Connectivity – ช่องต่อ
หลังจากที่ผ่านส่วนของดีไซน์กันไปหมาดๆ ทีนี้กระผมต้องขอพาคุณผู้อ่านทุกท่านมาเน้นกันที่ส่วนที่เป็นช่องต่อของตัวลำโพงกันบ้าง ซึ่งส่วนนี้ถือว่ามีความสำคัญไม่แพ้กับดีไซน์เช่นกัน
Sound – เสียง
จากที่ปล่อยให้คุณผู้อ่านหลายๆ ท่านได้รับชมส่วนของดีไซน์และช่องต่อไปก่อนหน้านี้ ในที่สุดเราก็มาถึงยังส่วนที่ใครหลายๆ ท่านรอคอยกันอยู่นั่นก็คือส่วนของการทดสอบคุณเสียงกันแล้ว ซึ่งส่วนนี้จะเป็นส่วนที่กระผมจะพาไปรับฟังคาแรคเตอร์ของเสียงที่ถูกถ่ายทอดออกมาจากเจ้า JBL Cinema 510 ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง? และจะเหมาะกับสไตล์การใช้งานแบบไหนบ้าง? ถ้าหากพร้อมแล้วไปเริ่มกันได้ ณ บัดเดี๋ยวนี้
สำหรับการติดตั้งเจ้าลำโพงชุดนี้ที่เป็นระบบเสียง 5.1 แชนแนล ประกอบด้วยลำโพงทั้งหมด 6 ตัวนั่นก็หมายความว่าเราต้องวางลำโพงทั้ง 6 ตัวลงบนจุดต่างๆ ให้ถูกต้อง อย่างที่ได้บอกไปว่าลำโพงหลักที่เป็น Center, Front Left-Right และ Surround Left-Right จะมีรูปร่างหน้าตาเหมือนกัน ทำให้เราสามารถที่จะหยิบลำโพงตัวไหนก็ได้มาวางในตำแหน่ง Center นั่นเอง
จากการใช้เจ้า JBL Cinema 510 รับชมภาพยนตร์เรื่อง Resident Evil: Afterlife เป็นเรื่องแรกนั้น พบว่าเจ้าลำโพงตัวเล็กๆ ทั้ง 5 ตัวที่ตั้งอยู่รายรอบของตัวกระผมนั้นสามารถให้น้ำหนักของเสียงออกมาได้ดีกว่าที่คิดไว้พอสมควร
โดยฉากที่เป็นแอฟเฟคเฟี้ยวฟ้าว อย่างเช่น ฉากที่นางเอกสู้กับปีศาจยักษ์ที่ถือขวานอันใหญ่มโหฬารนั้น (มันชื่ออะไรนะ) ก็สามารถถ่ายทอดรายละเอียดที่เป็นเสียงน้ำ เสียงที่ขวานที่หวดเข้าไปกระทบกับกำแพง หรือแม้กระทั้งฉากที่นางเอกใช้ปืนลูกซองยิงเหรียญออกมา ก็สามารถให้รายละเอียดของเสียงได้อย่างสมจริง
หลังจากที่รับชมภาพยนตร์จบไปหนึ่งเรื่องยังไม่ทันได้ซึมซับคาแรคเตอร์เสียงของ JBL Cinema 510 อย่างเต็มที่สักเท่าไหร่ กระผมจึงได้มาต่อที่เรื่อง The Avengers กันอีกสักเรื่อง หลังจากที่รับชมจนจบทั้งสองเรื่องแล้วก็พบว่าความรู้สึกของการตอบสนองไม่ว่าจะเป็นความถี่ในย่านเสียงกลางและเสียงสูงตัวลำโพงทั้ง 5 ตัวที่ใช้ไดร์เวอร์มิดเรนจ์ขนาด 3 นิ้วทั้งหมดนั้น สามารถทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจ
JBL Cinema 510 สามามารถให้น้ำเสียงออกมาได้อย่างคมชัดแต่ก็ไม่ได้ถึงกับกระแทกกระทั้นอะไรมากนัก ทั้งยังให้เสียงสูงที่ค่อนข้างเปิดกว้างแต่ก็ไม่ได้ฟุ้งฟิ้งจนถึงกับฟังแล้วรู้สึกล้าแต่อย่างใด สำหรับตัวของเสียงในย่านความถี่ต่ำที่ได้จากลำโพง Subwoofer นั้นไม่พบว่ามีอาการย้วยหรือครางแต่อย่างใด แต่ในทางกลับกันเสียงที่ได้นั้นจะค่อยๆ แพร่ออกมานิ่มๆ อาจจะไม่ได้ตึ้งตั้งเหมือนกับ Subwoofer ตัวใหญ่ๆ ที่ได้เคยสัมผัสมาสักเท่าไหร่นัก
จากการที่กระผมได้นั่งดูนั่งฟังคอนเสิร์ตอยู่หลายเพลง ถึงแม้ว่า JBL Cinema 510 จะเป็นชุดลำโพงแบบ 5.1 แชนแนลที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากนักแต่ตัวมันเองก็สามารถถ่ายทอด Soundstage ได้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นความกว้างของเสียงกลางและเสียงสูงที่ถูกถ่ายทอดออกมาจากไดร์เวอร์มิดเรนจ์นั้นถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างกว้าง และส่วนที่เป็นเสียงในย่านความถี่ต่ำลึกก็สามารถแสดงออกมาได้กำลังดีถึงแม้ว่าจะไม่ได้ลึกอะไรมากนัก แต่ก็ให้ความรู้สึกที่ฟังสบายไม่รู้สึกจุกเมื่อฟังเป็นเวลานานๆ ติดต่อกัน
โดยวันนี้กระผมได้ลองนำเอาแผ่นเพลงไทยที่มีอารมณ์เพลงฟังสบายๆ เหมาะแก่วันพักผ่อนมาลองเปิดฟังกันบ้าง ซึ่งพบว่าเสียงนักร้องและเสียงกีต้าในย่านความถี่สูงๆ ก็ยังคงมีกลิ่นไอความหวานละไมอยู่พอสมควรถึงแม้ว่าตัวของลำโพงจะไม่ได้รับการติดตั้งไดร์เวอร์ทวิตเตอร์มาให้ก็เถอะ สำหรับในเรื่องของเสียงกลางนั้นก็ยังคงมีความคมชัดตามสไตล์ของเสียงที่ถูกถ่ายทอดออกมาจากมิดเรนจ์เหมือนเช่นเคย