06 Jun 2014
Review

มนต์เสน่ห์ไม่เสื่อมคลาย !!! รีวิว Sony 55W954A สัมผัสสีสันที่แตกต่างด้วย


  • lcdtvthailand

ภาพ

ส่วนสำคัญที่ผมอยากจะทดสอบก็คือ “ภาพเคลื่อนไหว” ครับ ทีวีที่ดีจะต้องมีการแสดงภาพเคลื่อนไหวได้อย่างเยี่ยมยุทธ์ด้วย ซึ่งอ้างอิงมาจากค่า Response Time ที่ต่ำ แต่ดูเหมือนทุกวันนี้แต่ละแบรนด์ต่างออกมาเคลมกันจนกลายเป็นค่าการตลาดไปซะแล้ว การใช้วิธีวัดค่า Response Time ที่ต่างกัน ก็เหมือนไม่ได้ทำงานภายใต้กฏเดียวกัน จึงยากที่จะนำมาเปรียบเทียบกันได้ ยกตัวอย่างเช่นวิธีการวัดค่า Response Time ของ แบรนด์ A คือวัดจาก Black to Black นั่นคือเวลาที่เม็ดพิกเซลเปลี่ยนจากสีดำไปขาวและกลับมาดำอีกที ส่วนแบรนด์ B อาจจะวัดจาก Gray To Gray นั่นคือสีเทาเปลี่ยนเป็นขาวและกลับมาเทาเหมือนเดิม ค่าที่ออกมาอาจจะอยู่ที่ 2 ms เท่ากัน แต่การเปลี่ยนจากเทาหรือดำย่อมใช้ความเร็วที่ต่างกันอยู่แล้ว ดังนั้นวิธีการเช็คภาพเคลื่อนไหวที่ดีที่สุด นอกจากอ้างอิงค่าการตลาดแล้ว ยังต้องอ้างอิงมาจากภาพยนตร์ที่เราได้รับชมกันจริงๆอีกด้วย

ภาพเคลื่อนไหวขณะทำการปิด Motion Flow ( อ้างอิงจากค่า Speed Shutter เดียวกันกับรูปด้านล่าง และหน่วงให้ช้าเพื่อให้เห็นภาพ ) ภาพที่ดูด้วยตาเปล่าไม่ได้เบลอขนาดนี้ครับ 😀
เปิดฟังก์ชั่นการแทรกเฟรมภาพเป็นโหมด Impulse ภาพที่ได้มีความลื่นไหลขึ้น ตัวอักษรที่เคลื่อนเร็วๆก็ยังอ่านได้ ( เปรียบเทียบกับรูปด้านบน)

สำหรับฟังก์ชั่นแทรกเฟรมภาพของ Sony W954A ที่แนะนำเลยก็คือโหมด “Impulse” ครับ การแทรกเฟรมตัวนี้อาจจะไม่ได้ทำให้ภาพลื่นไหลปรื้ดๆๆ เหมือนโหมดอื่นๆ แต่สิ่งที่วัดได้เลยคือ “ไร้อาการโกสต์” หรือเงาค้างติดภาพ เวลาเจอภาพเคลื่อนไหวเร็วๆ ประกอบกับการรับชมในห้องคุมแสงได้ ยิ่งดูสบายตา จนคล้ายกับแนวภาพของ Plasma TV เลยครับ  

อัตรส่วนภาพ ( Aspect Ratio )

Aspect Ratio มีหลายแบบให้เลือกใช้งาน แต่สำหรับการดูหนังทั่วไป ผมแนะนำให้ใช้โหมด Full ครับ นั่นคือตัวทีวีจะสามารถแสดงภาพออกมาได้อย่างเต็มจอ ไม่มีส่วนใดส่วนนึงถูกคร็อปหายไป

