02 Jul 2023
Review

รีวิว Samsung 98Q80C 4K HDR10+ QLED TV จอยักษ์ สว่างสูง คุณภาพเต็มตาในราคาเอื้อมถึงได้


  • ชานม

ภาพ

ความพิเศษของ 98Q80C ซึ่งโดยคุณสมบัติเป็นรองแค่ Neo QLED แม้ความสว่างสูงสุด และการคุมแสงแบ่งโซนจัดการกับแสงลอด จะเป็นรองอยู่บ้าง แต่ด้วยระดับราคาถือว่าทำได้โดดเด่นทีเดียว

Full-array LED Local Dimming Backlight บวกกับ LCD Panel แบบ VA (Vertical Alignment) ส่งเสริมการคุมระดับความดำได้ดี โดยเฉพาะอย่ายิ่งเมื่อรับชมในมุมตรง การแบ่งโซนเพื่อดิมแสงแม้จะยังไม่ละเอียดเก็บขอบเนี้ยบแบบ Neo QLED แต่ก็ช่วยคุมดำในซีนที่ไม่ซับซ้อนเกินไปให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นจริง เมื่อบวกกับระดับความสว่างที่สูง ช่วยให้ได้ระดับคอนทราสต์ที่ดีกว่าทีวีระดับกลาง ๆ ทั่วไป ที่ไม่มีเทคโนโลยีดังกล่าว

ซึ่งเราสามารถกำหนด Local Dimming ได้ 3 ระดับ High จะคุมแสงลอดได้โดดเด่นที่สุด แต่ซีนภาพที่มีรายละเอียดส่วนมืด-ส่วนสว่างซับซ้อน ความสว่างโดยรวมอาจจะทอนลงบ้าง แนะนำให้เปรียบเทียบกับ Standard แล้วดูว่าระดับไหนลงตัวกับคอนเทนต์ที่กำลังรับชมครับ

ส่วนระดับ Low จะเพลาความเปลี่ยนแปลงของระดับความสว่าง จึงช่วยลดการกระชากจากความแตกต่างของระดับแสง คอนทราสต์จะไม่จัด ดำจะไม่ลึกเท่ากับ 2 ระดับที่กล่าวไปข้างต้น แต่อาจจะช่วยให้ไม่ล้า ดูสบายตาขึ้น แนะนำทดลองปรับเปลี่ยนดูผลลัพธ์ อิงตามความเหมาะสมของคอนเทนต์และสภาพแวดล้อมครับ

Samsung ระบุว่า ด้วยเทคโนโลยี Real Depth Enhancer ยังช่วยประมวลผลภาพเพื่อเพิ่มระดับความลึกตื้นของภาพ ให้ภาพออกมาดูมีมิติสมจริงมากยิ่งขึ้น

– SDR –

ในด้านความเที่ยงตรงของการแสดงสีสัน SDR จากผล Lab Test พบว่า Filmmaker Mode ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับ Movie

ความต่างก็คือ Filmmaker จะ On ตัวเลือก Brightness Optimisation ไว้ กล่าวคือ ระบบจะปรับระดับความสว่างหน้าจออัตโนมัติโดยอิงจากเซ็นเซอร์วัดสภาพแสงภายในห้อง ใครที่ชอบปิดหรือดิมไฟในห้องเพื่อดูทีวีตอนกลางคืน หรือใช้ในห้องสภาพแสงไม่คงที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงเวลาน่าจะชอบ เพราะแสงทีวีจะถูกปรับเพิ่ม-ลดได้เอง ในบางโอกาสผมว่ามันก็สะดวกดีนะ

ส่วน Movie จะฟิกซ์ความสว่างตายตัว เหมาะกับห้องที่คุมแสงแวดล้อมได้คงที่ ทั้ง 2 โหมด สามารถเลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสม

