03 May 2016
Review

เล็กพริกขี้หนู… ฟังก็มัน กันน้ำก็ดี แถมแบตเตอรี่มหาศาล !!! รีวิว JBL Charge 2 plus


  • lcdtvthailand

Features – ลูกเล่น

ด้วยลูกเล่นการกันน้ำของ JBL Charge 2+ จึงทำให้ลำโพงรุ่นนี้ เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ฮอตฮิต ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

มาถึงด้านฟีเจอร์ลูกเล่นต่างๆ ของเจ้าJBL Charge 2+ กันแล้ว สิ่งที่ต้องพูดถึงเป็นอย่างแรกแลยคือฟีเจอร์หลักที่เพิ่มเติมมาจากรุ่น Charge 2 กลายมาเป็นรุ่นพลัสคือ “การกันน้ำ” นั่นเอง ลำโพงตัวนี้สามารถกันน้ำได้ จะใช้งานกลางแจ้งท่ามกลางสายฝนปรอยๆ หรือจะใช้งานช่วงสงกรานต์ โดนน้ำกระเด็นใส่ ก็ยังพอไหว เพราะถูกออกแบบมาให้กันน้ำได้ในระดับทั่วไป แม้ตัวเครื่องซีลปิดสนิทไม่รั่วซึม แต่ช่องเชื่อมต่อด้านหลังเครื่อง ไม่มีสิ่งใดปกปิดและไม่สามารถกันน้ำได้ จึงกันได้เพียงระดับหนึ่ง

ฟีเจอร์ตัวต่อไปคือฟังก์ชั่น Social Mode หากคุณเคยประสบปัญหาการแย่งกันเปิดเพลงผ่านสัญญาณ Bluetooth แล้วล่ะก็ ไม่ต้องยุ่งยากผลัดกันเชื่อมต่ออีกแล้ว เพราะโหมดนี้ จะทำให้ Charge 2+ รองรับการเชื่อมสัญญาณ Bluetooth ได้พร้อมกันถึง 3 เครื่อง สมาร์ทโฟนที่ถูกเชื่อมต่อเครื่องไหนเปิดเพลง ตัวลำโพงจะขับเสียงของเครื่องนั้น โดยจะเป็นเครื่องที่กดเล่นเพลงเครื่องล่าสุดที่ถูกขับเสียงออกมา ลดความวุ่นวายในการใช้งาน ซึ่ง Charge 2+ สามารถรับการเชื่อมต่อด้วย Bluetooth ได้ไกลมากถึง 10 ม. เลยทีเดียว

สายชาร์จมีความยาวพอสมควร ไม่ต้องพก Power Bank อีกต่อไป JBL Charge 2+ เครื่องเดียวอยู่!!!

และอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ขาดไม่ได้ กับฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ใช้งานชาร์จแบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟนได้จากลำโพงเครื่องนี้ เปรียบเหมือนแบตเตอรี่สำรองเลยก็ว่าได้ ซึ่งแบตเตอรี่ของ JBL Charge 2+ เป็นชนิด Lithium-ion Polymer 3.7V  มีความจุถึง 6,000 mAh สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า 12 ชม. หมดกังวลเรื่องอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ทั้งตัวสมาร์ทโฟนและตัวลำโพง เสียบชาร์จไฟ เปิดเพลงฟังกันได้ยาวๆ

นอกจากนี้แล้วยังมีฟีเจอร์ Speaker Phone ให้ผู้ใช้งานสามารถรับและพูดคุยโทรศัพท์ได้ด้วยลำโพงเครื่องนี้ หากมีสายเข้าขณะเชื่อมสัญญาณ Bluetooth อยู่ เพียงแค่กดปุ่มสัญลักษณ์รูปโทรศัพท์ ก็สามารถพูดคุยด้วยบิลต์อินไมโครโฟนในลำโพงตัวนี้ได้

