Soundbar & Wireless Subwoofer
Klipsch R-4B
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการรับชมภาพยนตร์ ย่อมรู้ดีว่าการเสพภาพยนตร์ที่ดีนั้น ไม่ใช่แค่เน้นคุณภาพด้านภาพเพียงอย่างเดียว ด้านเสียงเอง ก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ที่ช่วยเพิ่มรสชาติของการรับชมมากยิ่งขึ้นเป็นเท่าตัว
แต่การเพิ่มอรรถรสด้วยชุดโฮมเธียเตอร์นั้น บางท่านอาจไม่สะดวกเท่าไรนัก ด้วยข้อจำกัดของด้านสถานที่ จึงมองหาชุดซาวด์บาร์พร้อมซับวูฟเฟอร์ดีๆ แทน ซึ่งในครั้งนี้ จะมาแนะนำให้รู้จักกับ Klipsch R-4B จาก Reference Series ชุดซาวด์บาร์ที่จะทำให้คุณเข้าถึงอารมณ์การรับชมภาพยนตร์มากขึ้นกว่าเก่า
Design – การออกแบบ
เริ่มทำความรู้จักกับ Klipsch R-4B จากรูปลักษณ์กันก่อน ซึ่งหน้าตาของเจ้า R-4B นี้ ตัวซาวด์บาร์มีรูปทรงที่ดูเรียบง่าย เท่ขรึม ด้วยโทนสีดำตัดด้วยโลโก้สีทองแดง อันเป็นโทนสีประจำตัวของ Klipsch มีขนาดความยาว 40 นิ้ว และความสูงเพียง 3.5 นิ้ว สร้างเอกลักษณ์ที่โดดเด่นได้เป็นอย่างดี แต่ไม่รกและดึงดูดสายตาให้ละออกจากการรับชมภาพยนตร์
ตัวกรอบเป็นพลาสติก ด้านหน้าซาวด์บาร์เป็นตะแกรงอะลูมิเนียม ตรงกลางด้านล่างมีแผงควบคุมเล็กๆ อยู่ มีหน้าจอแสดงผล LED ใช้สัญลักษณ์ต่างๆ ในการแสดงผล มีปุ่มควบคุม 4 ปุ่ม คือ เพิ่ม/ลดเสียง, ปุ่มเลือกโหมดเชื่อมต่อ และปุ่มปิดเสียง
ด้านหลังของซาวด์บาร์มีรูไว้ให้สำหรับแขวน ส่วนด้านล่างมีช่องเชื่อมต่ออยู่ 4 แบบ ได้แก่ ช่องเสียบรับไฟ, ช่องเสียบสาย Optical, ช่องเสียบสาย AUX และช่องเสียบ USB Type A สำหรับอัพเดทเฟิร์มแวร์ (ไม่สามารถเชื่อมต่อ USB Storage เพื่อฟังเพลง)
มาดูซับวูฟเฟอร์กันบ้าง เป็นตู้ Active ทรงสี่เหลี่ยมโทนสีเดียวกับซาวด์บาร์ ตัวกรอบเป็นไวนิลลายไม้ ดูมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก ใช้การเชื่อมต่อไร้สาย ด้านหลังจึงมีเพียงช่องเสียบรับไฟและไฟ LED เล็กๆ คอยแสดงสัญญาณเชื่อมต่อแบบไร้สาย ภายในตู้ดีไซน์เป็นแบบ Slot-Port บวกกับไดรเวอร์ที่อยู่ใต้ตู้ ยิงเสียงลงด้านล่าง เพื่อให้ได้เสียงที่ลึกและทรงพลังมากขึ้น
ของแถมที่พ่วงมาในชุดด้วย ได้แก่ หัวแปลงสำหรับเสียบรับไฟ, รีโมต และคู่มือการใช้งาน
Features – ลูกเล่น
Klipsch R-4B พกลูกเล่นไว้มากมาย ที่บอกเลยว่าไม่ได้มาเล่นๆ โดยฟีเจอร์แรกนั้นคือการรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายด้วยสัญญาณ Bluetooth ทั้งตัวซาวด์บาร์และซับวูฟเฟอร์เลย ไม่ต้องต่อสายให้เกะกะ หากต้องการฟังเพลงจากสมาร์ตโฟน เพียงแค่เลือกโหมด Bluetooth ก็เชื่อมต่อได้อย่างง่ายดาย
พร้อมด้วยฟีเจอร์ด้านโหมดการใช้งานที่หลากหลายถึง 3 โหมด ทั้งโหมดเซอร์ราวด์ ที่กระจายเสียงออกไปรอบทิศทาง เพิ่มมิติของการฟัง ซึ่ง R-4B รองรับDolby Digital อยู่แล้วด้วย จึงทำให้เสียงจากการชมภาพยนตร์ที่มี Dolby Digital มีความเสนาะหูเข้าไปอีก
หรือจะโหมด Voice Enhance อันเป็นไฮไลท์ของ R-4B สามารถเร่งเฉพาะเสียงพูดให้ดังขึ้น โดยไม่เพิ่มความดังของเสียงอื่นๆ ตามมา ช่วยในการฟังบทสนทนาของภาพยนตร์ได้ชัดเจนมากกว่าเดิม โดยการควบคุมย่านความถี่บางช่วงให้ให้กระชับขึ้น ซึ่งยังช่วยเพิ่มรายละเอียดในการฟังเพลงให้มีความไพเราะมากขึ้น
ปิดท้ายด้วยโหมดกลางคืน ที่จะปรับไดนามิกเรนจ์ของเสียงให้แคบลง ควบคุมเสียงให้อยู่ในระดับพอเหมาะแก่การฟังตอนกลางคืน ไม่รบกวนต่อภายนอก