10 Jul 2014
Review

นี่ มัน เทพ !!! รีวิว LG 55LM7600 Cinema 3D ดีไซน์สุดเจ๋ง เครื่องเดียวพร้อมทุกสถานการณ์


  • lcdtvthailand

ภาพ

สำหรับ LG ซีรีส์ LM7600 นั้น ได้มีขนาดหน้าจอตั้งแต่ 42″ / 47″ และ 55″ ครับ เป็นหนึ่งในสามหัวหอกของ LG ในปีนี้เลยคือ ( LM7600 / LM8600 / LM9600 ) ด้วยคุณสมบัติต่างๆที่ใกล้เคียงกันเช่น ระดับราคาที่ถูกกว่าและที่สำคัญคือ เป็น Edge LED ที่สามารถทำ Local Dimming ได้ ช่วยให้เวลาดูในห้องมืดๆนั้น ลดอาการแสงรั่วตามขอบได้ดีทีเดียว ในส่วนฉากที่เป็นสีดำก็จะดำสนิทยิ่งขึ้น ถึงแม้จะไม่เทียบเท่า Nano Full LED Local Dimming ในรุ่น LM9600 ตัวท็อป แต่ก็เห็นผลได้ค่อนข้างชัดเจน ส่วนในด้าน 3D นั้นก็เป็นแบบ Polarized ใช้แว่นตาน้ำหนักเบา สวมใส่สบาย ให้ความรู้สึกเดียวกับโรงภาพยนตร์ ต่อยอดความสำเร็จมาจากปีที่แล้ว และปิดท้ายด้วย Smart TV เล่นอินเตอร์เน็ตฟังก์ชั่นครบถ้วนไม่แพ้รุ่นพี่อย่าง LM9600 ได้อีกด้วย

ปล. LED TV ที่ขายกันในปัจจุบันนี้กว่า 95% เป็น Edge LED ที่ไม่สามารถทำ Local Dimming ได้ รวมไปถึง Direct LED รุ่นล่างๆ ก็เช่นเดียวกันครับ ทำให้ LM7600 มีความแตกต่างเป็นอย่างมาก มาดูภาพตัวอย่างกันครับ

Picture Mode
พูดถึงทีวี ก็ต้องเน้นที่ภาพเป็นสิ่งสำคัญในรุ่น LM7600 นั้นมีโหมดภาพสำเร็จรูปมาให้มากมายเช่นเดียวกันกับรุ่นอื่นๆ แต่ที่เป็นไฮไลท์เลยก็คือโหมด ISF Expert ( Imaging Science Foundation ) เป็นโหมดภาพที่ให้สีสันของภาพสมจริง เหมือนกับต้นฉบับทำออกมามากที่สุด ซึ่งรวมไปถึงให้อุณหภูมิสีของภาพให้ถูกต้องด้วยคือการอ้างอิงจากสีขาวที่ใกล้เคียงกับ 6500K จะนับเป็น “สีขาวที่ถูกต้อง” ซึ่งผมก็มีผลการทดสอบโดยใช้เครื่องมือวัดค่าออกมา ซึ่งได้ตามตารางด้านล่างนี้ครับ

อุณหภูมิสี LG 55LM7600 ในแต่ละโหมดภาพ
VIVID14,685
Standard9,730
Cinema6,084
Game7,770
ISF Expert 16,070
ISF Expert 26,040

จะเห็นได้ว่าในโหมด ISF Expert 1 และ 2 วัดอุณหภูมิสีด้วยเครื่องมือของทางทีมงาน ออกมาได้ใกล้เคียง 6500K มากที่สุด ( ซึ่งโดยปกติถ้าอยู่ในหลัก 6XXX ก็ถือว่าเยี่ยมยอดแล้ว ) โดยผมวัดภายใต้การตั้ง Gamma ไว้ที่ระดับ 2.2 แต่ถ้าเราตั้งระดับ Gamma ไว้ที่ 1.9 ผลที่ได้ก็คือในโหมด ISF Expert 1 จะได้อุณหภูมิสีที่ 6,479 เป็นระดับที่ใกล้เคียงกับ 6500K มากที่สุด ทั้งนี้เมื่อดูภาพจริงแล้วออกจะติดโทนขาวสว่างไปสักนิด ควรดูในห้องที่มีแสงสว่างมากๆ ในจุดนี้แล้วแต่ผู้ใช้งานชอบครับ แต่ผมแนะนำว่าปรับ Gamma เป็น 2.2 จะให้ภาพที่ดูอิ่ม เต็มเม็ดเต็มหน่วยกว่า  

