่มากกว่าดูจืดๆ ผ่านลำโพงทีวี หลายเท่าตัว