01 May 2014
Review

จอยักษ์ใหญ่! รีวิว Sony 4K TV KD-84X9000 ตัวแรกของไทย บทบัญญัติใหม่แห่งวงการ


  • lcdtvthailand

ภาพ

ทดสอบเกมส์ PS3
ส่วนไฮไลท์ก็คือการได้เล่นเกมส์บนจอขนาดยักษ์นี่แหละ ! ทีมงานของเราก็เล่นเป็นอยู่ไม่กี่เกมส์หรอกครับ พวก Winning, Street Fighter, ตีเทนนิส, ดราก้อนบอล และอื่นๆ แต่เกมส์ที่นำมาทดสอบก็มี Street Fighter กับ Winning ครับ เริ่มจาก Street Fighter ก่อนเลย ดวลกันหลายแมตช์มากเพราะหากแพ้แล้วจะถูกคุยทับให้จมธรณี (เวลาทดสอบเกมส์ทีมงานจะมีจริงจังกว่าทำงานอื่นๆเป็นร้อยเท่า ^ ^) ผมกดปุ่ม Scene เลือกโหมด Game แสงสีและเสียงที่ได้มีความกระฉับกระเฉงมายิ่งขึ้น ยอมรับเลยว่าการเล่นผ่านจอใหญ่อย่าง 84″ มันช่าง “เต็มตาและเข้าถึงอารมณ์แบบสุดติ่ง” ประกอบกับลำโพง Stereo แบบ 10 Units Speaker พร้อม Woofer  ซึ่งให้ความดังระดับ 50 Watts เรียกได้ว่า “ดีที่สุด” ของลำโพงทีวีที่เคยมีมา ตัวอย่างการแข่งขันระหว่างผม “นายโรมัน” ใช้ “ริว” ดวลกับ “คุณชานม” ซึ่งก็ใช้ “ริว” เหมือนกับผม (ขี้เลียนแบบนี่หว่า ! ) ด้วยคุณภาพเสียงอันสุดยอดนี้เอง จึงช่วยเสริมบรรยากาศการต่อสู้ฟาดฟันผสานการชิงจังหวะจะโคนให้มีซาบซ่ามากยิ่งขึ้น ไม่แพ้มวยโอลิมปิกรอบชิงเหรียญทองระหว่าง “แก้ว พงษ์ประยูร” กับ “ซูซีหมิง” เล่นไปซักพักมันเริ่ม “บีบหัวใจ” เหมือนเรารับชมภาพยนตร์เรื่อง Batman : The Dark Knight ในตอนที่ Joker บังคับให้ Batman เลือกทางออกได้ 2 ทางว่าจะช่วยอดีตแฟนหรือฮาร์วีย์ เดนท์ อีกตัวอย่างของอารมณ์บีบหัวใจคือภาพยนตร์เรื่อง A Drift ที่กลุ่มเพื่อนไปล่องเรือยอร์ชส่วนตัวในมหาสมุทรอันไกลโพ้น และดันทะลึ่งกระโดดลงน้ำทั้งหมดแล้วดันหาทางขึ้นเรื่อไม่ได้เพราะลืมปล่อยบันได แล้วตัวละครค่อยๆทยอยตายไปทีละคน ซึ่งบีบหัวใจสุดๆ สรุปว่า “จอใหญ่ผสานเสียงใหญ่ = อรรถรสในการเล่นเกมส์เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวแน่นอน” ฟันธง !  

ส่วนเกมส์วินนิ่งภาพก็ลื่นไหลพอใช้ได้ มีโกสท์บ้างนิดหน่อยหากเป็นลูกโยนยาวหรือวิ่งเร็วๆ ลองปรับ Motion Flow เป็น Impulse ช่วยให้ภาพเคลื่อนไหวดีขึ้น แต่จะติดเรื่อง Input Lag นิดหน่อย ดังนี้ข้อแนะนำในการเล่นเกมส์คือควบปิด Motion Flow ทิ้งด้วยนะครับ 

Street Fighter 4 ดวลกันถึงพริกถึงขิง ได้อารมณ์เต็มตาเต็มจออย่างมากมาย
จอใหญ่ = ยิ่งมันส์ ยิ่งบีบหัวใจ แถมจบเกมส์มีผู้เสียเงินให้ผมด้วย (ฮา) !!!

