12 Jun 2018
Review

รีวิว Sony 65A8F 4K HDR OLED TV ถอดแบบ A1 ในราคาท้าให้เป็นเจ้าของได้ง่ายยิ่งกว่า !!?


  • ชานม

เสียง

ปีที่แล้ว Acoustic Surface จากรุ่น A1 ถือเป็นนวัตกรรมทีวีของ Sony ที่สร้างเสียงฮือฮาแก่วงการเป็นอย่างมาก ไม่แพ้เรื่องของรูปลักษณ์ที่สะดุดตา และบัดนี้เทคโนโลยีด้านเสียงดังกล่าวได้ถูกถ่ายทอดมายังรุ่น A8F เช่นเดียวกัน

Acoustic Surface ของ A8F ไม่ได้ลอกรุ่นพี่ A1 มาตรงๆ ทว่ามีการปรับปรุงบางจุด การติดตั้งอุปกรณ์กำเนิดความถี่เสียงผ่านแรงสั่นสะเทือนพื้นผิวจอภาพที่เรียกว่า Actuator จำนวนฝั่งละ 2 ชุด เท่าเดิม ทว่าปรับเปลี่ยนโครงสร้างปิดบังภายนอกใหม่ให้มิดชิดมากขึ้น เหตุผลเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นขณะทำการยกเคลื่อนย้ายทีวี
จุดต่างที่ชัดเจนอยู่ที่ Bass woofer ซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณกึ่งกลางด้านหลังจอภาพ A8F นั้น มีขนาดที่เล็กลงกว่า A1 แต่เพิ่มจำนวนเป็น 2 ชุด พร้อมท่อจูนเบส (Bass-reflex) แบบคู่ กำลังขับรวมทั้งสิ้นอยู่ที่ 50 วัตต์

จากการทดสอบพบว่า ในแง่ของปริมาณและความลึกของเสียงความถี่ต่ำอาจจะเป็นรองรุ่น A1 อยู่เล็กน้อย ทว่าเสียงเบสของรุ่น A8F จะมีความกระชับฉับไวกว่า จึงให้ความกลมกลืนจากการตอบสนองที่รวดเร็วเท่าทันเสียงกลางแหลมของ Actuator ได้ดีกว่า นอกจากนี้การเซ็ตอัพในสภาพการติดตั้งที่หลากหลายก็พบว่า ช่วยลดโอกาสเกิดปัญหาเบสบวมได้ดีขึ้นด้วย ในบางสถานการณ์จึงให้รายละเอียดเสียงที่ชัดเจนขึ้นเพราะไม่มีปริมาณเบสส่วนเกินที่ก่อให้เกิดความคลุมเครือ แนะนำให้ลองเล่นกับตัวเลือก TV Position ในเมนู Settings เพื่อจูนปริมาณเสียงเบสเพิ่มเติมดูด้วยครับ

Music Player app ที่ติดตั้งมากับระบบ Android TV รองรับ Hi-res Audio formats ให้คุณภาพเสียงได้ดี และยังมีอินเทอร์เฟสที่สวยงามน่าใช้ นอกจากนี้ลูกเล่นอย่าง ClearAudio+ และ Sound Restoration (DSEE) ยังถือเป็นทางเลือกระบบชดเชยเสียงให้กับแหล่งโปรแกรมที่ผ่านการบีบอัดลดทอนแบนด์วิดธ์ ให้มีคุณภาพเสียงที่น่าฟังขึ้น

สรุป

คงไม่เป็นที่กังขาในเรื่องของ “พัฒนาการ” ที่ทาง Sony ใส่มาให้กับ 4K/UHD HDR OLED TV รุ่นใหม่อย่าง A8F ได้อย่างโดดเด่น ในขณะที่ข่าวดี คือ ระดับราคาที่ต่ำกว่ารุ่น A1 เมื่อตอนเปิดตัวเกือบครึ่งหนึ่ง จึงถือเป็นหนึ่งทีวีตัวเต็งประจำปี 2018 ที่ถ่ายทอดศักยภาพด้านภาพและเสียงได้อย่างยอดเยี่ยมเทียบเคียงระดับรุ่นเรือธงในปี 2017 ทว่าราคาสามารถเอื้อมถึงได้ง่ายยิ่งขึ้นครับ

ข้อดี Sony 65A8F

1) ดีไซน์ไม่หวือหวาพรีเมียมแบบ A1 แต่ยังคงคอนเซ็ปต์เรียบง่าย โดดเด่นอย่างกลมกลืน เป็นมิตรต่อการติดตั้งมากกว่า

2) ภาพโดดเด่นดูเป็นธรรมชาติตามสไตล์ Sony ภาพเคลื่อนไหวดี รองรับ Dolby Vision, HDR10 และ HLG

3) Acoustic Surface ให้มิติเสียงกลมกลืนกับภาพที่เห็นบนจอ รายละเอียดดี เบสกระชับขึ้น 

5) Android TV ลูกเล่นหลากหลาย Google Assistance เปิดมิติใหม่ให้ทีวีเป็นส่วนหนึ่งของ Smart Home

6) ราคาเปิดตัวต่ำกว่าเกือบครึ่ง แต่ศักยภาพด้านภาพบางอย่างดีกว่า A1 พร้อมรับประกันถึง 3 ปี

ข้อเสีย Sony 65A8F

1) ไม่รองรับการไฟน์จูน Color Management System (CMS) แบบละเอียด

2) HDMI In 2 และ 3 เท่านั้น ที่เป็น HDMI 2.0 Full Bandwidth

3) Google Assistance ยังไม่รองรับภาษาไทย ต้องรออัพเดทเฟิร์มแวร์ให้มีศักยภาพครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

คะแนน

ดีไซน์ (Design)
8.75
ภาพ 2 มิติ ก่อนปรับภาพ (2D Picture Pre-Calibrated)
8.75
ภาพ 2 มิติ หลังปรับภาพ (2D Picture Post-Calibrated)
9.0
ภาพ 2 มิติ (HDR)
9.25
เสียง (Sound)
8.75
การเชื่อมต่อ (Connectivity)
8.5
ลูกเล่น (Features)
9.0
ความคุ้มค่า (Value)
8.5
คะแนนตัดสิน (Total)
8.8

Sony 65A8F 4K OLED TV

8.8