เรื่องมีอยู่ว่า ช่วงเดือนที่ผ่านมาผมเกิดอาการคัน อยากได้ทีวีเครื่องใหม่
แม้ว่าเครื่องเดิมที่ใช้จะเป็น
Panasonic plasma 55VT60 ที่ให้ภาพดีมากๆอยู่แล้ว
แต่ก็อยากเปลี่ยนอารมณ์เปลี่ยนแนวภาพบ้างชีวิตจะได้มีรสชาติ
โดยมีเงื่อนไข คือ ไซส์ไม่ต่ำกว่า49 และทีวีตัวใหม่ต้องมีความอินดี้แต่ยังอยู่บนพื้นฐานของภาพที่ถูกต้องด้วย
ว่าแล้วก็เตรียม external HDD ที่บรรจุไฟล์ทุกชนิดที่ผมใช้ทดสอบภาพประจำอยู่ที่บ้านไปด้วย
ซึ่งมีตั้งแต่ไฟล์ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว 240p 480p 720p 1080i 1080p ไปจนถึงไฟล์ 4K และ 4K HDR
ชวนเพื่อนไปด้วยสองคน ไปลองกันหลายร้านเลยครับ
ลำดับแรกสุด
sony W800C vs sony X8300Cที่สนใจ W800C ก็เพราะรุ่นนี้ น้า(น้องของแม่) และ อา(น้องของพ่อ) ใช้อยู่
ซึ่งผมก็ได้ไปลองมาแล้วหลายครั้งและเขียนลงกระทู้รีวิวไปแล้ว ซึ่งเป็นจอ full HD ที่คุณภาพอยู่ในระดับน่าพอใจมากๆ
อีกตัวเลือก คือ X8300C 4K ระดับบ๊วยขวัญใจประชาชี
บังเอิญว่าสองรุ่นนี้ ไซส์ 43นิ้ว วางติดกันพอดี และเปิดไฟล์โชว์ภาพเดียวกันอยู่
ผมเลยถามเพื่อนทั้งสองคนว่า ตัวไหนภาพดีกว่ากัน
เพื่อนคนที่1 บอกว่าชอบภาพของ X8300C มากกว่า เพราะสีดูสดกว่า
เพื่อนคนที่ 2 บอกว่าชอบภาพของ W800C มากกว่าแต่อธิบายไม่ได้ว่าเพราะอะไร
ส่วนตัวผมจากที่ดูนั้นถ้าเป็นภาพปกติทั่วไป สองรุ่นนี้แทบจะไม่ต่างกันเลย
แต่พอถึงภาพที่ฉากหลังเป็นสีดำแล้วมีวัตถุอยู่บนจอ W800C มิติของวัตถุจะตัดกับสีดำลอยเด่นขึ้นมาทันที
ในขณะที่ X8300C สีดำจะออกเทาๆ มิติไม่ลึก ทั้งสีดำและวัตถุจะอยู่ในระนาบเดียวกัน ไม่โดดเด่น
ส่วนเสียงลำโพงทั้งสองรุ่นอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานปกติของ sony นั่นคือ พอฟังได้ แต่ไม่ถึงกับดี
จากนั้นได้ลองดู LG หลายรุ่น แต่ดูผ่านๆแต่ไม่ได้ทดสอบครับ เพราะแนวสีของ LED LG ไม่ใช่แนวที่ผมต้องการ...