ทดสอบภาพ 3 มิติ
Sony KD-84X9000 จัดได้ว่าเป็นตัวแรกของ Sony ที่ใช้เทคโนโลยี 3D แบบ Passive อีกทั้งยังรองรับการแปลงภาพจาก 2 มิติธรรมดาให้เป็น 3 มิติ ลองใส่แผ่น 3D Blu-ray ที่คุ้นเคยอย่างเรื่อง Resident Evil : Afterlife และตัวอย่างหนัง 3D เรื่อง The Amazing Spider Man มิติภาพอยู่ในเกณฑ์น่าประทับใจ มิติความลึกและลำดับหน้า-หลังของวัตถุกับฉากหลังแสดงได้อย่างชัดเจน หากปิดไฟดูก็ได้อารมณ์น้องๆโรงหนัง 3D  ระยะนั่งชมที่เหมาะสมก็ซัก 2 เมตรขึ้นไป  ภาพถือว่าคมชัดและดูสบายตา  หากจะให้เทียบความคมชัดอาจจะต้องยอมรับว่าแว่น 3D Active ของ HX855 และ HX925 ทำได้ดีกว่า กระนั้นด้วยข้อดีในเชิงปฏิบัติอาทิเช่น ความเบาสบายของแว่น 3D Passive แบบใหม่ที่ไม่กระพริบ แถมไม่ต้องใส่แบตเตอรี่ และการรับชมที่ไม่ต้องคำนึงถึงสภาพแสงจากข้างนอกหรือแม้กระทั่งหลอดไฟบนเพดาน ผมเชื่อว่าเป็นข้อแลกเปลี่ยนแบบ “ได้อย่างเสียอย่าง” ที่มีหลายท่านแอบชอบใจและยินดีที่จะปันใจให้อย่างแน่นอน ^ ^

ปรับระดับความลึกมีมิติของภาพ 3 มิติได้
แว่นแบบ 3D Passive ให้มา 2 อัน ใส่สบาย น้ำหนักเบา ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่
มิติภาพจากเรื่อง Cloudy with A Chance of Meatballs ฉากนี้ชาวเมืองเรียงลำดับลึกลงไปเป็นชั้นๆ
ฉากกระโดดฟันดาบคู่ของ Alice มิติภาพอยู่ในเกณฑ์ดี ความคมชัดอยู่ในระดับปานกลาง
ฉากปาค้อนของมอนสเตอร์ ด้วยขนาดทีวีที่ใหญ่ทำให้ค้อนใหญ่ตาม ขว้างมาที่แทบกระแทกทีมงานที่นั่งดูแบบเรียงหน้ากระดาน

ทดสอบการกินไฟ
แน่นอนจอใหญ่ขนาดนี้ก็ย่อมมีอัตราการกินไฟที่สูงขึ้นเป็นธรรมดา ลองวัดด้วย Pattern ของแผ่น DVE กับ Amplitude 100% คือพื้นขาวตรงกลางสว่าง 100% และล้อมรอบด้วยพื้นดำด้านนอก ก็จะกินไฟประมาณ 502 Watts แต่ถ้าหากเราใช้พวก Light Sensor ที่คอยปรับระดับความสว่างของทีวีให้สัมพันธ์กับความสว่างภายในห้องร่วมด้วย การกินไฟจะตกลงมาที่ 200-300 Watts เท่านั้น ซึ่งพอๆกับพลาสม่าขนาดใหญ่ 50″-55″ แต่เชื่อว่าท่านเศรษฐีที่พร้อมจะสู่ขอเจ้า Sony 84X9000 เข้าเรือนหอคงมิได้กังวลเรื่องนี้เสียเท่าไหร่นัก ชิมิ…ชิมิ ^ ^