กลับมาพบกับรีวิวทีวีแบรนด์ดังจากแดนปลาดิบกันอีกแล้ว หรือที่หลายๆ คนรู้จักแบรนด์นี้กันในนามของ “Sony” นั่นเอง วันนี้จะเป็นทีวีราคาประหยัดที่เน้นความคุ้มค่าและประสิทธิภาพการใช้งานที่ไม่เป็นสองรองใครอย่างแน่นอน สำหรับทีวีของ Sony ที่เรานำมารีวิวในครั้งนี้จะมีชื่อรุ่นว่า “40R350C” เป็นทีวีแบบ Full HD (1080p) และใช้ LED Backlight แบบ Direct LED หรือมีหลอด LED เต็มแผงด้านหลังหน้าจอนั่นเอง
โดยทีวีตัวนี้จะอยู่ในซีรีย์ R350C ตามชื่อรุ่นเลย (หรือรหัสชื่อเต็มๆ ของมันก็คือ KDL-40R350C) และตัวที่เรานำมารีวิวกันจะมีขนาดหน้าจอ 40 นิ้ว มาพร้อมกับดีไซน์ที่เข้มขรึมด้วยโทนสีดำเกือบทั้งหมด ภายในยังได้รับการอัดแน่นมาด้วยเทคโนโลยี Clear Resolution Enhancer, Motionflow™ XR และ Clear Phase ที่เป็นเอกสิทธิ์จาก Sony เพียงแต่ผู้เดียวเลยก็ว่าได้
สำหรับสเปคคร่าวๆ ของ Sony 40R350C จะประกอบด้วย
1. Resolution : Full HD (1920×1080)
2. Motion Flow : XR 100Hz
3. Digital Tuner : Yes
4. Speaker : 5W+5W
5. Feature : USB Player
ดีไซน์
หลังจากที่ได้อธิบายถึงคุณสมบัติของ Sony 40R350C ตัวนี้ไปกันแบบคร่าวๆ แล้ว ก่อนที่เราจะได้ไปเจาะลึกที่เรื่องของคุณภาพของภาพ และการใช้งานกันต่อนั้นต้องขอพาคุณผู้อ่านแวะไปดูที่ส่วนของงานดีไซน์ด้านนอกกันก่อนนะ
จากภาพรวมด้านบนจะเห็นว่างานดีไซน์ของ Sony 40R350C จะมีความเข้มขรึม เนื่องด้วยการออกแบบในส่วนของขอบจอและฐานขาตั้งนั้นจะมีการใช้โทนสีที่เป็นสีดำทั้งหมด เมื่อผนวกเข้ากับหน้าจอที่มีความดำแล้วทุกอย่างจึงดูเรียบเนียนเป็นชิ้นเดียวกันไปหมดเลย หรือหากท่านไหนจะนำไปติดตั้งเข้ากับผนังห้องก็สวยไม่แพ้กัน เพราะขอบของหน้าจอค่อนข้างมีความเพรียวบางมากๆ เลยล่ะ
ที่มุมด้านขวาบนของหน้าจอยังคงมีการสกรีนคำว่า “Bravia” ไว้เฉกเช่นเดิม หากสังเกตเลยไปที่ขอบของหน้าจอจะเห็นว่ามันไม่ได้เป็นมุมเหลี่ยมๆ ไปเลยเสียทีเดียว แต่จะมีการใส่ลูกเล่นให้มีความโค้งมนเข้ามาเล็กน้อยเพื่อที่จะได้รู้สึกว่าตัวของทีวีนั้นไม่ได้แข็งกระด้างมากจนเกินไป
ช่องต่อ
จากที่ได้พาทุกท่านไปรับชมในส่วนของรูปร่างหน้าตาของทีวีกันไปแล้วเมื่อครู่นี้ เพื่อให้เป็นการตัดสินใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้นไปกว่านี้ว่ามันจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้งานของเราหรือไม่? คงจะต้องกลับด้านทีวีมาดูที่ด้านหลังของมันกันบ้างแล้วล่ะ มาดูกันซิว่าช่องต่อหรือพอร์ตที่ติดตั้งมาให้นั้นเพียงพอกับการใช้งานของเรารึป่าว ถ้าหากว่าพร้อมแล้วไปดูกันเลย!
โดยพอร์ตช่องต่อ และปุ่มควบคุมต่างๆ นั้นจะประกอบด้วย
1. ส่วนของปุ่มที่ใช้สำหรับ เปิด-ปิด, เปลี่ยนช่องรายการ, เปลี่ยนพอร์ตช่องเชื่อมต่อสัญญาณจากภายนอก และปุ่มสำหรับเพิ่มลดเสียง
2. พอร์ตสำหรับต่อสายอากาศ (รองรับทั้งอนาล็อก และดิจจิตอลทีวี)
3. พอร์ตเชื่อมต่อสายสัญญาณ Component VDO และ Audio อย่างละ 1 ชุด
4. พอร์ต Audio out ขนาด 3.5 มิลลิเมตร จำนวน 1 พอร์ต
5. พอร์ต Optical จำนวน 1 พอร์ต
6. พอร์ตสำหรับเชื่อมต่อสัญญาณภาพ และเสียงผ่านทาง HDIM (ARC) จำนวน 1 พอร์ต
7. พอร์ตสำหรับเชื่อมต่อกับ Power Adapter (DC in 19.5V) ใช้สำหรับจ่ายกระแสไฟให้กับทีวี
จากพอร์ตช่องต่อข้างต้นที่ได้นำมาให้คุณผู้อ่านได้ชมกันนั้นถ้าหากจะถามว่าเพียงพอไหม? โดนส่วนตัวแล้วกระผมคิดว่าเพียงพอนะกับทีวีที่ไม่ได้มีลูกเล่นอะไรมากมายนัก ซึ่งก็จะเน้นหนักไปที่การใช้รับชมฟรีทีวีและรับชมคอนเทนต์ที่เล่นผ่านทางเครื่องเล่นเป็นหลัก หรืออาจจะมีเชื่อมต่อกับกล่องรับสัญญาณเคเบิลทีวี และเครื่องเล่นเกมส์คอนโซลอยู่บ้างเป็นครั้งคราวก็สามารถทำได้ค่อนข้างคล่องตัว ไม่ต้องถอดสายไปมาเนื่องจากมีพอร์ต HDMI มาให้มากถึง 2 พอร์ตกันเลยทีเดียว