« ตอบกลับ #559 เมื่อ: ธันวาคม 05, 2014, 04:02:56 pm »
Review Procella ลำโพง ที่จะพาคุณโลดแล่นก้าวพ้นขีดจำกัดของคำว่า Home Theater
วันนี้มีโอกาศได้นำลำโพง home cinema แบรนด์นึงที่หากคุณเป็นคนที่ชอบดูหนัง และอยู่ในวงการเครื่องเสียงน่าจะพอเคยได้ยินชื่อเสียงของแบรนด์นี้กันมาบ้าง "Procella" วันนี้เราได้ Procella P8, P6 มาลองเล่นและฟังเสียงกัน โดยเราจะใช้ห้องฟังถึง 2 ห้อง อุปกรณ์แตกต่างกันในการทดสอบ
ผลการทดสอบขออนุญาติสรุปย่อๆว่า หากคุณต้องอยู่ในช่วงของการตัดสินใจหาลำโพงดูหนังดีๆสักตัว และคิดว่าแบรนด์ที่มีให้เลือกในตลาดเช่น M... , X..., Klipsch THX Ultra2 นั้นคือที่สุดแล้ว เราอยากจะบอกว่า มันยังมีที่ดีและเหนือกว่านั้นครับ
เพราะลำโพงลำโพงทั้ง 3 แบรนด์ที่กล่าวมานั้นก็จัดเป็นลำโพงดูหนังที่ดีมากๆแล้ว แต่ทั้ง 3 ตัวต่างมีข้อดีและข้อเสียที่ด้อยและเด่นต่างกันไป บางตัวได้เสียงที่สด สะใจ ดูหนังสนุก ขับง่าย แต่ก็ขาดความนุ่มนวลไปเช่น Klipsch
และบางแบรนด์ก็ได้ความนุ่มนวล เป็นธรรมชาติดี แต่ก็ขาดความดุดัน เด็ดขาด และอิมแพคที่ควรจะมีในลำโพง Home cinema ดีๆสักตัว
และนี่คือการทดสอบที่เรามีโอกาศได้ลอง Procella P8, P6 เทียบกับ Klipsch THX Ultra 2 ครับ
System1 :
****************************
Procella P8, P6 (LCR)
Emotiva XPA3,5 gen1 (modify)http://upic.me/i/9o/18740067_10155357440854269_1530164019159915597_n.jpg
Anthem avm60
Klipsch KS525 (surround)
Svs SB16 ultra
SVS SB13 Ultra
****************************
System2:
****************************
Procella P8, P6 (LCR)
Anthem MCA525
Anthem avm60
Paradigm Signature (surround)
Svs SB16 ultra
****************************
Procella นั้นเคยกล่าวไว้ว่าลำโพง soft dome ไม่อาจตอบสนองการดูหนังที่ดีได้ เหมือนกับการที่เราเอาลำโพงฟังเพลงมาดูหนังนั้นย่อมให้โทนเสียงที่ไม่ดุดันและเหมาะสมกับการดูหนัง ดังนั้นสเปคของ Procella จึงใช้ทวีตเตอร์ของตัวเองเป็นแบบ Polyester ขนาด 1.5 นิ้ว (รุ่น P8) และ 1 นิ้ว (ในรุ่น P6) ต่างจากของ Klipsch ที่ใช้ทวีตเตอร์ไทเทเนี่ยมบรรจุในกรวยลำโพงฮอร์น
ส่วนอีกสองค่าย (M..., X...) นั้นเลือกใช้ทวีตเตอร์แบบ soft dome แต่เลือกที่จะบรรจุทวีตเตอร์เอาไว้หลายตัวๆในตู้แทนที่จะใช้ตัวเดียวเหมือน Procella และ Klipsch เหตุผลก็เพราะทวีตเตอร์แบบ soft dome ตัวเดียวไม่สามารถตอบสนองการดูหนังได้เพียงพอนั่นเอง แนวเสียงของลำโพงทั้ง M... และ X.... จึงให้เสียงที่เป็นธรรมชาติสูงและฟังสบายๆคล้ายลำโพง Home Audio
โทนเสียงโดยรวมนั้นเป็นลำโพงที่ให้เสียงใหญ่ เสียงกลาง แหลม เบสบาล้านทุกย่านมาค่อนข้างดีมาก ไม่มีย่านเสียงไหนล้ำออกมา เป็นลำโพงที่ให้ทุกย่านดี. หากคุณฟังเผินๆแล้วอาจจะเฉยๆเพราะมันก็เป็นลำโพงเสียงใหญ่ตัวนึง ที่เสียงค่อนข้างไปทางกลางๆ
