17 Jun 2020
Review

รีวิว BenQ EW3280U จอคอม 4K HDR10 ตอบโจทย์ทั้งสาย PC และเกมคอนโซล พร้อมระบบเสียง 2.1


  • ชานม
ผลการรับชม HDR Content กับโหมดภาพ HDR ทั้ง 3 โหมด (อ้างอิงกับ Netflix ด้วย Xbox One S และ Android Box; YCbCr Video Range 16-235)

EW3280U มีโหมดพิเศษสำหรับการรับชม HDR Content โดยเฉพาะเรียกว่า HDRi  บางโหมดจะปรับแต่งสีสันและระดับคอนทราสต์ของ HDR ให้ดูมีความเด่นชัดสดใสขึ้น สามารถเลือกใช้งานได้ตามแต่สถานการณ์และรสนิยม

HDRi มี 2 รูปแบบ คือ Cinema HDRi และ Game HDRi ในขณะที่ Display HDR จะเป็นโหมดภาพที่ไว้ใช้อ้างอิง ภาพออกแนว Flat การแสดงผลเป็นแบบตรงไปตรงมาไม่ปรุงแต่งสีสันหรือปรับเปลี่ยนระดับคอนทราสต์ของสัญญาณต้นทาง ผมสรุปแนวทางการใช้งานไว้ดังนี้ครับ 

จุดต่างที่เห็นได้ชัด คือ Cinema HDRi มีสีสันที่สดจัดเตะตากว่าโหมดอื่น โหมดนี้จะให้ผลลัพธ์ด้านการถ่ายทอดระดับความเปรียบต่างของแสงได้โดดเด่นเมื่อเชื่อมต่อสัญญาณภาพ HDR กับคอมพิวเตอร์โดยตรง (RGB PC Range 0-255) ทว่าหากใช้โหมดนี้กับเพลเยอร์ทั่วไป (อิงสัญญาณภาพแบบ YCbCr Video Range 16-235) อาจจะดูว่าดำจมไปบ้าง

Display HDR แม้มองเผินๆ สีสันดูไม่ฉูดฉาดเตะตามากนักเมื่อเทียบกับโหมดอื่น แต่ก็ให้ความเป็นกลางสูง ดุลสี (White Balance) ใกล้เคียงมาตรฐานอ้างอิงมากกว่าโหมดอื่น หากอ้างอิงการเชื่อมต่อสัญญาณจากเพลเยอร์ทั่วไป (เช่น 4K HDR Blu-ray Player, 4K HDR Android Box หรือ 4K HDR Game Console ที่อิงสัญญาณภาพ HDR แบบ YCbCr Video Range 16-235) การถ่ายทอดรายละเอียดในที่มืดจะครบถ้วนกว่า Cinema HDRi ภาพโดยรวมจะดูสว่างกว่า ในขณะที่ให้คอนทราสต์ดีกว่า Game HDRi

Game HDRi จะบูสต์ในส่วนของ Shadow Details ให้ดูสว่างเห็นชัดเจนขึ้น ทว่าต้องแลกกับการสูญเสียระดับคอนทราสต์ไปบ้าง เพราะ Black Level จะไม่ดำลึกและ Peak Brightness ไม่สว่างเท่าโหมดอื่น แต่น่าจะช่วยสำหรับการเล่นเกมที่ต้องเพ่งมองภาพบนจอเป็นเวลานาน สายตาจะไม่ล้าเท่า 2 โหมดข้างต้น…

คำแนะนำเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเลือกโหมดภาพ HDR แบบใด ให้ลองปรับลด Sharpness ลง หากรู้สึกว่าภาพดูหยาบครับ ดีเทลจะดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ขอบวัตถุหรือรายละเอียด Texture ไม่ถูกเร่งจนขึ้นขอบชัดเกิน