Flimmaker/Movie ภาพจะดูนุ่มนวลสบายตา ไม่เร่งความคมชัด ปรุงแต่งสีสัน หรือแทรกเฟรมภาพเคลื่อนไหว จึงให้ความเป็นธรรมชาติสูงเหมาะแก่การรับชมในบ้าน แต่แน่นอนว่าถ้าเทียบกับโหมดอื่น ความสว่างจะต่ำกว่า และสีสันจะดูไม่สดจี๊ดจ๊าดนัก ทั้งนี้ในบางสภาพแวดล้อมหากรู้สึกว่าภาพ Movie หรือ Filmmaker Mode ดูสว่างหรือมืดเกินไปเมื่อรับชม SDR content ก็สามารถปรับเพิ่มลดความสว่างที่ตัวเลือก Brightness (Backlight) ตามที่เห็นสมควร

<กดที่ Tab ด้านบน เพื่อดูผล SDR Calibration Report>

โหมดภาพ Movie (หรือ Filmmaker Mode ที่ Off – Brightness Optimiser) ของ 98Q80C มีความเที่ยงตรงของสีสันอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นอานิสงส์จากการการันตีมาตรฐาน PANTONE Validated อุณหภูมิสีเฉลี่ยอยู่ที่ราว 6641K ค่าความผิดเพี้ยนสมดุลแสงขาวเฉลี่ย (Grayscale Avg dE) ต่ำเพียง 2.7 ขอบเขตสีก็ทำได้เที่ยงตรงอิงมาตรฐาน Rec.709 ค่าความผิดเพี้ยน (Color Space Avg dE) ดีมากเพียง 2 การใช้งานตามบ้านอาจไม่จำเป็นต้องปรับภาพเพิ่ม

หากต้องการ รุ่นนี้สามารถปรับภาพเชิงลึกได้ ค่าความผิดเพี้ยนสมดุลแสงขาว (Grayscale Avg dE) ลดต่ำลงมาเหลือเพียง 0.7 เท่านั้นเอง ในขณะที่หากไฟน์จูน CMS ค่าความผิดเพี้ยน (Color Space Avg dE) จะลดลงเหลือเพียง 0.9

Rec.709 Color Checker หลังดำเนินการปรับภาพ ก็ให้ผลลัพธ์ดีขึ้นตามคาด ค่าความผิดเพี้ยนสีโดยรวมแบบเฉลี่ย (Saturation Avg dE) ที่ 1 (Max dE = 2.4) ดีมาก จะใช้อ้างอิงทำงานกราฟิก-ตัดต่อวิดีโอ แทนมอนิเตอร์ก็สามารถทำได้

– HDR –

อานิสงส์หนึ่งของการใช้ Full-array LED Local Dimming Backlight คือ ให้ระดับความสว่างสูง ส่งผลให้ HDR Peak Brightness (10% Window) ของ 98Q80C ในโหมด Filmmaker สูงถึง 1,085 nits สว่างกว่าโหมด Dynamic (1061 nits) เสียอีก ทว่าได้ความเที่ยงตรงของสีสันดีกว่า

รุ่นนี้รองรับมาตรฐาน Static HDR ทั้ง HDR10 และ HLG ส่วน Dynamic HDR รองรับมาตรฐาน HDR10+

<กดที่ Tab ด้านบน เพื่อดูผล HDR Calibration Report>

ความเที่ยงตรงของสีสัน HDR ในโหมด Filmmaker ของ 98Q80C นับว่าอยู่ในเกณฑ์ดี (Grayscale Avg dE 5.5, Colorspace Avg dE 6.3) ส่วนขอบเขตสี HDR Color Space ทำได้ครอบคลุม 86.47/92.23% ของมาตรฐาน DCI-P3 (xy/uv) หรือเทียบเท่า 62.25/68.33% Rec2020 (xy/uv)

และเช่นเคย ว่าหลังปรับภาพ HDR ในโหมด Filmmaker ให้ความเที่ยงตรงโดดเด่นมาก (Grayscale Avg dE 1.6, Colorspace Avg dE 1.1) ความสว่าง HDR Peak Brightness จะลดลงเพียงเล็กน้อยอยู่ที่ 962 nits