ต่อมาไปลอง
sharp 58UE630X รุ่นนี้น่าสนใจตรงที่ราคาลดลงมาเยอะ 58นิ้ว เหลือประมาณ 36000 บาท
ผลปรากฏว่าภาพรุ่นนี้อินดี้เกินไปครับ สีนี่อมฟ้าไปหมด แถมเนื้อสีออกโทนดิจิตอล สด เข้ม เกินไป
จนดูวัตถุอะไรก็เป็นพลาสติกไปหมด ไม่ว่าจะใช้ภาพโหมดไหนก็ตาม ซึ่งมันอินดี้หลุดโลกไปไม่ใช่อินดี้แนวผม ๕๕๕๕
แล้วก็ได้ไปลอง
sony 55X8500C รุ่นนี้ของหายากมากๆแล้ว แต่ก็ยังเหลือตัวโชว์สภาพเน่าๆอยู่ที่บางร้าน ๕๕๕๕๕๕
นิยามของแนวภาพรุ่นนี้คือ W800C ที่เป็น4K นั่นเองครับ ภาพแนวเดียวกัน
โทนสีติดไปทางอบอุ่น สุภาพ ดูเป็นภาพยนตร์
โหมด custom กับ cinema home, cinema pro สีก็ออกโทนติดฝุ่นเล็กน้อย
ลองเปิดไฟล์ 1080p การอัพสเกลผมว่ายังทำได้แค่กลางๆครับ ภาพจะติดสากๆแห้งๆ ยังคงเห็น noise
ทำให้ภาพดูไม่เคลียร์เท่าไหร่
และภาพเคลื่อนไหวก็ยังอยู่ในระดับกลางๆ คือยังเห็นทั้งอาการสั่น และเงาลากตามวัตถุเช่นเดียวกับ W800C
ลองเปิดไฟล์4K ผมก็ยังไม่รู้สึกตื่นเต้นกับภาพที่ได้แต่อย่างใด คือมันดีขึ้นกว่า1080p น้อยมากครับ
คือ ถ้าจะเอารุ่นนี้ผมว่าไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ W800C ยังคุ้มเกินกว่า และดูไฟล์ 1080p ได้ภาพดีกว่าด้วยครับ
ใกล้ๆกันนั้น ก็มี
sony 55X8500D อยู่ก็เลยได้โอกาสลองด้วยเลย
แม้ว่าตัวผมจะไม่ค่อยชอบจอ IPS สักเท่าไหร่ แต่คราวนี้ขอเปิดใจลองสักตั้งครับ
ผลที่ได้คือ รุ่นนี้เปิดไฟล์ 4K ภาพดูดีกว่า X8500C ครับ ภาพมีความเนียนละเอียดและเปิดเผยมากกว่า
ส่วนไฟล์ 1080p เห็นได้ชัดเจนครับว่ารุ่นนี้อัพสเกลได้ดีกว่า X8500C ไปอีกขั้น คือสามารถเก็บรายละเอียดของวัตถุตามขอบภาพได้เป็นระเบียบไม่ฟุ้ง
ทำให้ได้โฟกัสของภาพที่ดี ดูรู้เรื่องกว่า
แถมภาพเคลื่อนไหวก็ก็ดีขึ้นด้วยครับ ไม่สั่นเยอะแบบ X8500C อีกแล้ว
ดูไฟล์ 1080p 24Hz ได้โดยไม่ต้องใช้ระบบแทรกเฟรมภาพช่วยก็ให้ภาพเคลื่อนไหวได้ดี
มาถึงข้อเสียบ้าง ข้อเสียอันดับแรกเลยคือ ลำโพงครับ เสียงแม่งไม่ไหว ห่วยกว่ารุ่น W800C เสียอีก
มันเล็กๆ แห้งๆ ไม่ค่อยมีเรี่ยวมีแรงเลย ข้อเสียอีกอย่าง คือ โหมด custom,cinema home,cinema pro
สีภาพดูติดโทนฝุ่นมากเกินไป เหมือนคนล้างฟิล์มหนังทำฟิล์มตกขี้โคลนมาเลยครับ ๕๕๕๕๕๕๕๕
รุ่นนี้จึงยังไม่ใช่สำหรับผม
ลอง sony มาหลายตัวแล้ว คราวนี้มาลองต่อกันที่ Panasonic กันบ้าง
รุ่นที่ผมสนใจก็คือ
panasonic 50CX600T ซึ่งราคาลดลงมามากแล้ว เหลือไม่ถึงสามหมื่นบาท
วัสดุโครงสร้างของตัวเครื่องนี่ยอมรับเลยครับว่า เกรดดีสุดๆ ดูมีระดับและแข็งแรงมากๆ
ใช้จอ black panel ให้สีดำที่ดำใสและลึกดีมากๆ แถมช่วยเพิ่มcontrastและลดแสงสะท้อน
ให้ดีขึ้นกว่ารุ่นอื่นๆที่เป็นจอนิ่มธรรมดาอย่างชัดเจนเลย
ภาพมีความโปร่ง สะอาดสะอ้าน และใสกระจ่างพอดี สีสันไม่ติดเข้มข้นเหมือนยี่ห้อsony
ทำให้ดูได้นาน ดูแล้วไม่รู้สึกอึดอัดเลย ระบบอัพสเกลก็ดีมากครับ คือ อัพสเกลได้อย่างเป็นธรรมชาติมาก
