19 Jan 2014
Review

จี๊ด จ๊าด !!! รีวิว Panasonic 42ET5T สุดยอด 3D LED TV หนึ่งในใต้หล้า บูรพาไม่แพ้


  • lcdtvthailand

ภาพ

เริ่มต้นกันที่สเปคของ Panasonic 42ET5T ตัวนี้ เป็น EDGE LED ที่มีหลอดแบคไลท์วางอยู่ตามขอบ มาพร้อมความละเอียดแบบ Full HD 1920 x 1080 หรือ 2 ล้านพิกเซลที่พนักงานขายชอบพูดกันนั่นเอง ตัวจอนั้นใช้ Panel แบบ IPS LED ที่มีข้อดีคือ มุมมองในการรับชมกว้างขวาง ซึ่งทางทีมงานได้ทดสอบโดยการตั้งเคียงคู่กับทีวียี่ห้อหนึ่ง(รุ่นระดับราคาใกล้เคียงกัน) ผลปรากฏว่าเจ้า Panasonic 42ET5T ของเรานั้นชนะใสๆ มุมมองด้านข้างที่ยังให้สีได้ไม่ผิดเพี้ยน ส่วนในด้าน 3D นั้นเป็นแบบ Polarized และมีฟังก์ชั่นอินเตอร์เน็ตอย่าง Viera Connect มาให้ใช้งานได้อีกด้วย 

อุณหภูมิสี Panasonic 42ET5T ในแต่ละโหมดภาพ
Dynamic11,550
Normal10,170
Cinema9,818
True Cinema6,875
Game10,236

ก่อนจะทดสอบหนัง Hi-Definition ก็มาปรับภาพและทดสอบอุณหภูมิสีกันหน่อย เริ่มกันทีอุณหภูมิสีในโหมดต่างๆ อ้างอิงจาก 6500K (เคลวิน) ที่นับเป็นสีขาวที่ถูกต้อง ซึ่งค่า 6500K นี้จะมาจากการที่ค่าแสง Red Green Blue ผสมออกมาในอัตราส่วนเท่าๆกัน ถ้ามากไปก็จะออกเป็นแนวขาวอมฟ้า หรือถ้าน้อยไปก็อาจจะติดเหลืองอยู่บ้าง แต่ในโหมดที่เราวัดออกมาได้ใกล้เคียง 6500K ที่สุดก็คือ True Cinema เหมาะกับการนั่งดูในห้องที่คุมแสงได้ ภาพจะออกมาในโทนสบายตา นุ่มนวล และใกล้เคียงกับต้นฉบับ ส่วนโหมดอื่นๆนั้นจะให้ภาพที่สดสว่างกว่า  ถ้าดูในห้องที่มีแสงสว่างมากๆก็ถือว่าโอเคครับ แล้วแต่ความชอบของแต่ละท่าน

เรื่องนี้คุ้นกันไหมครับ Blu-Ray เรื่อง Armageddon หนังในตำนาน

หลังจากวัดอุณหภูมิสีกันไปแล้วก็มาถึงปรับภาพเบื้องต้น ขอเริ่มจาก Contrast ที่แนะนำให้ปรับไปเกือบสุดเลยคือ 99 ก็ยังไม่เกิดอาการขาวโพลน ถัดมาคือ Brightness หรือ “ระดับสีดำ” เซ็ทไว้ที่ +4 Color นั้นอยู่ที่ 55 และ Sharpness ลดลงมาประมาณ 39 ภาพจะดูไม่หยาบกร้านจนเกินไปและยังมีความชัดอยู่อีกด้วย
** ทั้งนี้ค่าที่ปรับเป็นเพียงการอ้างอิงเบื้องต้น อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามปัจจัยหลายๆอย่าง ทั้งตัวทีวีเองหรือองค์ประกอบอื่นๆ รวมทั้งความพึงพอใจของผู้ใช้งานด้วยครับ **

ค่าปรับภาพของ Panasonic 42ET5T
วัดการไล่ระดับความสว่างของ Panasonic 42ET5T ที่ Gamma 2.2 ด้วย CalMAN v4 ดูจากกราฟนี้ถือว่าทำได้ดีมากๆทีเดียว ตั้งแต่ 0-100 ทีวีรุ่นท็อปบางตัวยังทำได้ไม่ดีขนาดนี้เลยครับ

ทดสอบกับภาพยนตร์ Hi-Definition
ผมพยายามเลิอกหนังที่มีฉากมืดๆค่อนข้างเยอะ เพราะอยากจะทดสอบเรื่องการแสดงรายละเอียดในที่มืดของเจ้าทีวีตัวนี้ เริ่มกันที่ Armageddon ฉากระเบิดของกลุ่มอุกกาบาตถล่มเมืองที่อยู่ในช่วงแรกนั้น สังเกตุจากแสงเงาที่เกิดขึ้น ตัว Panasonic ET5T ก็ให้รายละเอียดออกมาพอใช้ได้ มีดำจมบ้างในบางฉาก และมิติภาพลึกตื้นชัดเจน แนวภาพของตัวนี้ก็ให้อารมณ์อบอุ่นซอฟท์ ดูนานๆก็ไม่เมื่อยล้า ตามสไตล์ของ Panasonic ซึ่งต้องยอมรับว่ามุมมองด้านข้างของ Panel IPS LED กว้างขวางและช่วยให้เวลานั่งดูกันหลายๆคน ยังคงอรรถรสไว้เต็มที่เช่นเคยครับ