ทดสอบฉากมืดๆ การคุมแสงด้วย Local Dimming

Sony 55W954A เป็น Dynamic Edge LED หรือก็คือ Edge LED ที่สามารถทำ Local Dimming ได้ ซึ่งมีให้เลือกระดับ Low หรือ Standard จากการทดสอบดูในห้องมืดๆ ก็พบว่าเจ้า Local Dimming สามารถทำหน้าที่ของมันได้ดีทีเดียว การคุมเปิดปิดแสงไฟเป็นกลุ่มๆทำได้อย่างนุ่มนวล และดำมืดจริงๆ ไม่เสียอรรถรสในการรับชมแน่นอน ยิ่งเจอห้องที่มีสภาพแสงสว่างๆล่ะก็ ความดำนั้นกินขาด ^^ ได้ใจไปเต็มๆเลยล่ะ สมเป็นตัวท็อปแห่งปี 2013

Digital TV ช่อง 5 แบบ HD ชัดสุดๆๆๆๆๆๆ

Sony LED TV ในปี 2013 นั้นผนวกเอา Digital Tuner แบบ DVB-T2 ไว้ในเครื่องปีทุกรุ่นแล้ว ( DVB-T2 คือมาตรฐานการส่งสัญญาณทีวีภาคพื้นดินแบบดิจิทัลที่ประเทศไทยเลือกใช้ ) แน่นอนว่าเราต้องมาทดสอบกันหน่อยแล้ว ด้วยวิธีการง่ายๆทั่วไปคือต่อสายอากาศเข้าช่อง Antenna ( โดยเป็นเสาก้างปลาปกติบนหลังคาบ้านเราเนี่ยล่ะครับ ) และกด Auto Tuning ไปเลย ครั้งแรกจะใช้เวลานานหน่อย แต่เพียงเท่านี้ก็สามารถรับชมดิจิทัลทีวีได้แล้ว ( ป้จจุบันมีการทดลองออกอากาศอย่างเป็นทางการอยู่จนถึงปี 2557 )

เจอหลายช่องเหมือนกันนะเนี่ย ( เมนูข้างๆก็คือเจ้า Fast Zapping ครับ เอาไว้ช่วยในการเลือกช่องได้ง่ายขึ้น )
มากด Info ดูรายละเอียดกัน พบว่าปล่อยมาเป็นแบบ 1080i จริงๆด้วยนะ
ฟังก์ชั่น Twin Picture หรือก็คือการแบ่ง 2 หน้าจอเพื่อชมรายการทีวีพร้อมกับ Source จาก HDMI สามารถเลือกปรับขนาดของจอทั้ง 2 ให้เล็กใหญ่ได้ตามต้องการ
มาถึงขั้นนี้แล้วลองต่อสาย HDMI JERICHO เชื่อมต่อโน้ตบุ๊คเข้าสู่ทีวีกันเลย เด้งไปที่ Scene แบบ Graphic ตัวอักษรคมชัด แสดงผลเต็มหน้าจอ Full HD

เสียง

เป็นถึงทีวีตัวท็อป ระบบเสียงก็ต้องจัดเต็มมาให้ด้วยสินะครับ ตัวลำโพงที่เรียกว่า Bass Reflex Speaker Box ถูกบรรจุอยู่ในทีวีรุ่นนี้ด้วย ซึ่งมาช่วยเติมเต็มเสียงให้มีน้ำมีนวลยิ่งขึ้น และอีกเทคโนโลยีคือ Acoustic Isolation ที่ช่วยลดอาการเสียงสะท้อนอย่างได้ผลจริงๆ ผลจากการใช้งานจริงในห้องนั่งเล่นระยะรับชมประมาณ 3 เมตรก็ยังให้เสียงที่มีรสชาติเป็นเยี่ยมอยู่ โดยเฉพาะการนั่งฟังคอนเสิร์ตที่ดูมีชีวิตชีวากว่า LED TV รุ่นระดับล่างๆมากมาย

แน่นอนว่าคอนเสิร์ต The Eagles ที่คุณโรมันติดใจ
โหมดเสียงที่มีให้เลือกใช้งานมากมาย
การปรับตั้งค่าเสียง สามารถทำได้อย่างละเอียด

เพิ่มเติม

ส่วนนี้ผมจะขอพูดถึงความสามารถในด้านการใช้งาน Internet TV ในรุ่น Sony W954A บ้างครับ นับว่าในปัจจุบันมีหลายส่วนให้ใช้งานไม่ว่าจะเป็น คอนเทนต์ในประเทศ ที่เพิ่มมากขึ้น หรือหมัดเด็ดที่เอามาชกคู่แข่งให้หงายหลังอย่างเทคโนโลยี NFC ชื่อว่า OneTouch  และการส่งผ่านหน้าจอโทรศัพท์มือถือเข้าสู่จอทีวีด้วยการเชื่อมต่อ MHL หรือแม้กระทั่งไร้สายด้วยเทคโนโลยี Screen Mirroring

