ถ้าหากเอ่ยชื่อของ JBL แล้วหลายๆ คนน่าจะไปนึกถึงผู้ผลิตเครื่องเสียงชั้นนำที่มีทั้งกลุ่มเครื่องเสียงภายในบ้านและเครื่องเสียงระดับ Professional กันอย่างแน่นอน ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ JBL ก็ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่ในเรื่องของการดูหนัง-ฟังเพลง หรืองานในระดับ Pro เท่านั้นเพราะพวกเขาได้เปิดตัวหูฟังในกลุ่มเกมมิ่งอย่าง JBL Quantum Series กันไปเมื่อไม่นานมานี้
ด้วยความที่พวกเขานั้นคร่ำหวอดในวงการเครื่องเสียงมานานด้วยระยะเวลาที่ยาวนานกว่า 70 ปี ทันทีที่แรกเห็นหูฟังเกมมิ่งซีรีส์นี้เปิดตัวก็มีเหล่าเกมเมอร์ก็ล้วนแล้วแต่อยากจะสัมผัสและจับจองเป็นเจ้าของด้วยกันทั้งนั้น
เล่ากันมาขนาดนี้ในรีวิวนี้ก็คงหนีไม่พ้นหูฟัง JBL Quantum Series กันอย่างแน่นอนซึ่งทีมงาน LCDTVTHAILAND จะพาทุกท่านไปรีวิวและสัมผัสรายละเอียดต่างๆ ของหูฟังซีรีส์นี้กันแบบเจาะลึกถึง 3 รุ่นด้วยกัน หูฟังซีรีส์นี้จะยอดเยี่ยมเหมาะสมกับเกมเมอร์มากแค่ไหนมาดูที่รีวิวนี้ได้เลยครับ!!
JBL Quantum Series

JBL Quantum One
–หูฟังตอบสนองย่านความถี่ตั้งแต่ 20 Hz – 40 kHz-Dynamic drivers ขนาด 50 มม.
–ไมโครโฟนแบบแบบถอดได้ (Detachable) ตอบสนองย่านความถี่ตั้งแต่ 100 Hz – 10 kHz
–มีฟีเจอร์ Active Noise Cancelling ที่ปรับแต่งมาสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ
–มีฟีเจอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวของศีรษะผู้สวมใส่ JBL QuantumSPHERE 360™
–รองรับการทำงานร่วมกับแอป JBL QuantumENGINE
–รองรับ DTS headphone:X, Hi-Res Audio, JBL QuantumSURROUND
–รองรับการรับเชื่อมต่อผ่าน พอร์ต 3.5 และ USB (รองรับ USB-C)
-Impedance (ค่าความต้านทาน): 32 ohm
–รองรับการใช้งานได้กับ PC, Xbox™, PlayStation™, Nintendo Switch™, Mobile, Mac และ VR
-ราคาเปิดตัว 9,900 บาท
JBL Quantum 400
–หูฟังตอบสนองย่านความถี่ตั้งแต่ 20 Hz – 40 kHz-Dynamic drivers ขนาด 50 มม.
–ไมโครโฟนแบบ Built-in ตอบสนองย่านความถี่ตั้งแต่ 100 Hz – 10 kHz
–รองรับ DTS headphone:X, JBL QuantumSURROUND
–รองรับการทำงานร่วมกับแอป JBL QuantumENGINE
–รองรับการรับเชื่อมต่อผ่าน พอร์ต 3.5 และ USB (รองรับ USB-C)
-Impedance (ค่าความต้านทาน): 32 ohm
–รองรับการใช้งานได้กับ PC, Xbox™, PlayStation™, Nintendo Switch™, Mobile, Mac และ VR
-ราคาเปิดตัว 3,990 บาท
JBL Quantum 200
–หูฟังตอบสนองย่านความถี่ตั้งแต่ 20 Hz – 40 kHz-Dynamic drivers ขนาด 50 มม.
–ไมโครโฟนแบบ Built-in ตอบสนองย่านความถี่ตั้งแต่ 100 Hz – 10 kHz
–รองรับการรับเชื่อมต่อผ่าน พอร์ต 3.5
-Impedance (ค่าความต้านทาน): 32 ohm
–รองรับการใช้งานได้กับ PC, Xbox™, PlayStation™, Nintendo Switch™, Mobile, Mac และ VR
-ราคาเปิดตัว 1,990 บาท
ดีไซน์
สำหรับรีวิวนี้ทางทีมงานขอแยกภาพรวมของดีไซน์กันเป็นแบบรุ่นๆ ไปโดยจะเราจะเริ่มกันที่รุ่นใหญ่อย่าง JBL Quantum One แล้วจะค่อยๆ ไล่เรียงไปยังรุ่นเล็กอย่าง Quantum 400 และ 200 ตามลำดับ ว่าแล้วไม่รอช้ามาดูกันเลยดีกว่าครับ
JBL Quantum One
รุ่นใหญ่อย่าง Quantum One นั้นจะมาพร้อมกับดีไซน์ที่ดูพรีเมียมมากที่สุดในซีรีส์เพราะหูฟังรุ่นนี้ถือว่าเป็นตัวเรือธงนั่นเองโดยตัวหูฟังจะทำมาจากวัสดุพลาสติกคุณภาพสูงพร้อมด้วย Ear Cubs แบบหนังที่มีความมนุ่มสบายมาก
บริเวณด้านข้างตัวหูฟังนั้นจะมีไฟแบบ RGB ฝังครอบไว้ทั่วหูฟังเมื่อใช้งานโดยผู้ใช้งานสามารถปรับเปลี่ยนลักษณะสีและลุกเล่นของไฟได้ตามใจชอบผ่านซอฟท์แวร์ JBL QuantumENGINE ในส่วนน้ำหนักของหูฟังก็อยู่ที่ 369 กรัมเท่านั้น ถือว่าไม่หนักไม่เบาจนเกินไป
ดีไซน์หูฟังรุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับความเป็นเกมมิ่งในระดับเรือธงอย่างมองถึงลูกเล่นของไฟ RBG และลวดลายที่ล้อมรอบหูฟังยิ่งแสดงถึงความดุดันเหมาะสมอย่างยิ่งกับเกมเมอร์แบบ Hardcore!!