รายละเอียดในที่มืดอย่างใต้ท้องรถที่ระเบิด ก็ยังแสดงออกมาได้ดี ในฉากนี้ไม่ติดดำจมจนเกินไป
หลังจากปรับภาพแล้ว มาดูหนวดเคราของลุง “บรูซ วิลลิช” กันต่อ ในด้านที่อยู่มืดๆก็แสดงออกได้ดีขึ้น แต่บางส่วนยังจมหายไปบ้าง ถ้าไม่สังเกตุจริงๆก็ไม่เป็นปัญหากับการรับชมแต่อย่างใด
การ์ตูนอนิเมชั่นเรื่อง Ice Age 3 ดูจากโหมด True Cinema ก็สบายตา หรือถ้าต้องการแบบจัดจ้านก็เลือก Vivid ไปเลยไม่มีปัญหาสำหรับการรับชมการ์ตูน
แสดง Picture Mode ในแบบต่างๆพร้อมอัตราการกินไฟ

โหมดภาพสำเร็จรูป – Picture mode
ผมได้วัดอัตราการกินไฟในแต่ละโหมดภาพเอาไว้ ซึ่งแตกต่างกันเล็กน้อย ในที่นี้แต่ละโหมดภาพจะมีเอกลักษณ์ชัดเจน แล้วแต่คนชอบและลักษณะการใช้งานครับ ผมขอสรุปไว้คร่าวๆดังนี้

Dynamic – ให้สีสันที่สดและจัดจ้านและภาพออกไปแนวสว่าง เหมาะดูในห้องที่สว่างจ้า เป็นโหมดที่เห็นเปิดตามร้าน
Normal – โหมดภาพปกติ ที่แต่ละค่าที่ตั้งมาจะอยู่ในระดับกลาง ไม่ดูหลอกตา เหมาะกับใช้งานทั่วไปในห้องรับแขก
Cinema – โหมดภาพนี้จะนุ่มนวลและสบายตา เหมาะกับดูในห้องคุมแสงได้ในระดับกลางๆ 
True Cinema – คล้ายกับโหมด Cinema แต่แนะนำให้ดูในห้องที่มืดๆเช่นห้องนอน จะนุ่มนวลมากครับ ไม่ปวดตา ให้สีสันที่ถูกเหมือนต้นฉบับอีกด้วย
Game – โหมดนี้จะเข้มข้น หนักแน่น ออกแนวหยาบๆ เหมาะกับการเล่นเกมส์หรือดูการ์ตูนอนิเมชั่นก็ได้

ปรับระดับ Contrast ให้เหมาะสม จะช่วยให้ฉากแบบนี้ ไม่ขาวโพลนจนเกินไป ถ้าเป็นทีวีบางรุ่นจะเห็นรายละเอียดด้านหลังไม่เต็มที่
ปรับระดับ 24p Smooth Film ช่วยในภาพเคลื่อนไหวได้ ถ้าเป็นทีวีบางรุ่นจะเห็นรายละเอียดด้านหลังไม่เต็มที่
ทดสอบภาพเคลื่อนไหวกับฉากกระโดดร่ม ปราบเซียน

ภาพเคลื่อนไหวของ Panasonic ET5T นั้นมีโหมดที่ใช้การสร้างเฟรมขึ้นมานั่นก็คือ 24p Smooth Film ที่ให้เลือกปรับระดับตั้งแต่ Off / Min / Mid และ Max ครับ ซึ่งจากการทดสอบนั้น ในระดับ Min ช่วยให้ฉากแพนกล้องดูดีขึ้นมาในระดับหนึ่ง เหมาะกับดูภาพยนตร์ทั่วไปที่มีฉากเคลื่อนไหวเร็วๆ โดยให้ภาพที่ไม่หลอกตามากครับ ส่วนถ้าเป็น Mid กับ Max เหมาะกับดูประเภทการ์ตูนอนิเมชั่นมากกว่า เพราะดูกับภาพยนตร์ทั่วไปจะเห็นขอบวัตถุที่เคลื่อนไหวเบลอเล็กน้อย ดังนั้นแนะนำให้เป็น Off หรือ Min จะดีที่สุดครับ ดังเช่นในฉากกระโดดร่ม ถ้าเป็น Min ถึงแม้จะเห็นตัวละครเบลอๆบ้าง แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นแยกร่าง เป็นเงาซ้อนกัน 
** สำหรับฉากนี้เป็นฉากทดสอบ Motion ขั้นเทพ ซึ่งต้องยอมรับว่าทีวีรุ่นท็อปบางรุ่นยัง “เอาไม่อยู่” เลยทีเดียว ดังนั้นหากเป็นการใช้งานดูหนังปกติ จึงไม่ต้องกังวลกับจุดนี้มากนัก **