ในแง่ความเที่ยงตรงสมดุลสีของโหมด HDR อาจย่อหย่อนจากโหมดภาพ SDR บ้าง อีกทั้งไม่สามารถปรับชดเชย White Balance ได้ แต่ผลลัพธ์ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ดี ที่น่าทึ่ง คือ ขอบเขตสีทำได้กว้างถึง 96.3/97.2% ของมาตรฐาน DCI-P3 (xy/uv) หรือเท่ากับ 71.4/77% Rec.2020 (xy/uv) ในขณะที่ HDR Peak Brightness 491 nits ก็นับว่าสว่างโดดเด่นสำหรับมาตรฐานมอนิเตอร์ ในจุดนี้สามารถท้าชน 4K HDR TV หลายรุ่นได้เลย

แม้ไม่ได้จั่วหัวว่าเป็น Gaming Monitor แต่การเล่นเกมร่วมกับ PC หรือเครื่องเกม Console (PS4, Xbox One, etc.) ถือเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติเด่นของ EW3280U ด้วยขนาดจอ 32 นิ้ว ใหญ่เต็มตา ได้ดีเทลครบถ้วนเต็มความละเอียด 4K หากต้องการสีสันที่โดดเด่นสดใสก็เลือกโหมด Standard/User (SDR) หรือ Cinema HDRi (HDR) ได้ แต่ถ้าเน้นภาพตรงตามต้นฉบับก็เลือก Rec.709 (SDR) หรือ Display HDR และถ้าเน้นเล่นต่อเนื่อง ดูนานๆ แล้วสายตาไม่ล้า อาจเลือก Low Blue Light ร่วมกับ B.I. ปรับความสว่างอัตโนมัติ หรือ Game HDRi ก็ให้ผลลัพธ์ที่ดี 

คุณสมบัติของ EW3280U ที่ส่งเสริมการเล่นเกมได้ดีเยี่ยมไม่แพ้ Gaming Monitor คือ Input Lag ที่ต่ำเพียง 9.5 ms (สูงสุดไม่เกิน 10.5 ms แล้วแต่โหมดภาพ) คอเกม Action ไม่ต้องกังวลเลยว่าภาพจะหน่วงช้าตอบสนองไม่ทันมือ
อีกหนึ่งคุณสมบัติที่เหมาะกับการเล่นเกม คือ Variable Refresh Rate (VRR up to 60Hz) ในแบบ “FreeSync” เมื่อเชื่อมต่อกับเครื่องเกมคอนโซลอย่าง Xbox One S/X หรือ AMD Graphic card ที่รองรับ จะแสดงภาพเคลื่อนไหวได้อย่างต่อเนื่อง เฟรมไม่ขาด ภาพไม่เป็นริ้วๆ ให้เสียอรรถรส

เสียง

ระบบเสียงของ 32EW3280U นั้นไม่ธรรมดา เนื่องจากเป็นระบบ 2.1 โดยติดตั้งตัวขับเสียงแบบ Stereo Full-range กำลังขับ 2W x 2 ที่ด้านหน้าบริเวณส่วนล่างของจอภาพ
และติดตั้ง Woofer สำหรับถ่ายทอดเสียงย่านต่ำ กำลังขับ 5W x 1 ที่ด้านหลัง จึงสามารถถ่ายทอดย่านเสียงได้อย่างครอบคลุมโดดเด่นกว่ามาตรฐานมอนิเตอร์ในท้องตลาดทั่วไปและอาจจะดีกว่าทีวีบางรุ่นด้วยซ้ำ ถึงแม้ระดับเสียงสุงสุดจะไม่ถึงกับดังมากมายและเบสไม่ได้ลงลึกแบบสะท้านทรวง ทว่าโดยปกติการใช้งานมอนิเตอร์เราจะนั่งอยู่ไม่ห่างจากจอภาพมากนัก เสียงที่ได้ยินจะยังมีน้ำหนักไม่แห้งบาง รายละเอียดเสียงชัดไม่คลุมเครือ
EW3280U จะมีตัวเลือก Audio Scenario สำหรับปรับบาลานซ์น้ำเสียงกับปริมาณเบสเพื่อชดเชยสภาพตั้งวาง (ระยะห่างจากผนัง) หรืออิงตามแต่รสนิยมของผู้ฟังได้ ปกติ Live/Pop จะให้ดุลเสียงลงตัวในสภาพแวดล้อมทั่วไป แต่ถ้าต้องการเบสเพิ่ม Cinema จะให้ปริมาณเบสเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย ตรงกันข้ามถ้ารู้สึกว่าเบสบวม ให้เลือก Dialog/Vocal ก็จะช่วยได้ ซึ่งถ้าจัดการในส่วนนี้อย่างเหมาะสม คุณภาพเสียงที่ได้จาก EW3280U จะใช้ดูหนังเล่นเกมก็ได้หรือจะฟังเพลงก็ดี

