ทดสอบคุณภาพเสียง
Sony 55X8500D ให้ลำโพงแบบ 10+10 Watts มีระบบเสียงรอบทิศทาง S-Force Front Surround มาให้ ลำโพงถูกติดตั้งอยู่บริเวณใต้ตัวเครื่อง ใช้วิธียิงเสียงลงล่างแบบ Down Firing สามารถเลือกปรับโหมดเสียงสำเร็จรูปให้แมตช์กับคอนเทนต์ที่รับชมอยู่ อาทิ Music, Cinema, Live Football, Standard มีระบบเสียง Clear Audio+ ไว้ยกระดับเสียงโดยรวมให้สดใสขึ้น ทดสอบคุณภาพเสียงจากเพลง For Your Babies ของ Simply Red ซึ่งเสียงเครื่องเคาะ กีตาร์ สลับกับเสียงร้องก็ถ่ายทอดออกมาอยู่ในเกณฑ์พอใช้ได้ ไม่มีเลอะปนกันมั่วแบบลำโพงขุ่นๆทั่วไป สเกลเสียงอาจมิได้ใหญ่โตอวบอั๋นมากนัก ปริมาณจะเทนำหนักไปที่เสียงแหลมมากไปซักหน่อย หากคิดว่าจัดจ้านเกินไปให้ลองปรับ Equalizer โดยการลดระดับเสียงความถี่สูงและกลางลงมา จะช่วยให้เสียงที่เปล่งออกมาผ่อนคลายยิ่งขึ้น ระดับความดังจัดว่าครอบคลุมห้องนั่งเล่นปกติได้อย่างสบาย เปิดแค่ระดับ 50 จาก 100 ก็ดังมากพอแล้ว ไว้ดูหนังดูรายการทีวีทั่วไปได้แบบไม่มีปัญหา
เพิ่มเติม
ระบบปฏิบัติการ Android 5.0 เป็น Game Changer ในวงการ Smart TV อย่างแท้จริง ในปีที่ผ่านมาถึงแม้เป็นครั้งแรกของ Sony กับระบบปฏิบัติการ Android For TV แท้ๆ กระนั้นยังสามารถยกระดับให้คุณภาพและปริมาณของแอพส์ให้ “เหนือกว่า” ระบบปฏิบัติการ Smart TV ของค่ายอื่นได้ภายในระยะเวลาปีเดียว Android OS โดย Google รวบรวมทุกสรรพสิ่งไม่ว่าจะเป็น Video & Music On Demand ของ Google เอง แอพ YouTube และ Netflix ที่สามารถเลือกชมความละเอียดได้ถึง 4K
รวมถึงเกมส์ต่างๆที่กราฟฟิกสวยงาม มิใช่เกมส์ไม้ประดับที่สักแต่มีไว้ก่อนไว้อีกต่อไป การควบคุมก็สามารถใช้จอย Controller ของ PS4 เชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth ได้เลย สามารถออกคำสั่งค้นหาสิ่งที่ต้องการด้วย Voice Search แค่กดปุ่มไมโครโฟนบนรีโมทแล้วพูดใส่รีโมทลงไป ทีวีก็จะค้นหาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ Keyword ที่เราพูดลงไป ส่วนสปีดการใช้งานก็คงบอกตามตรงว่าหาใช่เร็วปรู๊ดปร๊าดดั่งมือถือที่เราใช้กันทุกวัน ก็ยังมีหน่วงบ้างให้เห็นบ้างตามสูตร ซึ่งโดยรวมถือว่ารับได้กับเจนเนอเรชั่นแรกสุดของ Android TV พอมาปี 2016 นี้ตัวระบบปฏิบัติการเองก็มีการอัพเดทตัวเองให้ทันสมัยตลอดเวลา ทั้งหน้าตาที่ดูสมบูรณ์ลงตัวขึ้น (เทียบจากการเปิดตัวครั้งแรก) และแอพส์ใหม่ๆก็มีเข้ามาเติมอย่างไม่ขาดสาย จุดนี้เป็นข้อดีของระบบ Android เพราะเปิดรับแอพส์ใหม่ๆจากผู้พัฒนาแอพส์ตลอดเวลา
ลูกเล่นการทำ Screen Mirroring หรือการโคลนหน้าจอมือถือไปแสดงบนจอทีวี และ Google Cast เช่นนำภาพจาก YouTube หรือพวกคลิปวีดีโอและภาพนิ่งไปแสดงบนทีวีแบบไร้สาย ก็ยังทำได้เช่นเดิม ก็จัดว่าเป็นระบบปฏิบัติการที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานยุค Smart Phone ครองเมืองได้ดีที่สุด ผมขอพรีวิวแอพส์ไฮไลท์ให้ดูสั้นๆพอเป็นกระษัยครับ ^ ^