Sound – เสียง
เริ่มต้นการทดสอบเสียงด้วยการรับชมภาพยนตร์ซีรี่ส์กันก่อนเลย ด้วยดีไซน์ของซับวูฟเฟอร์ที่เป็นแบบยิงเสียงลงพื้นก็อดที่จะทดสอบด้วยฉากแอ็คชั่นไม่ได้ เช่นฉากจากซีรี่ส์ Game Of Thrones ซีซั่น 6 เป็นฉากที่ Daenerys Targaryen หรือราชินีมังกร พาเหล่ามังกรและกองทัพผู้ไร้มลทิน ห้ำหั่นกับเหล่ากองทัพนายทาสที่ต่อต้านการปกครอง
ซึ่งฉากนี้เต็มไปด้วยเสียงโฉบเฉี่ยวและระเบิดตูมตามมากมายจากการสู้รบ Aura Studio สามารถตอบสนองอย่างฉับไว ให้ความสนุกสนานได้เป็นอย่างดี ซับวูฟเฟอร์ได้ขับเสียงตูมตามกระแทกออกมาได้อย่างมีน้ำหนัก เสียงแผดร้องของมังกรและเสียงพูดของตัวละครก็ไม่ได้จมกลืนหายไป มีสมดุลเสียงที่ดี สามารถกระจายทั่วห้อง แม้ฟังในระยะไกลก็ได้ความกระหึ่มไม่แพ้ซาวด์บาร์
แต่ในเรื่องการแพนเสียงสลับซ้ายขวา ยังไม่ชัดเจนเท่าไร เช่น เสียงบินโฉบผ่านของมังกร หรือเสียงจากการยิงเครื่องยิงหิน เมื่อฟังในระยะการรับชมทีวีทั่วไป จะได้ยินเสียงทางเดียวแบบ Mono มากกว่า ไม่รับรู้ถึงการฉวัดเฉวียนข้ามผ่านแบบ Stereo ทำให้รสชาติของการรับชมตกลงไปนิด เกิดความรู้สึกแบน แต่ไม่ได้แห้งเสียทีเดียว เพราะซับวูฟเฟอร์ที่ให้เบสได้ลึกต่ำ สร้างความกระหึ่มไม่ใช่เล่น
เปลี่ยนบรรยากาศมาทดสอบด้วยบทเพลงกันบ้าง หยิบเอาอัลบั้ม Everything You”ve Come to Expect ของวง The Last Shadow Puppets มาใช้ทดสอบ เหตุที่ใช้เพราะอัลบั้มเป็นแนว Baroque Pop ผสมผสานแนวป็อปกับดนตรีคลาสสิกเข้าด้วยกัน เน้นการใช้คีย์บอร์ด เครื่องสี และเบสที่เดินเป็นจังหวะชวนขยับ ได้เอกลักษณ์ทุกย่านเสียง เหมาะสำหรับทดสอบกับ Aura Studio ที่ตอบสนองย่านเสียงได้ตั้งแต่ 50Hz – 20kHz เลยทีเดียว
ความประทับใจแรกต้องยกให้กับซับวูฟเฟอร์ สามารถขับเบสได้เป็นลูกแบบชัดๆ มีน้ำหนักสดเด้ง สร้างความรุกเร้าไม่อ่อนย้วยให้จืดชืด เช่นเพลง Used to Be My Girl และ Bad Habits ผสานกับเสียงคีย์บอร์ดที่ดอกลำโพงทั้ง 6 ดอก สามารถแผดเสียงออกมาอย่างจัดจ้าน พอมีรสสัมผัสความเป็น Stereo อยู่บ้าง หากเป็นเสียงที่แยกออกเฉพาะข้าง ไม่ใช่การแพนหรือโยนเสียง ด้วยดีไซน์ที่ตั้งใจให้เสียงกระจายออกครอบคลุม 360 องศา จึงไปลดความชัดเจนของการแพนเสียงลง แต่ต้องให้คะแนนเรื่องการกระจายพื้นที่เสียงจริงๆ เพราะฝั่งช่องเชื่อมต่อสายที่เป็นมุมอับเสียง ไม่มีดอกลำโพงติดตั้ง ตัวลำโพงก็สามารถกระจายเสียงมายังมุมนี้ได้ โดยที่คุณภาพเสียงแทบจะไม่ตกลง
เพลงหวานๆ นุ่มๆ ก็สามารถสร้างความละมุนละไมได้อย่างสุนทรีย์ อย่างเพลง Miracle Aligner กับEverything You”ve Come to Expect ที่เน้นความหวานหยดย้อยสุดคลาสสิกสไตล์บาโร๊ค Aura Studio สามารถให้ความกลมกล่อมนุ่มนวลแบบสบายๆ มีสมดุลย์ที่ดีในแต่ละย่าน ได้เสียงร้องที่ชัดคม ซึ่งเสน่ห์ของวงนี้อยู่ที่สำเนียงการร้องชนิดอังกฤษจ๋า ก็ได้อรรถรสตรงนี้ไปเต็มๆ ปลายเสียงยังขุ่นอยู่บ้าง เสียงร้องและเสียงเครื่องสีมีความอูมให้เห็นเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วฟังสบายลื่นหู
