08 May 2019
Review

รีวิว Oppo UDP-205 Universal Player !!? ไฮเอ็นด์จัดเต็มในยุค 4K HDR พร้อม DAC ที่ไม่ได้ให้มาเล่นๆ


  • ชานม

Connectivity – ช่องต่อ

การจัดวางช่องต่อสัญญาณ โดยเฉพาะ “อะนาล็อกออดิโอเอาต์” ถูกแยกไว้เป็นอิสระ ง่ายต่อการเสียบสายมากกว่า 203

จุดเชื่อมต่อสัญญาณหลัก ประกอบไปด้วย HDMI 2.0 Out จำนวน 2 ช่อง แยกสัญญาณภาพและเสียงได้ เพื่อคุณภาพสัญญาณสูงสุด รองรับความละเอียดสูงสุด 4K 60Hz และระบบเสียง Dolby Atmos, DTS:X และ Auro-3D (แบบ Bitstream)

กรณีที่ต้องการแยกสัญญาณภาพ-เสียงจาก HDMI Out ทั้ง 2 ช่อง ของ 205 ไม่จำเป็นต้องตั้งค่าใดๆ เพราะระบบฯ จะตรวจจับได้ว่ามีการเชื่อมต่ออุปกรณ์อยู่ที่ช่องใดบ้าง และทำการปรับตั้งค่า HDMI Output ให้เองโดยอัตโนมัติ กระนั้น แนะนำว่าควรเชื่อมต่อสัญญาณภาพที่ช่อง HDMI (Main) Out และเสียงที่ช่อง HDMI (Audio Only) Out

HDMI 2.0 In จำนวน 1 ช่อง มีไว้เพื่อเชื่อมต่อสัญญาณวิดีโอจากภายนอก เพื่อทำการ “อัพสเกล” ผ่าน Oppo 205 ได้ความละเอียดสูงสุดถึง 4K 60Hz อย่างไรก็ดีการเชื่อมต่อสัญญาณภายนอกผ่าน HDMI In ของ 203 จะทำให้ค่า HDMI Input Lag เพิ่มสูงขึ้นด้วย จึงอาจส่งผลกระทบกับการรับชมบางคอนเทนต์… คำแนะนำ คือ ไม่ควรนำอุปกรณ์อย่าง Game Console หรือ PC มาเชื่อมต่อผ่าน HDMI In ของ 205 ครับ

ในส่วนช่องสัญญาณออดิโอเอาต์แบบดิจิตอล มีให้ทั้ง Coaxial Output และ Optical Output และยังมี อะนาล็อกออดิโอเอาต์แบบ 7.1 แชนเนล ให้ด้วย ซึ่งหาได้ยากสำหรับมาตรฐานเพลเยอร์ในปัจจุบัน ช่องต่อทั้งหมดนี้ได้รับการชุบทองเงาวับ

ช่องต่ออื่นๆ มี USB 3.0 จำนวน 2 ช่อง, Gigabit Ethernet portRS-232 และ Trigger Input/Output เช่นเดียวกับ 203 คือ ที่ด้านหลังยังมีจุดรับสัญญาณรีโมตคอนโทรล IR ด้วย สามารถรับสัญญาณรีโมตได้เกือบรอบด้านเลยทีเดียว

เช่นเดียวกับ 203 คือ 205 ยังติดตั้ง 802.11ac Wi-Fi Built-in มาในตัว (ไม่ได้ให้เป็น USB Wi-Fi แบบรุ่นก่อนๆ) ความสามารถด้านเน็ตเวิร์กไม่ต่างกัน รองรับการสตรีมมิ่งวิดีโอ 4K และเพลง Hi-res จาก NAS หรือ PC ผ่านระบบเน็ตเวิร์กได้

พิเศษ ที่เพิ่มเข้ามากับ 205 (ไม่มีในรุ่น 203) นอกจากอะนาล็อกออดิโอเอาต์พุต 2 แชนเนล แยกอิสระทั้งแบบ RCA และ XLR แล้ว ยังมีช่องต่อในกลุ่มของ Digital Audio Input เพื่อเพิ่มประโยชน์ใช้สอยให้กับภาค DAC คุณภาพสูงภายใน 205 นั่นเอง ช่องต่อที่ว่า ได้แก่ Optical Input, Coaxial Input และ USB Audio Input (รายละเอียดจะกล่าวถึงอีกครั้งช่วงรายงานคุณภาพเสียง)

ขั้นตอนเลือกใช้ช่องรับสัญญาณต่างๆ ของ 205 ทำได้โดยกดปุ่ม Input ที่รีโมต

Features – เพิ่มเติม

ความสามารถของ 205 มีความหลากหลาย สามารถเล่นแผ่น 4K UHD HDR Blu-ray Disc ไปจนถึงฟอร์แม็ตแผ่นดิสก์ต่างๆ ได้ครบครัน และยังรองรับไฟล์วิดีโอ เพลง หรือรูปภาพ

รองรับมาตรฐาน HDR ทั้ง HDR10 และล่าสุด Dolby Vision 

รูปแบบแผ่นดิสก์ SACD สามารถเล่นได้ แสดงข้อมูลในส่วนของ CD Text ได้ด้วย อย่างไรก็ดี 205 ไม่สามารถดึงข้อมูลภาพปกของ SACD/CD จากฐานข้อมูลออนไลน์มาได้นะครับ (เดิมความสามารถนี้ รุ่นก่อนๆ ทำได้)

การเล่นไฟล์เพลง 205 ก็รองรับหลากหลาย โดยเฉพาะ Hi-res Formats อาทิ DSD128, WAV, FLAC, ALAC, … พิเศษสำหรับ FLAC และ MP3 นอกจากแสดงข้อมูลชื่อเพลง-ศิลปิน-อัลบั้มได้แล้ว ยังสามารถแสดงภาพปกได้ด้วย (ถ้าไฟล์มีข้อมูลภาพปกอยู่)