ซึ่งบางคนก็บอกเสียงมันดุดันและจัดจ้านตัว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์การฟังของคุณที่ผ่านมา หากมาทางสายฟังเพลง Elac, B&W, PSB, Dali, Cantom, Monitor Audio, Polk แล้วมาฟังตัวนี้จะบอกว่าเสียงมันดุดัน โหดมากๆ
แต่ถ้ามาสายดูหนัง เป็นแฟน Klipsch THX อยู่แล้วมาฟังตัวนี้จะบอกว่าเสียงมันก็กลางๆ ไม่ได้ดุ และก็ไม่ได้นุ่มนวล
แต่สิ่งพิเศษของลำโพง Procella ก็คือเสียงที่สามารถ่ายทอดออกมาได้ดี บาล้านทุกย่านเสียงได้โดยไม่มีย่านใดล้ำโด่งออกไป
ฟังเผินๆก็เป็นลำโพงที่บุคลิกกลางๆตัวนึง แต่พอถึงฉากที่โหม หรือบันทึกมาหนักมีเสียงกระแทกๆ หรือมีไดนามิคของเสียงสูงๆๆ ลำโพงก็สามารถปลดปล่อยและให้เสียงกระแทกหนักๆ รุนแรง ไดนามิคสูงมากๆ ได้ชนิดที่ต้องตกใจ
ถ้าซิสเต็มสามารถดึงศักยภาพและเซ็ทให้ไดนามิคของ LCR กับเบสจากซับวูฟเฟอร์ให้สอดรับกันได้พอดีแล้วละก็ เสียงที่ได้จากฉากพีคๆ จะกระชากและหนักจนหน้าหงาย โดยไม่ได้เร่งเบสของซับเลย. โทนเสียงตอนปกติดูฟังธรรมดาๆ เรียบๆ ไม่่จัด สมดุล
ห้องฟังที่ 1
ในห้องฟังนี้ เสียงกลางแหลมฟังไม่แสบหูแม้แต่นิดเดียว เสียงกลางสูงราบเรียบ ทำให้เรายิ่งเร่งเสียงขึ้นไปเรายิ่งสนุกโดยไม่รู้สึกล้าหรือเหนื่อย
จับกับแอมป์ที่เสียงไม่หนามากอย่าง emo gen1 (mo) ตัวนี้ยิ่งกว่ากิ่งทองใบหยก ไม่รู้จะหาอะไรติ
เมื่อเทียบกะ Klipsch THX สิ่งเดียวที่ thx ชนะคือกลางแหลมที่สดพุ่งกว่าทำให้ THX ฟังดูมีดีเทลเยอะ ฟังมัน แตก็อาจแลกกับความล้าหูได้ง่าย ฉากที่มีไดนามิคสูงๆ THX ก็กระแทกได้ไม่เท่า pro (เพราะ. Klipsch มันแรงและกระแทกมาทุกฉากอยู่แล้ว ในขณะที่ Procella จะมาแบบเรียบๆแล้วกระชากทีเดียว)
Klipsch THX ถ้าเร่งเยอะๆ โดยไม่มีฐานเบสรองรับมากพอก็จะกลายเป็นเสียงจัดได้
และ THX หากเซ็ทไม่ดี หรือแมทชิ่งไม่เหมาะสม เสียงก็จะนุ่มจนขาดรายละเอียดไปเลย เช่นนำไปจับกับ power amp บางตัวที่นุ่มๆเกินไป
ในส่วนของห้องฟังที่ 2
เราได้ Anthem MCA525 เสียงจะดูหนากว่า โหด กระแทกกว่า เบสกลางแหลมรู้สึกพุ่ง แนวเสียงเหมาะกะหนังแอคชั่นเป็นอย่างยิ่ง. ฟังรู้สึกก้าวร้าวและโหดกว่าจับกับ Emotiva เสียอีก ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไม
ตอนเปิดแผ่นคอนเสิรต Hitman ฉากแรกที่เล่นเปียโนรู้สึกว่าเพลงหวานๆกลายเป็นเพลง death metal ไปซะงั้น ทั้งๆที่ห้องแรกนั้นฟังเพลงได้ดีมาก (ต่างกับห้องที่ 2 มาก) ตรงนี้เดาว่าอาจต้องเซ็ทเบสใหม่ให้รับกะกลางแหลม (ห้อง 2 ใช้ซับตัวเดียวและเบสบางกว่าห้องแรก)
หรืออาจเป็นอุปกรณ์ acessories เช่นสาย aq ที่ทำให้บุคลิกดูสด