Sound – เสียง

ต้องขอบอกก่อนเลยว่า อย่าตัดสิน JBL Charge 2+ ที่ภายนอก เห็นหน้าตาเรียบๆ แต่ได้รับคำชมมาเพียบเลยนะ แม้แต่ตัว Charge 2+ เอง ยังยกให้เรื่องคุณภาพเสียงเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์หลัก ด้วยระบบ Passive Radiator ที่จะช่วยให้เสียงเบส หรือเสียงย่านต่ำ มีความสมจริง เพิ่มมิติของการฟังมากขึ้น โดยการทำงานของ Passive Radiator จะเป็นการสั่นสะเทือนของแผ่นไดอะแฟรม ผลักอากาศออกมา เพื่อเสริมน้ำหนักเบสให้มีน้ำมีนวล มีแรงกระแทกมากขึ้น

JBL Charge 2+ ตอบสนองต่อความถี่ตั้งแต่ 75Hz – 20kHz ในการทดสอบได้ใช้เพลงหลายประเภทด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเพลงนุ่มๆ เบาๆ ไปจนถึงตื๊ดๆ เบสหนักๆ เพื่อทดสอบคุณภาพของ Passive Radiator เพียงแค่เปิดเพลงแรกอย่าง Can”t Feel My Face ของ The Weeknd ซึ่งเป็นเพลงที่โดดเด่นในเรื่องของเสียงเบสหนึบๆ และเสียงสังเคราะห์หลากหลาย

ทันทีที่เพลงขึ้นมาก็ต้องอุทานว่า “ว้าววว!!” กันแล้ว สิ่งแรกที่สัมผัสได้เลยคือเสียงและน้ำหนักของเบสที่ถูกขับออกมาจากด้านข้าง 2 ฝั่ง รู้สึกได้ถึงมวลเสียง ความมีตัวตนของย่านเบส ต่างจากลำโพงหลายตัวที่เมื่อได้ฟัง แม้ได้ยินเสียงเบส แต่สัมผัสไม่ได้ถึงมวลของเบส ซึ่งสิ่งนี้แหละ ที่ทำให้ต้องอุทานออกมาเลย

อัลบั้มเพลงที่ใช้ทดสอบหลัก มีความแตกต่างและความโดดเด่นในย่านเสียงแต่ละย่านไม่เหมือนกัน เช่น วง 21 Pilots วงสไตล์ฮิปฮอปอิเล็กทรอนิกส์ JBL Charge 2+ ให้เสียงเบสที่ “ตึ๊บ” จริงๆ ฟังสนุกจนต้องโยกตาม หรือจะวงร็อกฮาร์ดคอร์ Saosin ที่เน้นโทนเสียงแหลม ลำโพงตัวนี้ก็ไม่ง้องแง้ง ให้เสียงชัดเต็มทุกอณู ไม่บาดหูแต่อย่างใด เล็กพริกขี้หนูมากๆ

หลังจากทดลองฟังหลายๆ ประเภทแล้ว JBL Charge 2+ ให้คุณภาพเสียงไม่ธรรมดาจริงๆ เนื้อเสียงย่านกลางและย่านแหลม มีความแข็งแรง คมชัด อย่างเพลง Don”t Let Me Down ของ The Beatles ที่ถูกนำมาทำในรูปแบบความละเอียดสูง ตัวเพลงเน้นเสียงพร่าๆ ของกีตาร์ ตัดกับเสียงเบสสไตล์วินเทจที่มีความกระด้างเล็กน้อย Charge 2+ เก็บรายละเอียดเสียงได้อย่างดีเยี่ยม ช่วงเสียงประสานนั้น มีความชัดเจน ถูกใจนักฟังประเภทชอบเก็บรายละเอียดแน่นอน

ดีไซน์เรียบง่ายแฝงความเท่ ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก ความสูงพอๆ กับสมาร์ทโฟนเลย

สำหรับการทดลองฟังในที่โลงแจ้งและมีเสียงรบกวนจากสิ่งแวดล้อม เห็นตัวเล็กๆ อย่างนี้ แต่เล็กพริกขี้หนู ให้พลังเสียงในระดับดีเกินขนาดตัวเลยทีเดียว ขอบเขตเสียงค่อนข้างไกล น้ำหนักเสียงอาจมีแห้งหายไปเล็กน้อย แต่ก็สู้กับเสียงภายนอกได้เป็นอย่างดี เอาไปใช้ปาร์ตี้ในสถานที่โล่งได้อย่างไม่ผิดหวัง ไม่ต้องกลัวน้ำกันเลย หากอ่านแล้วยังไม่เห็นภาพ เชิญดูคลิปทดสอบคุณภาพที่ไม่ใช่แค่ด้านเสียง ด้านล่างนี้เลย…