สรุป

มอนิเตอร์ความละเอียดสูงระดับ 4K ที่มีขนาดพอเหมาะ รองรับการใช้งานเอนกประสงค์ จะใช้อ้างอิงทำงานก็ได้ด้วยความเที่ยงตรงของสีสันในโหมด Rec.709 ที่ดีเยี่ยม หรือจะใช้เพื่อความบันเทิงเป็นหลักก็ดี ด้วยขนาดจอที่ใหญ่เต็มตาพร้อมคุณสมบัติรองรับการแสดงผลแบบ HDR10 ให้ขอบเขตสีกว้างระดับ DCI-P3 พร้อมลำโพงคุณภาพเสียงดีแบบ 2.1 รับชมภาพยนตร์ได้อย่างเต็มอรรถรส เสริมด้วยเทคโนโลยี FreeSync และ Input Lag ต่ำ ตอบสนองการเล่นเกมได้อย่างโดดเด่นไม่แพ้กัน

ข้อดีของ BenQ EW3280U

– IPS Panel 32 นิ้ว ใหญ่เต็มตาพร้อมความละเอียด 4K ดีไซน์ล้ำสมัย พร้อมฐานตั้งออกแบบใช้จัดระเบียบสายเชื่อมต่อด้านหลังได้

– โหมดภาพ Rec.709 (SDR) ให้ความเที่ยงตรงของสีสันดีเยี่ยม แค่ปรับความสว่างเพิ่มก็ใช้อ้างอิงได้เลย

– บางโหมดภาพรวมถึง HDR ให้ขอบเขตสีกว้างระดับ 97% DCI-P3, HDR Peak Brightness 491 nits สว่างชัดเจนดี

– ถนอมสายตา ด้วยการผสมผสานจอภาพแบบ Flicker-free และ Low Blue Light พ่วงด้วย B.I. ปรับระดับความสว่างอัตโนมัติอิงตามสภาพแวดล้อมด้วยเซ็นเซอร์วัดแสง

– ติดตั้งลำโพงแบบ 2.1 ดุลเสียงดี ใช้งานเพื่อความบันเทิงได้ครอบคลุม

– VRR (FreeSync) และ Input Lag ที่ต่ำ เอื้อต่อการเล่นเกม

ข้อเสียของ BenQ EW3280U

– ฐานตั้งปรับก้มเงยได้อย่างเดียว, หากตั้งจอชิดผนัง การเชื่อมต่อสายที่ส่วนล่างของจอจะดำเนินการลำบากอยู่บ้าง

– ไม่มีตัวเลือกปรับชดเชย White Balance ในโหมด HDR

– ระดับเสียงของลำโพงจะดังดีหากใช้งานในห้องที่ไม่ใหญ่ หรือนั่งฟังในระยะที่ไม่ห่างจากจอมอนิเตอร์มากจนเกินไป

คะแนน

ดีไซน์ (Design)
8.5
ภาพ 2 มิติ ก่อนปรับภาพ (2D Picture Pre-Calibrated)
9
ภาพ 2 มิติ หลังปรับภาพ (2D Picture Post-Calibrated)
9
ภาพ 2 มิติ (HDR)
8.5
เสียง (Sound)
8.75
การเชื่อมต่อ (Connectivity)
8.75
ลูกเล่น (Features)
8.5
ความคุ้มค่า (Value)
8
คะแนนตัดสิน (Total)
8.6

BenQ EW3280U

8.6