ดูไฟล์ 1080p หรือดูฟรีทีวี HD เหมือนกับดูบนจอ full HD เลย ไม่ยัดเยียดความเนียน ความคมเหมือนกับยี่ห้ออื่น
ภาพเคลื่อนไหวก็ดีโดยไม่ต้องเปิด motionแทรกเฟรมช่วย (ถ้าเปิดแทรกเฟรมไม่ว่าระดับไหนจะเห็นอาการวุ้นตามวัตถุ)
เสียงลำโพง ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี แนวเสียงจะมีความนุ่มนวล มีเนื้อหนัง ฟังแล้วผ่อนคลายตามสไตล์ Panasonic แถมรับประกันนานถึง 2 +1ปี ซึ่งผมเองก็ใช้ Panasonic หลายเครื่อง เคยส่ง plasma ไปเคลม
เขาก็ให้การบริการดีครับ อะไหล่สั่งจากนอก รอสองเดือน เปลี่ยนให้ฟรี(นานหน่อยแต่เปลี่ยนให้จริงไม่มีปัญหาแทรกซ้อน)
แต่ข้อเสียของรุ่นนี้ คือ ไม่รองรับ HDR ครับ แต่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด และคุ้มค่าที่สุด ณ ตอนนี้แล้ว
http://www.lcdtvthailand.com/webboard/index.php?topic=210393.0^
(CX600T 55นิ้ว อย่าไปซื้อนะจ๊ะ เพราะใช้จอด้านเกรดธรรมดา ภาพทสู้ 50นิ้วไม่ได้เลย)ต่อมาไปลอง ของแซมซังกันบ้าง
ลองตัวท๊อปเลยครับ
samsung 65KS9000 (เงินไม่ถึงหรอก ลองไปงั้นๆแหละ ๕๕๕๕๕)
ลองเปิดไฟล์ 4K demo ที่เตรียมไว้ ภาพอย่างโหดกระโดดปาดคอ
สีสันสดใส เปรี้ยวจี๊ดจ๊าด เปิดไฟล์ HDR ก็บ้าพลังอลังการงานสร้างเหลือเกิน
ลองกับไฟล์ 1080p ให้ทีวีอัพสเกลภาพ จะเห็นเลยครับว่า แนวการอัพสเกลของแซมซังนั้นจะต่างไปจากยี่ห้อญี่ปุ่น
คือ ภาพจะดูอิ่มมากๆ ให้มิติแถวลึกได้ดี แต่ดูๆไปก็เหมือนกับการจงใจอัพสเกลมากไป
มันหลอกๆตายังไงไม่รู้ โหมดภาพสำเร็จรูปยี่ห้อนี้ผมก็ชอบอยู่สองโหมดคือ ธรรมชาติ กับ ภาพยนตร์
แน่นอนครับว่าโหมดภาพยนตร์จะให้สีที่ถูกต้องที่สุด
และให้ภาพดูอ่อนโยนที่สุด แต่ผมดูแล้วก็ยังรู้สึกได้ว่าแนวภาพของ แซมซังนั้นรุกเร้าผู้ชมมากครับ
คือ ดูไปเรื่อยๆแล้วผมรู้สึกเหนื่อยมาก และ มีอาการเลี่ยนผสมด้วย
เนื่องจากสีของแซมซังนั้น สด อิ่ม เกินความเป็นจริงมากเกินไป เหมือเอาสีมาสาดใส่หน้าเรายังไงอย่างนั้น ๕๕๕๕
ภาพรวมก็จะดูใสเกินความเป็นจริง ไม่เหมือนภาพที่เราดูด้วยตาเปล่า
แต่จะเหมือนดูสิ่งต่างๆผ่านกระจกใสที่ใช้น้ำยาเช็ดกระจดขัดเงาเพราะมันใสไปหมด
พอเปลี่ยนมาดูรุ่นรองลงมาอย่าง
KS7500 ก็จะดูผ่อนคลายกว่าเดิม
ส่วนตัวผมว่า KS7500 นี่ภาพกำลังดีเลยสีมันดูไม่พุ่งใส่ตาเรามากเกินไปครับ
กลับมาที่ sony อีกครั้ง คราวนี้เป็นรุ่นทอป
sony 55X9300Dแม้ว่าภาพรวมรวมจนถึงภาพเคลื่อนไหวนั้นจะดีกว่า sony ตัวอื่นๆทุกตัว
แต่ผมก็ยังรู้สึกว่าไม่โดนใจเท่าไหร่ รุ่นนี้เปิดโหมดภาพ custom,cinema home ,cinema pro
สีก็ยังติดฝุ่นเหมือนsonyรุ่นอื่นๆ ซึ่งผมเองเคยได้ลอง sony ทั้งใช้เองเลยของเพื่อนมาหลายรุ่น
รุ่นเก่าๆสีมันไม่ติดฝุ่นเท่ารุ่นใหม่ๆนะ พอมาเจอแบบนี้ก็เลยไม่ชอบครับ(เงินไม่ถึงด้วยแหละ๕๕๕)
ตอนนี้ อันดับ1 ในใจ คือ
Panasonic 50CX600Tแต่.......