โหมดภาพของ LG LM7600 1. Intelligent Sensor – โหมดนี้จะเปิดการทำงานของเซ็นเซอร์วัดความสว่างและปรับระดับแบคไลท์ให้เหมาะสม เช่นในห้องที่มีแสงมากๆก็จะเร่งแบคไลท์ให้มากขึ้นเพื่อลดการสะท้อน ห้องมืดๆก็จะปรับลดระดับลงเพื่อให้ไม่แสบตา
2. Vivid – เร่งให้ภาพมีสีสันสดมากขึ้น เป็นโหมดที่ส่วนมากจะเปิดโชว์ตามร้านขายทีวีต่างๆ แนวภาพจัดจ้าน
3 Standard – โหมดนี้จะปรับค่าต่างๆ อยู่ในระดับกลางคือ 50 ถือเป็นโหมดมาตรฐานจากโรงงาน
4. Cinema – เป็นโหมดที่ดูแล้วนุ่มนวล สบายตาเหมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์ เหมาะกับดูในห้องที่คุมแสงได้มากๆ
5. ISF Expert – โหมดภาพสำเร็จรูปที่ดูสบายตาเช่นเดียวกัน เหมาะกับการดูในห้องที่คุมแสงได้ และยังสามารถปรับ White Balance , Color Management System ได้อีกด้วย 

ปรับภาพเบื้องต้นด้วยแผ่น DVE ให้กับ LG LM7600

ตัว LG 55LM7600 นั้น ถือว่าค่ามาตรฐานจากโรงงานที่ตั้งมาก็แสดงภาพได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ผมก็ไม่ลืมที่จะใช้แผ่น DVE ในการปรับภาพเบื้องต้นให้ดูครับ โดยเริ่มจากสิ่งที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือ Brightness ที่แสดงระดับสีดำของภาพว่าจะดำจมหรือดำลอย โดยปรับเพิ่มให้เป็นระดับ 52 เท่านั้น ทดสอบในฉาก “บรูซ วิลลิส” ที่คุ้นเคย ก็ถือว่าแสดงรายละเอียดในที่มืดได้ดีพอๆกับตัว LM9600 รุ่นท็อป เลยทีเดียว ส่วน Contrast นั้นเพิ่มไปเต็มเหนี่ยวเลยคือประมาณ 98  ต่อมาคือ Colour ให้คงไว้ที่ระดับ 50 ตามค่าที่ให้มาถือว่าเหมาะสมแล้ว H Sharpness และ V Sharpness ก็ไว้ที่ 10 หลายๆท่านที่ใช้รุ่น LG 55LM7600 ก็ลองเอาไปปรับดูได้นะครับ

ฉากที่ใช้ทดสอบรายละเอียดในที่มืดจริงๆแล้วแสดงรายละเอียดบนใบหน้าได้ดีครับ เห็นหนวดเคราชัดเจน แต่เนื่องจากข้อจำกัดของตัวกล้องและสถานที่ถ่ายทำ เลยทำให้ภาพดูมืดลงไปกว่าความเป็นจริง ส่วนข้อแนะนำคือ Dynamic Contrast นั้นแนะนำให้ปรับเป็น Off ไว้นะครับ

ทดสอบกับภาพยนตร์ 2D
สำหรับการดูหนังแบบ High-Definition เป็นตัววัดความสามารถในการแสดงภาพของทีวีได้เป็นอย่างดี ถ้าได้ทีวีคุณภาพเยี่ยม ก็จะสื่ออารมณ์และความต้องการของตัวหนังออกมาได้ครบทุกส่วน สำหรับการทดสอบของผมในครั้งนี้จึงได้ใช้เครื่องเล่นระดับเทพอย่าง OPPO BDP-95 เชื่อมต่อโดยตรงเข้ากับทีวีผ่านสาย HDMI ของ LCDTVTHAILAND รุ่นมาตรฐานที่ใช้ร่วมเดินทางทดสอบทีวีมาแล้วกว่าหมื่นลี้ เรื่องแรกที่เอามาทดสอบก็ไม่พ้นขาประจำอย่าง “Fast Five” เป็นหนังที่ทั้งคุณโรมันและทีมงานเราหยิบยกมาอ้างอิงได้เสมอ เพราะมีฉากที่ได้ทดสอบทั้งภาพเคลื่อนไหว หรือทดสอบรายละเอียดในที่มืดต่างๆ  สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดจากเจ้าทีวี LG 55LM7600 ตัวนี้คือมีคาร์แร็คเตอร์ของภาพที่ใสและมีความโดดเด่นกระชุ่มกระชวย ความมีมิติของภาพ 2D ดูแล้วลึกตื้นกินใจผู้ชม ลืมความคิดว่า Cinema 3D จะโดดเด่นแค่ภาพ 3D เพียงอย่างเดียวไปได้เลย ประกอบกับดีไซน์ของทีวีที่มีขอบบาง เหมือนรุ่น LG LM9600 ที่คุณโรมันแนะนำให้วางตัดกับกำแพงด้านหลังที่เป็นสีโมโนโทน เจ้าตัว LM7600 นี้ ผมก็ขอแนะนำในลักษณะเดียวกันครับ ยิ่งถ้าจับคู่กับโฮมเธียเตอร์เสียงแจ่มๆสักชุด ปรับภาพแล้วนั่งดูในห้องที่คุมแสงได้ ขอบอกว่าได้อารมณ์เหมือนอยู่ในโรงหนัง โรแมนติกสุดๆ แม้คุณจะดูหนังแข่งรถ !

