Extra – เพิ่มเติม

อุปกรณ์ภายในทาง Pioneer เลือกใช้ High-output EI Transformer และตัวเก็บประจุคัดเกรด เป็นขุมกำลังให้กับภาคขยายกำลังขับ 135 วัตต์ (วัดอ้างอิงที่ 6 ohms, 1 kHz, THD 1.0 %, 1ch Driven) จำนวน 7 แชนเนล นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบประมวลผล Digital Quad-Core 32-bit DSP จาก Cirrus Logic ทำหน้าที่ถอดรหัสเสียงรอบทิศทาง ควบคู่กับ AK4458 384kHz/32-bit DAC chip จาก AKM เพื่อถ่ายทอดเสียงระดับ Hi-resolution โดยสมบูรณ์

เดิมเมนูตั้งค่าของ Pioneer รุ่นก่อนๆ อาจจะดูเชยไปนิด แต่ล่าสุดได้รับการปรับปรุง เพิ่มสีสันให้ดูสวยงาม การจัดกลุ่มหัวข้อต่างๆ ก็ดูอ้างอิงเข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิม

Network Features ก็มาครบ สามารถรับฟัง Online Music ผู้ให้บริการเด่นๆ อย่าง TuneIn, Spotify, TIDAL, Amazon Music, Deezer ขณะเดียวกันก็แชร์เพลงร่วมกับอุปกรณ์ภายในเครื่อข่าย ผ่าน DLNA, DTS PlayFi หรือ AirPlay ได้

VSX-934 สามารถรับสัญญาณเสียงจากทีวีผ่านทาง HDMI ARC รองรับระบบเสียง Dolby Atmos (Dolby Digital+), Dolby Digital และ DTS 5.1 (ทีวีต้องรองรับด้วย)

Setup Microphone ที่ให้มา มีไว้ใช้งานร่วมกับ MCACC (Multi-Channel Acoustic Calibration System) ระบบช่วยเหลืออ้างอิงตั้งค่าลำโพงรอบทิศทาง ดำเนินการแบบกึ่งอัตโนมัติ ช่วยประหยัดเวลาลดขั้นตอนยุ่งยากได้เยอะเลย

ขั้นตอนสำคัญก่อนดำเนินการใช้งานระบบ MCACC คือ การกำหนด Speaker Channels ให้ตรงกับการติดตั้งลำโพงจริงในระบบ กรณีที่จะรับฟังระบบเสียง Dolby Atmos/DTS:X สามารถกำหนดรูปแบบลำโพงที่รองรับได้ตั้งแต่ 2.1.2 ไปจนถึง 5.1.2

กรณีที่ไม่มีลำโพง Top Surround ติดตั้งอยู่ สามารถเปิดใช้ฟีเจอร์ Speaker Virtualizer ที่ Pioneer แจ้งว่าสามารถใช้ “จำลอง” มิติเสียงด้านสูงในระบบ Dolby Atmos/DTS:X ได้ อย่างไรก็ดีผลการใช้งานจริงพบว่า ยังไม่สามารถเทียบชั้นบรรยากาศเสียงที่ได้จากลำโพง Top Surround จริงๆ ครับ