มาดูพระเอกของงานนี้อย่าง OneToch เลยดีกว่า

สิ่งที่เรียกว่า OneTouch แท้จริงแล้วคือเทคโนโลยี NFC หรือ Near Field Communication ซึ่งเป็นการสื่อสารและเปลี่ยนข้อมูลกันของอุปกรณ์สองสิ่งในระยะใกล้ๆไม่เกิน 4 เซ็นติเมตร หรือยกตัวอย่างถ้าผมอยากส่งรูปภาพจาก Smart Phone เข้าไปแสดงบนจอทีวี ผมเพียงแค่นำโทรศัพท์มือถือไปแตะรีโมทแท่งสีดำๆที่มีเซ็นเซอร์ NFC เท่านั้นเอง 

** โทรศัพท์มือถือต้องรองรับการใช้งาน NFC ด้วย ***

ขั้นตอนแรกเราต้องซิงค์เจ้ารีโมทให้รู้จักกับทีวีก่อน ทำเพียงครั้งเดียว คือเข้าไปที่เมนูตั้งค่า OneTouch Remote กดปุ่ม HOME พร้อมกับ COLOUR KEY 3 วินาที รอจนไฟกระพริบและขึ้นข้อความว่าการซิงค์เสร็จเรียบร้อย
เพียงแค่แตะหรือสัมผัส รูปภาพ / วิดีโอ / เพลง ก็จะถูกส่งไปเล่นบนทีวีแล้ว ง่ายไหมล่ะ ! OneTouch
ฟังก์ชั่น Screen Mirroring หรือก็คือการนำภาพบนหน้าจอโทรศัพท์เข้าไปแสดงบนทีวี โดยไม่ต้องเชื่อมต่อสายให้ยุ่งยาก
ระบบ Sony Entertainment Network จะรวมเอาคอนเทนต์ไว้มากมาย แต่คุณต้องกด Refresh Internet Content ก่อนทุกครั้งนะครับ ถึงจะมีแอพล่าสุดโผล่ขึ้นมาให้ใช้งาน
เข้าเว็บบราวเซอร์จากตัวเครื่องก็ได้
ถัดมาคือการเล่นไฟล์จาก Harddisk หรือ Media Player
ทดสอบไฟล์ MKV ก่อนเลย
Speed Racer สามารถเล่นได้แน่นอน
ขอปิดท้ายด้วยฟังก์ชั่นการควบคุมไฟ LED ของตัวเครื่องนะครับ สามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบเลย
หน้าตาเมนูของ Sony ที่ถูกพัฒนาให้สวยงามกว่าเดิม เวลากดก็ตอบสนองได้อย่างทันที ไม่หน่วงแต่อย่างใด

สำหรับความสามารถในส่วนเพิ่มเติมของตัวทีวี Sony 55W954A นั้น แม้จะไม่สามารถดาวน์โหลดแอพมาใส่แบบแบรนด์อื่นๆ แต่จุดเด่นในการใช้งานก็ยังเป็นลูกเล่นที่ใช้งานได้จริงอย่าง OneTouch หรือ ScreenMirroring ครับ ยิ่งผู้ที่ใช้งานเป็นคนที่ชื่นชอบเทคโนโลยีอยู่แล้ว ก็สามารถทำให้เพื่อนๆร้องว้าว!! เวลามาที่บ้านได้เลย ส่วนการเล่นหนังผ่านช่องต่อ USB ก็ยังถือเป็นจุดอ่อนของ Sony อยู่ในด้านการรองรับซับไตเติ้ลแบบต่างๆ ( แต่จริงๆแล้วก็เป็นจุดอ่อนของทีวีทุกแบรนด์ล่ะครับ ) เพราะถ้าจะเล่นหนังจริงๆแนะนำให้เล่นจาก HD Player ให้ภาพและเสียงที่ดีกว่าเยอะ