อุปกรณ์ที่ให้มา JBL Quantum One
1. สายสัญญาณแบบ USB – C to USB – A พร้อมปุ่มรีโมท Game / Chat Balance Dial
2. สายสัญญาณแบบ 3.5
3. Calibration microphone (ไมค์สำหรับการคาลิเบรต)
4. คู่มือพร้อมไมค์สำหรับหูฟัง



ช่องเชื่อมต่อต่างๆ ของหูฟัง
1. ช่องสำหรับไมโครโฟน Detachable boom microphone
2. ช่องต่อแบบ 3.5
3. ช่องต่อแบบ USB-C

ปุ่มควบคุมของ Quantum One
1. ปุ่มเปิด/ปิด ฟังค์ชั่น ANC (Active Noise Cancelling) และ TALKTHRU
2. ปุ่ม Re-Center (สำหรับการตั้งค่าฟีเจอร์ Head Tracking ใหม่ให้มีความเที่ยงตรง)
3. ปุ่มควบคุมระดับเสียงของตัวหูฟัง
4. ปุ่มเปิด/ปิด ไมโครโฟน




JBL Quantum 400
มาดูกันที่ดีไซน์ของรุ่นกลางอย่าง Quantum 400 กันบ้างดีกว่าโดยรวมแล้วดีไซน์ของรุ่นนี้จะได้รับการถ่ายทอด DNA ของความเป็นหูฟังเกมมิ่งจากรุ่นเรือธงอย่าง Quantum One มาแบบพอสมควรทั้งลวดลายต่างๆ ของตัวหูฟังที่ยังคงความเป็นเกมมิ่งดูดุดันสวยงาม
บวกกับไฟแบบ RGB บริเวณโลโก้ของ JBL ที่ผู้ใช้งานสามารถปรับเปลี่ยนสีและลูกเล่นของไฟได้ผ่านซอฟท์แวร์เช่นเดียวกับรุ่นพี่ในซีรีส์เดียวกัน สำหรับน้ำหนักตัวของ Quantum 400 จะอยู่ที่274 กรัมถือว่าเบากว่า Quantum One อยู่นิดหน่อยอาจจะเป็นเพราะไม่มีระบบ ANC มาให้ในรุ่นนี้ ดีไซน์โดยรวมของหูฟังรุ่นนี้ก็ยังคงความสวยงามตามแบบฉบับของเกมเมอร์ไว้ได้อย่างครบถ้วนครับ




ช่องเชื่อมต่อและปุ่มควบคุมของ JBL Quantum 400
- Game audio-chat balance (ปุ่มสำหรับบาลานซ์เสียงของเกมและแอปแชท)
- ปุ่มควบคุมระดับเสียง
- ปุ่มเปิด/ปิด ไมโครโฟน
- ช่องต่อแบบ 3.5
- ช่องต่อแบบ USB-C


JBL Quantum 200
ปิดท้ายกันที่รุ่นเล็กอย่าง JBL Quantum 200 ที่แม้ว่าอาจจะไม่ได้มีลูกเล่นด้านลวดลายอลังการและไฟ RGB แบบรุ่นพี่ที่มาราคาสูงกว่าอย่างในรุ่น Quantum 400 หรือ Quantum One
แต่ดีไซน์โดยรวมของหูฟังรุ่นนี้ก็ยังถือว่าสวยงามน่าใช้อยู่ครับอีกทั้งหูฟังรุ่นนี้ก็ยังได้ใช้ไดร์เวอร์ขนาด 50 มม. แบบเดียวกันกับซีรีส์รุ่นสูงอื่นๆ ทั้งยังมีไมโครโฟนติดตั้งมาให้ด้วยเช่นกัน ในกลุ่มหูฟังเกมมิ่งราคาเริ่มต้นถือว่าเจ้าหูฟังรุ่นนี้มีดีไซน์ที่ไม่ย่อหย่อนไปกว่าคู่แข่งเลย


อุปกรณ์ในแพ็คเกจ
1. คู่มือ
2. หูฟัง
3. สายสัญญาณแบบ 3.5 พร้อม Spilter แยกสัญญาณ ไมโครโฟน และ เสียง


