เพิ่มเติม
Smart Hub 2013
มิใช่เฉพาะการสานต่อวิธีการควบคุมด้วยรูปแบบที่แตกต่างเท่านั้น ในส่วนของ User Interfaces อย่างหน้า Smart Hub ก็มีการพัฒนาให้รองรับการใช้งานได้โดดเด่นกว่าเดิม โดยการแบ่งหมวดหมู่การเข้าถึงให้เด่นชัดมากยิ่งขึ้น
ซึ่งหมวดหมู่ของ Smart Hub สำหรับ Samsung Smart TV 2013 แบ่งออกเป็น 3 หมวด (หากเป็น Sumsung Smart TV รุ่นที่วางขายในต่างประเทศ จะมีหมวดให้เลือกเพิ่มมากขึ้น)
ภาพ
แล้วถ้าเทียบศักยภาพของ F8000 กับรุ่นก่อน ES8000 ล่ะ จะเป็นเช่นไร?
Picture Mode | CTT (°K) | Gamma | Luminance (fL) | Consumption (W) | Backlight |
F8000 – Dynamic | 20035 | 1.41 | 129.3 | 125 | 20 (Max) |
ES8000 – Dynamic | 24124 | 1.36 | 175.1 | 131 | 20 (Max) |
F8000 – Movie (Calibrated) | 6474 | 2.23 | 56.6 | 84 | 10 |
ES8000 – Movie (Calibrated) | 6524 | 2.19 | 52.1 | 92 | 10 |
อย่างไรก็ดีรุ่นใหม่ เพิ่มเติมฟีเจอร์ Cinema Black อันเกี่ยวเนื่องกับการคอนโทรลระดับแสงสว่างของ Backlight โดยเฉพาะพื้นที่ส่วนบนและล่างของจอภาพ จะมีระดับพื้นสีดำที่ดำลึกยิ่งขึ้น สังเกตได้ชัดเมื่อทำการรับชมคอนเทนต์ภาพยนตร์อัตราส่วน 2.35:1 (21:9) ซึ่งจะมีแถบ Black Bar บน-ล่าง ตลอดการรับชม
การเปลี่ยนแปลงของระดับ Backlight จาก Eco Sensor จะไม่เกี่ยวกับระดับความสว่างของคอนเทนต์ จึงไม่เกิดอาการวูบวาบ และการเปลี่ยนแปลงจะค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่ทันทีทันใด เมื่อความสว่างบนจอเหมาะสมแล้ว ภาพจะดูสบายตา เมื่อไม่จ้าเกินไปก็ย่อมไม่ล้า ดูได้นาน ผมว่าศักยภาพจาก Eco Sensor ดีกว่าตัวเลือกถอนมสายตาหลอกๆ ที่ช่วงหนึ่งผู้ผลิตบางเจ้าชอบใส่มาให้เสียอีก และแน่นอนว่าการแสดงระดับสีดำจากการกำหนดระดับ Backlight ที่เหมาะสม จะให้ความลึกเข้มขึ้น ไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องแสงรั่ว (ซึ่งถ้ากำหนดไม่ดี LED TV ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ รั่วได้หมดและครับ) อีกทั้ง Eco Sensor ยังช่วยประหยัดพลังงานอีกต่างหาก… แล้วทำไมจะไม่ใช้ล่ะ?
ประเด็นอื่นในประหยัดพลังงาน บางกรณีที่ไม่ได้รับชมภาพบนจอ แต่ต้องเปิดทีวีทิ้งไว้ เช่น อาจจะเปิดเสียงเอาไว้เพื่อฟังข่าว ฟังเพลง หรือขณะรอดาวน์โหลด ฯลฯ สามารถดับหน้าจอลง โดยที่ทีวียังทำงานอื่นๆ เหมือนตอนเปิดเครื่องปกติก็ทำได้ โดยเลือกที่ Picture Off ระดับการใช้พลังงานจะลดต่ำลง เหลือเพียง 1 ใน 4 ของการรับชมปกติเลยทีเดียว (อ้างอิง Movie Mode)