เสียง
ตัวเครื่อง S1283Hne ได้มีลำโพงติดตั้งมาในตัวด้วย แม้ว่าจะมีประสิทธิภาพเสียงที่ไม่ได้หรูหราอลังการอะไรมาก ถือซะว่าแถมมาให้สำหรับใช้งานในยามจำเป็น อย่างเช่นไปพรีเซ้นต์ที่ออฟฟิศลูกค้าแล้วอยากจะเปิดเสียงจากคลิปวิดีโอให้ฟังสักเล็กน้อย การมีลำโพงติดไว้กับโปรเจ็กเตอร์ก็จะช่วยให้การทำงานของเราราบรื่นขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องไปพกลำโพงแยกให้หนักกว่าเก่า
เพิ่มเติม
สำหรับโปรเจ็กเตอร์ตัวนี้นอกจากช่องต่อสารพัดสารเพที่มีมาให้เพื่อการใช้งานอันหลากหลายแล้ว ตัวเครื่องยังรองรับระบบ Wireless Projection ที่ช่วยให้เราสามารถนำภาพจากมือถือขึ้นไปโชว์บนจอโปรเจ็กเตอร์ได้ แบบเดียวกับที่เคยทำมาในรุ่นที่เคยรีวิวเอาไว้ก่อนหน้านี้ครับ
โดยเราจะต้องใช้งานร่วมกับอะแด็ปเตอร์ที่มีชื่อรุ่นว่า MWA2 ซึ่งจะมีหน้าตาแปลกกว่าของตัวอื่นๆ ที่ผ่านมา ซึ่งจะเป็นพอร์ต USB แต่ตัวนี้จะเป็นพอร์ต HDMI แทนครับ โดยตัวอะแด็ปเตอร์อันนี้จะสามารถใช้งานคู่กับฟีเจอร์เจ๋งๆ อย่าง MHL, Miracast, DLNA และสุดท้ายกับการใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชั่นที่ชื่อว่า eDisplay ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถแบ่งจอแสดงผลของโปรเจ็กเตอร์ออกเป็น 4 แบบรูปด้านบน รวมถึงส่งไฟล์ภาพ,เสียง,วิดีโอ ขึ้นไปเล่นผ่านตัวเครื่องแบบไร้สาย
นอกจากนี้แล้ว Acer S1283Hne ยังมีฟีเจอร์ยิบย่อยอีกมากมายแต่อาจจะไม่ตรงสาย Home Entertainment อย่างเช่น Creston ที่เป็นซอฟต์แวร์ให้เราสามารถควบคุมโปรเจ็กเตอร์ในวงเน็ตเวิร์คผ่านสายแลน เป็นต้น เลยไม่ขอหยิบขึ้นมารีวิวให้ดูกัน แต่ถ้าใครสนใจผมแนะนำให้ยิงตรงไปหาตัวแทนจำหน่ายเพื่อขอลองได้เลยครับ
สรุป
โดยรวมแล้วโปรเจ็กเตอร์ Acer S1283Hne ตัวนี้นับว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นเอนกประสงค์สำหรับท่านที่มีไลฟ์สไตล์หลากหลายตรงจุดกับฟีเจอร์ที่มีมาให้ เริ่มจากการใช้ช่วงฉายที่สั้นมากๆ ทำให้เราได้ขนาดจอภาพที่ใหญ่กว่า 300 นิ้ว ทั้งที่วางตัวเครื่องห่างจากฉากรับภาพไม่เกิน 4 เมตร ทำให้ได้เปรียบในเรื่องการใช้พื้นที่มากๆ พร้อมกันนี้ตัวเครื่องยังมีระดับความสว่างที่ 3,100 lm ซึ่งค่อนข้างจะเพียงพอสำหรับใช้งานในตอนกลางวันในห้องที่ปิดม่านทึบ ส่วนใครที่เน้นใช้งานตอนกลางคืนในห้องมืดอยู่แล้ว ก็สามารถเลือกเปิดโหมด ECO เพื่อยืดอายุการใช้งานหลอดไฟออกไปได้อีกกว่า 1,000 ชั่วโมง ซึ่งถ้าคิดเป็นจำนวนวันแล้วก็ประเมินออกมาได้อีกเกือบ 3 เดือนกันเลยทีเดียว (คิดจากการใช้งาน 3 ชั่วโมงต่อวัน)
สำหรับ สิ่งที่มองข้ามไม่ได้คือระยะเวลาในการปรับจูนภาพในกรณีที่ตั้งโปรเจ็กเตอร์บนขาตั้ง การปรับให้ภาพที่ออกมาตรงและเต็มจอนั้นอาจจะกินเวลาสักหน่อยสำหรับมือใหม่ ถ้าท่านต้องการใช้งานในอัตราส่วน 16:9 ทีมงานแนะนำให้เปิดเมนูของแผ่นบลูเรย์ทิ้งไว้ แล้วค่อยๆ ปรับตัวเครื่องให้ได้ระดับจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าใช้ แพทเทิร์นแบบ 4:3 ครับ เพราะนั่นจะทำให้ภาพเลยขอบของฉากออกไป
ทั้งหมดนี้หากทุกท่านลองชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียแล้วเกิดถูกใจก็แนะนำให้ไปลองกันได้ครับ เพราะเป็นโปรเจ็กเตอร์อีกเครื่องที่ค่อนข้างสว่างสู้แสงเลยทีเดียว แถมมาพร้อมลูกเล่นมากมายรองรับอัตราส่วนภาพได้ทั้ง 4:3 และ 16:9 นอกจากนี้ยังสามารถไปซื้ออะแด็ปเตอร์มาเสียบเพิ่มลูกเล่นโยนไฟล์ขึ้นมาเล่นได้อีก เป็นโปรเจ็กเตอร์สารพัดนึกสมดั่งที่ทาง Acer หมายมั่นให้มาตอบโจทย์คนที่ชอบอะไรคุ้มค่าครับผม
LIKE
– โปรเจ็กเตอร์ช่วงฉายสั้น สามารถให้ภาพขนาดใหญ่ในพื้นที่จำกัดได้
– สว่างสู้แสงในระดับ 3,100 lm ใช้ดูตอนกลางวันในห้องที่ปิดม่านได้ไม่น่าเกลียด
– ตัวเครื่องมีฟังก์ชั่นรักษาค่าความสว่างให้คงที่ในระยะ 3 ปี ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้งาน
DISLIKE AND SUGGESTION
– การปรับจูนภาพให้พอดีอาจจะกินเวลาสักนิดสำหรับมือใหม่ที่จะตั้งโปรเจ็กเตอร์กับขาตั้ง แนะนำว่าให้ช่างผู้เชี่ยวชาญเป็นคนดูแลในจุดนี้จะดีกว่า หรือไม่ก็แขวนขึ้นเพดานไปเลยจะง่ายที่สุดครับ
– เวลาที่เครื่องทำงานไปนานๆ ตัวเครื่องจะเร่งรอบพัดลมเพื่อระบายความร้อนซึ่งอาจจะมีเสียงรบกวนเล็กๆ เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามการเปิดใช้งานโหมด ECO ก็จะช่วยให้เสียงที่ว่านี้เบาลงในระดับนึงครับ