ขยับมาเพลงแนว R&B ที่กำลังฮิตอยู่ ณ ตอนนี้ เพื่อตอกย้ำให้แน่ใจถึงคุณสมบัติของซับวูฟเฟอร์ เช่นเพลง Starboy ของ The Weeknd ที่มีเบสลึกนัวชนิดต่ำติดดิน ลำโพงนี้ก็สามารถให้เสียงเบสที่ชัดเจน ไม่พร่ามัว สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเบสมีน้ำหนักสดฉ่ำ รับรองว่าสนิทกับ Aura Studio ได้ไม่ยากแน่นอน พร้อมพลังการกระจายที่เติมเต็มได้ทั้งห้อง ลำโพงตัวเดียวเอาอยู่ ไม่ต้องง้ออะไรเพิ่มเติม
Conclusion – สรุป
Aura Studio ยังคงรักษามาตรฐานคุณภาพของ Harman Kardon เอาไว้อย่างดี แม้จะเป็นรุ่นรองลงมา ถูกตัดลูกเล่นออกไปพอสมควร จากรุ่น Aura ต้นฉบับที่สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi และสาย Optical ได้ เพื่อลดระดับราคาลงมาให้จับต้องกันง่ายมากขึ้น ลำโพงเครื่องนี้จึงไม่สามารถปรับแต่งเสียง EQ หรือใช้งานแบบมัลติรูมได้ ความหลากหลายในการใช้งานจึงค่อนข้างจำกัดอยู่บ้าง
แต่เรื่องเสียงนั้น ยังคงให้เอกลักษณ์ของเสียงอย่างเต็มเปี่ยม ชนิดถอดด้ามกันมาเลย โดยเฉพาะซับวูฟเฟอร์ที่สร้างความแผ่สะเทือน เพิ่มมิติการฟังได้เกินตัวมาก ทั้งหนักแน่นดุดัน ได้รสสัมผัสอย่างถูกหู มีสมดุล ไม่จมหรือแข็งกระด้างเกินไป เสียงย่านอื่นเองก็อยู่ในระดับดี เพลิดเพลินทุกสไตล์การฟัง ไม่ค่อนไปทางไหนทางหนึ่ง ใช้ฟังหลากหลายประเภทเสียง
หากรู้สึกว่าซาวด์บาร์ยังไม่เหมาะต่อการใช้งาน Aura Studio นับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี สำหรับการใช้งานในห้องขนาดเล็ก ศักยภาพในการเติมเต็มพื้นที่เสียงภายในห้องนั้น สมกับที่ได้รางวัลเรื่องดีไซน์จริงๆ ติดตั้งลำโพงไว้ตำแหน่งใดก็ได้ภายในห้อง จึงสร้างความอเนกประสงค์สำหรับการใช้งานได้เป็นอย่างดี ทั้งเชื่อมต่อทีวีหรือแล็ปท็อปเพื่อเพิ่มอรรถรสการรับชม จะเอาไว้ฟังเพลงกันเพลินๆ ผ่านสมาร์ทโฟนก็ใช้ได้ไม่ยาก แถมยังสร้างความสวยงามประดุจเฟอร์นิเจอร์อีกด้วย
ข้อดีของ Harman Kardon Aura Studio
1. สามารถกระจายเสียง 360 องศา ได้อย่างมีสมดุล ทำให้ไม่จำกัดตำแหน่งในการวาง
2. ซับวูฟเฟอร์ตอบสนองย่านต่ำได้ลึก เบสมีมิติ
3. มีไมโครโฟนในตัวให้ใช้งานรับสายโทรศัพท์ผ่านลำโพงนี้
ข้อเสียของ Harman Kardon Aura Studio
1. รองรับการเชื่อมต่อน้อย มีเพียง Bluetooth และ Aux ไม่สามารถปรับแต่งเสียงบนแอพพลิเคชั่นได้
2. การแยกเสียงซ้าย-ขวาไม่ค่อยชัดเจนเท่าใด เนื่องจากถูกออกแบบให้กระจายเสียงรอบทิศทาง
3. โดมใสที่ครอบตัวเครื่องไม่สามารถถอดออกได้ ฝุ่นหรือสิ่งของสามารถเข้าไปในโดมได้ผ่านรูท่อคายเสียงด้านบน
คะแนน
คะแนน Harman Kardon Aura Studio Wireless Bluetooth Home Speaker System
7.8
ขอขอบคุณ บริษัท มหาจักรดีเวลอปเมนท์ จำกัด ที่เอื้อเฟื้อสินค้าในการทดสอบครั้งนี้
สนใจสินค้าหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
บริษัท มหาจักรดีเวลอปเมนท์ จำกัด เลขที่ 46 ถ.สุขุมวิท 3 (นานาเหนือ) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
โทร. 02-256-0020-9