ทดสอบ Blu-Ray 1080p เรื่อง Fast Five

ทดสอบการ์ตูนอนิเมชั่นในด้านสีสัน ผมได้ใช้แผ่น DVE ทำการปรับ Colour ในโหมด ISF Expert 1 ซึ่งในการวัดค่านี้สะดวกมากเพราะตัวทีวีมีฟังก์ชั่น “Colour Filter” มาให้ด้วย เราก็เลือกไปที่ Blue ผลออกมาดังภาพด้านล่างนี้เลย ตีความหมายง่ายๆคือในค่า Standard ที่ 50 จัดเป็นค่าที่เหมาะสมที่สุดแล้วครับ

สีสันของภาพโดยรวมมีความสดอิ่ม เป็นธรรมชาติ อาจจะด้วยคาร์แร็คเตอร์ของตัวจอภาพด้วย
ทำให้มีความนุ่มนวลอยู่ในตัว ซึ่งในโหมด ISF Expert 1 ทำออกมาได้ดีอยู่แล้วครับ

Aspect Ratio อัตราส่วนภาพ
อัตราส่วนภาพนั้นก็ยังมีให้หลายรูปแบบ เช่นเดียวกันกับ LG รุ่นอื่นๆ แต่ที่แนะนำให้ใช้กันคือแบบ Just Scan ที่จะแสดงภาพออกมาเต็มอัตราส่วน แบบไม่ผิดเพี้ยนพิกเซล อัตราส่วนอื่นๆก็จะแสดงตามภาพด้านล่างนี้เลยครับ เช่น 4:3 สำหรับคนที่ต้องการดูฟรีทีวีแบบ “หน้าไม่บาน” ก็สามารถเลือกใช้ได้ และในโหมด Zoom ของทุกอันก็จะสามารถเลือกย่อ/ขยาย/ปรับตำแหน่งของหน้าจอส่วนที่ต้องการได้เช่นเดียวกัน

ภาพเคลื่อนไหวของตัว LG LM7600 นี้ จะมีตัว MCI ( Motion Clarity Index 800 ) หรือ TruMotion 240Hz นั่นเอง ซึ่งสามารถเลือกระดับการใช้งานได้ตั้งแต่ Off / Smooth / Clear / Clear Plus โดยทั้ง Clear และ Clear Plus ไม่ต่างกันมากให้ภาพลื่นไหล ส่วน Smooth จะดูสว่างนุ่มนวลกว่าเล็กน้อย ผลการทดสอบในฉากโหดๆก็ถือว่า “เอาอยู่” เช่นฉากกระโดดร่มในเรื่อง  Transformer 2 ก็มีเงาโผล่มาให้เห็นเล็กน้อย (เฉพาะฉากโหดขั้นเทพที่ทางทีมงานเคยนำไปทดสอบให้หลายท่านรับชมกันในงาน BAV Hi-End Show 2011) ซึ่งตัว LM9600 ทำได้ดีกว่าในจุดนี้ แต่ถือว่าเหนือกว่ารุ่นปีที่แล้วหลายๆรุ่นของปี 2011

ในส่วนนี้จะทดสอบความดำของภาพกัน

อย่างที่กล่าวไปในข้างต้น ตัว LG LM7600 รุ่นนี้เป็น Edge LED หลายท่านจึงกังวลในด้านความดำของภาพและอาการแสงรั่วตามขอบเหมือนทีวีรุ่นอื่นๆ ซึ่งตอนที่ดูในห้องสว่างๆมักจะไม่มีปัญหา ถ้าปิดไฟ ใส่หมวก ตรงดิ่งเข้าด่านตรวจแล้วหลายคนกลัวว่าจะหงายเงิบ แต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะฟังก์ชั่น Local Dimming มีมาให้ใช้งานกันด้วย แม้จะคุมได้ไม่ละเอียดเท่า Full LED แต่ก็ช่วยได้เยอะทีเดียว โดยทีวีจะดิมแบคไลท์ตามขอบเป็นโซนๆ ตัวอย่างเช่นในฉากพระจันทร์ด้านบน ก็ถือว่าทำได้ดีไม่มีปัญหาแต่อย่างใด โดยแนะนำว่าปรับระดับเป็น High ไปเลยครับ 

ปรับเป็น High ไปเลยครับ LED Local Dimming