เหมือนผมจะมองข้ามรุ่นหนึ่งไป นั่นคือ........
sony 55X9000C รุ่นจอบางเฉียบ
ซึ่งก่อนหน้านี้ประมาณสองเดือนที่แล้ว อยู่ดีๆคืนหนึ่งผมก็ฝันว่าได้ลองรุ่นนี้เฉยเลย
ทั้งๆที่ผมไม่มีความต้องการหรืออยากได้จะได้รุ่นนี้เลยสักนิด แม้จะได้ดูรุ่นนี้ตามร้านทีวีอยู่บ่อยๆ
ซึ่งที่ผมไม่สนใจรุ่นนี้ก็เป็นเพราะ 1 เป็นจอ IPS ซึ่งไม่ค่อยถูกจริตกับผมนัก
2 หน้าจอสะท้อนฉิบหายวายวอด 3 เปิดกับdemoแล้วดูบ้านๆมาก(เทียบ X9300D ไม่ได้เลย)
แต่วันนี้ผมได้มาประชันหน้ากับมันตาม เดจาวู ในฝันแล้ว ก็ขอลองสักตั้ง
พอได้ลอง....ผลที่ออกมาผิดไปจากที่คาดครับ
รุ่นนี้อัพสเกลภาพได้ยอดเยี่ยมมากๆครับ พอๆกับ X9300D เลย
เปิดไฟล์ 1080p ถ้าเป็นหนังที่ภาพสวยอยู่แล้วเช่น pacific rim ภาพที่ได้นั้น
จะดูเนียนและละเอียดมากๆ พอดูห่างออกไปสักสองเมตร แทบจะไม่รู้เลยว่านี่คือไฟล์ 1080p
ภาพเคลื่อนไหวก็ดีโดยไม่ต้องใช้ระบบแทรกเฟรมภาพเข้าช่วย ยิ่งไฟล์ 60fps นี่ดูลื่นๆเลย
แถมสีสันในโหมด custom,cinema home,cinema pro นั้นถูกต้องแม่นยำมากๆครับ
เนื้อสีมีความฉ่ำน้ำ สะอาด เนียนละเมียด สีไม่มีอาการติดฝุ่นติดโคลนเหมือน sony รุ่นอื่นเลย
คือ สีมีความเป็น sony ยุคเก่าอย่าง HX855 ผสานกับsonyยุคtriluminos อย่าง W904a
ได้อย่างลงตัว
แถมลำโพงเสียงดีโคตรๆครับ ชัดเจน จะแจ้ง รายละเอียดเยอะ จังหวะโคนเสียงต่างๆมีแรงปะทะดีมาก
เสียงลำโพงรุ่นนี้ให้เสียงที่ดีกว่าทีวีทุกตัวที่ผมลองมาหมดเลย
ผมใช้เวลากับการเทส X9000C นานมากครับ แม้จะดูนานๆก็ไม่รู้สึกเหนื่อย ไม่รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด
มีแต่ความรู้สึกที่อยากจะดูไปเรื่อยๆไม่หยุด
ภาพรุ่นนี้มันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ต่างจาก sony รุ่นอื่นๆ มันมีความอินดี้แต่ยังอยู่บนขอบเขตของความเป็นจริง
ซึ่งคุณลักษณะนี้ตรงกับที่ผมต้องการเลยครับ
สุดท้ายผมจึงตัดสินใจ
ถอยหมอน sony 55X9000C มาใช้ครับ
ตอนนี้มันมาประจำการที่ร้านผมแล้ว ซึ่งแม้ระดับสีดำมันจะห่วยเพราะเป็นจอ IPS
แต่ก็ไม่มีปัญหาครับ เพราะผมใช้งานในห้องสว่าง ไม่ได้ใช้งานในห้องมืด
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
- บางทีสิ่งที่เราไม่เคยสนใจเลยบางทีมันก็อาจจะเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับเราก็ได้
- อย่าไปเชื่อไอ้ถอยหมอนมาก ลองด้วยตัวเองก่อนซื้อว่าเราชอบรุ่นนั้นจริงหรือเปล่า ๕๕๕๕๕
...................................................................
ขอบคุณครับ