14 Feb 2016
Review

รีวิว Sony 40R350C ที่สุดแห่งความคุ้มค่า! จะใช้รับชมละคร หรือภาพยนตร์ก็คมชัดไม่แพ้กัน


  • tormoo

ภาพ

หลังจากที่ได้พาคุณผู้อ่านทุกท่านไปไล่ดูยังส่วนที่เป็นดีไซน์ของเจ้า Sony 40R350C ตามธรรมเนียมของเรากันไปแล้ว ทีนี้จะพาไปสัมผัสถึงคุณภาพของภาพที่เราจะได้รับจากทีวีตัวนี้กันบ้าง ซึ่งคุณภาพของภาพนั้นก็เป็นหัวใจหลักในการเลือกซื้อทีวีของหลายๆ ท่านเลยก็ว่าได้ ถ้าหากพร้อมแล้วไปเริ่มไล่ดูกันเลยว่าเจ้าทีวีตัวนี้จะสามารถตอบโจทย์ให้กับเราได้มากน้อยเพียงใด

เมื่อเปิดทีวีขึ้นมาครั้งแรกก็ต้องขอเข้ามาดูที่การรองรับภาษาต่างๆ บนเมนูกันสักเล็กน้อย จากภาพด้านบนหากใครไม่ถนัดใช้งานในรูปแบบของภาษาอังกฤษก็สามารถเลือกเป็นภาษาไทยได้นะ
ที่เมนูปรับภาพ (Picture) เราสามารถเลือกปรับค่าต่างๆ ได้เยอะอยู่พอสมควรไม่ว่าจะเป็นโหมดภาพ, ความสว่างของภาพ, ความสว่างของ LED Backlight และความเข้มของเฉดสี เป็นต้น

เพื่อให้การแสดงผลภาพของแต่ละโหมดภาพหลังจากนี้สามารถแสดงผลออกมาได้ตรงตามค่าตั้งต้นจากโรงงาน จึงได้ทำการ Factory Reset ให้กับทีวีกันสักเล็กน้อย เนื่องด้วยทีวีที่เราได้มาทดสอบอาจจะผ่านมือผู้ทดสอบท่านอื่นๆ มาก่อนที่จะมาถึงเรา จึงต้องขอคืนค่าต่างๆ ให้เหมือนใหม่ก่อนที่จะออกมาจากโรงงานกันสักเล็กน้อย

สำหรับโหมดภาพที่ใส่มาให้ใน Sony 40R350C จะมีให้เลือกทั้งหมด 3 โหมดหลักคือ Vivid, Standard และ Custom

โดยที่โหมดภาพ Vivid จากที่ได้ทดสอบการใช้งานดูจะให้ค่าความสว่างที่ค่อนข้างสว่างมาก ทั้งยังพบว่าส่วนของการแสดงเฉดสีต่างๆ ให้ความรู้สึกที่สดเด้งอยู่พอสมควรส่วนตัวแล้วถ้าดูนานๆ อาจจะรู้สึกปวดตาจากความสดของสีสันที่มากเกินไป แต่ในโหมด Standard จะให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลกว่า Vivid จึงเหมาะกับการใช้รับชมในระยะเวลานานๆ และจะเกิดการล้าของสายตาน้อยกว่า

ขอแอบลองรับชมดิจิตอลทีวี “ช่อง 3HD” กันสักหน่อย ภาพคมชัดใช้ได้เลยนะเนี่ย

Sony 40R350C เป็นทีวีที่รองรับการรับชมดิจิตอลทีวีผ่านทางดิจิตอลจูนเนอร์ในตัว จากการใช้งานพบว่าการค้นหาสัญญาณช่องรายการต่างๆ เมื่อเปิดใช้งานครั้งแรกนั้น ถือว่าใช้เวลาในการค้นหาอยู่นานพอสมควรเหมือนกับทีวีตัวอื่นๆ ในท้องตลาด แต่จากการใช้งานรับชมช่องที่เป็นแบบ HD ก็พบว่าคุณภาพของภาพที่ได้นั้นถือว่าเรียบเนียนและคมชัดมากๆ

ผนวกเข้ากับทาง Sony เองก็ได้ใส่เทคโนโลยี Clear Resolution Enhancer ที่ช่วยปรับปรุงให้คุณภาพของภาพที่แสดงออกมานั้นดูมีมิติ มีความคมชัดของสีสัน และแสดงรายละเอียดต่างๆ ออกมาได้อย่างชัดเจน โดยแทบจะไม่มีสัญญาณรบกวนเกิดขึ้นบนภาพเลยแม้แต่นิดเดียว

สำหรับอัตราส่วนหรือรูปแบบการแสดงผลบนหน้าจอนั้นเราสามารถเลือกปรับได้ทั้งหมด 4 แบบคือ Full, Normal, Wide Zoom และ Zoom ส่วนการใช้งานปกติแนะนำให้เลือกเป็นแบบ Full นะจ๊ะ
ทดสอบภาพเคลื่อนไหวด้วย “X-MEN2” กับฉากที่เราคุ้นเคย

โดยทีวีตัวนี้จะมาพร้อมกับเทคโนโลยี Motionflow™ XR (100Hz) ของทาง Sony เอง ซึ่งจากการทดสอบในโหมดภาพต่างๆ นั้นพบว่าโหมดภาพสำเร็จรูปอย่างเจ้าโหมด Standard สามารถให้รายละเอียดของภาพเคลื่อนไหวได้ลื่นไหลเกินตัวจริงๆ ถึงแม้ว่าในฉากที่มีการเคลื่อนไหวไวมากๆ จะยังมีการเกิดเงาของวัตถุอยู่บ้าง แต่ถ้าหากเทียบกับทีวีที่อยู่ในระดับราคาเดียวกันแล้วส่วนตัวคิดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยนะ

มาต่อกันที่ความดำกันต่อเลย จากภาพด้านบนจะเป็นฉากในภาพยนตร์เรื่อง “Life of Pi”

สำหรับในฉากมืดที่เป็นท้องฟ้าและมีส่วนที่เป็นแสงดาวเรืองแสงอยู่ประปราย ด้วยหน้าจอที่เป็นแบบ Full HD และใช้ Backlight ที่เป็น Direct LED จึงทำให้ส่วนที่เป็นจุดมืดสนิทมีแสงสีเทาๆ แกรมดำเล็ดลอดออกมาอยู่บ้างทำให้บางจุดอาจจะดำไม่สนิทเท่าที่ควรนัก แต่ในแง่คุณภาพของภาพและความรู้สึกโดยรวมที่ได้จากทีวีตัวนี้ก็ทำออกมาได้ดีนะ หรือหากนำไปใช้งานในห้องที่คุมแสงได้เราอาจจะเข้าไปลดระดับความสว่างของ Backlight ลงมาอีกสักเล็กน้อยก็ได้ ซึ่งก็จะทำให้เรารับชมภาพได้สมจริงมากยิ่งขึ้นไปอีก