Conclusion – สรุป

บทสรุปของ JBL Charge 2+ นั้น ขอให้ข้อสรุปง่ายๆ เลยว่า “เยี่ยมมาก!!!” ขึ้นชื่อว่าลำโพงพกพาแล้ว ถ้าไม่สามารถตอบสนองต่อการใช้งานรูปแบบต่างๆ ก็คงไม่ต่างอะไรจากลำโพงบ้านๆ ทั่วไป ที่ต้องคอยดูแลรักษาจนรู้สึกลำบาก ไม่ค่อยอยากพกออกจากบ้านกันเลย แต่ไม่ใช่กับ Charge 2+ ด้วยคุณสมบัติการกันน้ำของเจ้าตัวนี้ เหมาะสำหรับงานเลี้ยงปาร์ตี้หรืองานนอกสถานที่จริงๆ ถึงจะกันน้ำได้เพียงระดับหนึ่งก็ตาม ไม่ต้องคอยกังวลลำโพงเสียหาย จนเหมือนคนขี้ระแวง

และเรื่องเสียงนั้น หากได้ดูคลิปกันแล้ว คงจะพอรับรู้ถึงคุณภาพเสียง JBL Charge 2+ สร้างความประทับใจในการฟังได้ดีมาก ด้วยฟีเจอร์ Passive Radiator  ที่ให้เสียงเบสมีน้ำหนักอิ่มเอิบ เสียงย่านอื่นๆ ก็เก็บรายละเอียดเสียงได้อยู่หมัด ไม่ผิดหวังหรือทำให้รู้สึกเสียดายเลย ทั้งยังฟังสนุกแม้อยู่ในสถานที่โล่งแจ้ง เสียงไม่กลืนหายไปกับเสียงแวดล้อมมากเท่าไรนัก และด้วยความจุแบตเตอรี่ ขนาด 6,000 mAh ที่ฟังได้ถึง 12 ชม. แถมสามารถใช้เป็นแหล่งจ่ายไฟสำรอง สามารถใช้งานกันได้ยาวๆ ทั้งตัวลำโพง ทั้งสมาร์ทโฟน ชนิดข้ามคืนทีเดียว

ข้อดีของ JBL Charge 2+
1. กันน้ำได้ระดับทั่วไป จึงใช้งานได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น
2. ด้วยความสามารถของ Passive Radiator ทำให้ Charge 2+ มีมิติเสียงในการฟังที่ดีเยี่ยมเลย
3. มีความจุแบตเตอรี่มากถึง 6,000 mAh ใช้งานได้ถึง 12 ชั่วโมง และยังใช้เป็นแหล่งจ่ายไฟสำรองให้สมาร์ทโฟนได้อีก

ข้อเสียของ JBL Charge 2+
1. ช่องเชื่อมต่อไม่สามารถกันน้ำได้ แม้จะกันน้ำหนักๆ ไม่ได้ แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว

คะแนน

ดีไซน์ (Design)
7.50
เสียง (Sound)
7.75
ลูกเล่น (Features)
8.25
การเชื่อมต่อ (Connectivity)
8.00
ความคุ้มค่า (Value)
8.00
คะแนนตัดสิน (Total)
7.90

คะแนน JBL Charge 2+ Splashproof Portable Bluetooth Speaker

7.9

ขอขอบคุณ บริษัท มหาจักรดีเวลอปเมนท์ จำกัด ที่เอื้อเฟื้อสินค้าในการทดสอบครั้งนี้
สนใจสินค้าหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
บริษัท มหาจักรดีเวลอปเมนท์ จำกัด เลขที่ 46 ถ.สุขุมวิท 3 (นานาเหนือ) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
โทร. 02-256-0020-9