
หากพูดถึง OLED TV รุ่นยอดนิยมตลอดกาลของ LG คงไม่พ้น C Series ด้วยคุณสมบัติจัดเต็มใกล้เคียงรุ่นท็อป แต่ราคาเอื้อมถึงได้ง่ายกว่า และในปี 2022 นี้ ยังอัพเกรดมาใช้ OLED evo Panel ภาพจึงโดดเด่นใกล้เคียงรุ่นท็อปมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม… ความแตกต่างจะมากเพียงใด ติดตามจากรีวิวนี้ได้เลย !
ปัจจุบัน C2 มีให้เลือกมากถึง 6 ขนาด ได้แก่ 42, 48, 55, 65, 77 และ 83 นิ้ว จีงรองรับการใช้งานเป็นทั้งมอนิเตอร์ตั้งโต๊ะ ไปจนถึงใช้รับชมภาพยนตร์จอใหญ่ในห้องโฮมเธียเตอร์ได้เต็มตา
ดีไซน์








Magic Remote ที่มีความสามารถแบบ Air Mouse ใช้งานสะดวกกระชับมือ, คุณสมบัติ “NFC” ซึ่งช่วยให้การจับคู่กับ Smartphone เพื่อแชร์คอนเทนต์ขึ้นจอทีวีทำได้สะดวกมากยิ่งขึ้น, ปุ่ม Shortcut Disney+ กับ Google Assistant สามารถใช้งานได้แล้ว (Amazon Alexa ยังไม่รองรับการใช้งานในประเทศไทย) และแน่นอนว่ามีไมโครโฟนรับคำสั่งเสียง
ช่องต่อ

ช่องต่ออื่นๆ ที่ให้มา ได้แก่ Digital Optical Audio Output, Ethernet Port (มี Wi-Fi & Bluetooth Built-in ให้ด้วย) และ DVB-T2 Antenna In
USB 3 ช่อง เป็นเวอร์ชั่น 2.0 ทั้งหมด สามารถเชื่อมต่อกับ USB Flash Drive, External HDD และอาจรวมถึง Keyboard, Mouse ฯลฯ
ไม่มี Analog Video (Composite)/Audio Input ซึ่งไม่น่าจะมีใครใช้แล้ว ส่วน Headphone Out จะมีเฉพาะรุ่นจอเล็ก (42, 48 นิ้ว) เท่านั้นครับ
สรุปจำนวนช่องต่อของ LG 65C2 ได้ดังนี้
HDMI™ In | 4 (ด้านข้าง) เป็น HDMI 2.1 ทั้งหมด |
USB | 3 (ด้านข้าง) |
Ethernet | 1 (ด้านข้าง) พร้อม Wi-Fi Built-In |
Composite Video In | – |
Component Video In | – |
RF (Antenna) In | 1 (ด้านข้าง) พร้อม DVB-T2 Digital Tuner |
PC HD15 In | – |
Analog Audio In | – |
Digital Audio Out | 1 (Optical ด้านข้าง) |
Audio/Headphone Out | มีเฉพาะรุ่น 42 และ 48 นิ้ว |
Bluetooth Audio | Yes |