หรืออาจจะเป็นเพราะห้องที่เป็นสี่เหลี่ยมเกือบจัตุรัส ทำให้จุดนั่งนั้นใกล้กับลำโพง P8 จึงทำให้เสียงค่อนข้างรู้สึกว่าพุ่งและหนัก
สรุปทั้ง2 ห้อง สิ่งที่เป็น common ร่วมกัน และรู้สึกได้เหมือนกันคือ เสียงชัด กระแทกดี (เรื่องกระแทกนี่ผมยอมให้เลยจริงๆ ชอบครับ) รายละเอียดดีมากๆโดยไม่จำเป็นต้องสดเหมือน klipsch thx
และเสียงกลางใหญ่ ว่องไวกระชับ แรงมีไดนามิกมันเลยทำให้สเกลเสียงดูใหญ่โต (ซึ่งปกติลำโพงที่ให้เสียงใหญ่ มักจะติดท้วม หนา ฟังแล้วอืด บรรยากาศขมุกขมัว ไม่ชัดเจน ติดนุ่ม และ dynamic ไม่ดี แถมช้า เช่นลำโพง home audio บางตัวที่เสียงหนาๆนุ่ม)
สิ่งที่แตกต่างกะ klipsch คือ klipsch จะพยายามแรง พุ่งและกระแทกทุกจังหวะที่มีโอกาส เหมือนวัยรุ่นที่มีของและอยากโชวืของตลอดเวลา กำลังเยอะ เหลือเฟือ ดิบเถื่อน เหมาะเอาไปลุยงานหนัก หรืองานที่ต้องโชว์พาวเยอะๆ เน้นมัน ในขณะที่งบไม่บานปลาย ไม่ต้องจ่ายเยอะ (ถ้าเทียบกับ Procella)
แต่ procella จะให้โทนเสียงกลางๆ บาล้านดีทุกย่านเสียง แรงและหนักเมื่อถึงจุดที่ต้องแรงเท่านั้น และเมื่้อถึงจุดที่ต้องแรงก็แรงได้แบบไม่แพ้ใครด้วย เปรียบเหมือนผู้ใหญ่ที่เนี๊ยบและสุขุม ผ่านโลกมานานกว่า วาจาฟังลื่นหู และยามต้องบู๊ก็มีของหนักและไม่ต้องพยายามโชว์ของกันทุกช๊อต เรียกว่ามีครบทั้งบุ๊นและบู๊ ฟังได้ดีครบๆ ได้ทั้งเร้าใจและสมดุลไปในลำโพงตัวเดียวกัน
ถ้าเงินถึง เราอยากจะบอกว่า Procella ก็เป็นหนึ่งในลำโพง cinema ที่ดีที่สุดแล้ว
แต่ถ้างบคุณขึ้นไปไม่ไหวถึงจุดนั้น การหาบุคลิคแนวเสียงที่ตัวเองชอบให้เจอแล้วจ่ายน้อยกว่าในลำโพง cinema ก็เป็นทางเลือกที่คุ้มค่า
เช่น Klipsch THX ที่ให้ความมันสะใจ และสเกลเสียงก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า Procella ซะเท่าไร่ (เทียบกับ P6) แต่อาจต้องยอมรับข้อเสียของเค้าก็คือสมดุลเสียงที่ฟังลื่นหูอาจจะหาได้ยาก (หากคุณคิดจะแมทชิ่งเอาแอมป์นุ่มๆมาจับและหวังว่ามันต้องนุ่มฟังสบาย คุณก็จะเสียรายละเอียดและสิ่งที่ Klipsch THX ควรจะเป็นไปอย่างน่าเสียดาย)
ส่วนลำโพงค่ายอื่นอย่าง M... และ X... นั้นก็มีเสน่ห์และมีแนวเสียงของตัวเองที่แตกต่างออกไป แต่อย่าลืมว่าลำโพงในระดับนี้ ให้คุณได้สมหวังแค่บางอย่าง แต่มีบางอย่างที่คุณต้องยอมทำใจและเสียมันไปบ้าง
สิ่งที่แลกกลับมาก็คือเงินที่จ่ายน้อยกว่า
แต่ถ้าเงินคุณพร้อม และอยากได้สิ่งที่เหนือกว่า อยากได้ครบๆ เสียงฟังดีด้วย หนักด้วย ดุดันด้วย ฟังแล้วเสียงไม่จัด แถมรองรับเสียงในระดับความดังอ้างอิงในห้องใหญ่ๆได้ด้วย และขับไม่ยากจนเกินไป
เราอาจกล่าวได้ว่า "Procella คือลำโพงที่ให้เสียงดีที่สุด ครบที่สุดเท่าที่โลกใบนี้สร้างขึ้นมาแล้วก็ว่าได้ครับ"
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 28, 2017, 06:08:40 am โดย keamglad »
บันทึกการเข้า