Features – ลูกเล่น
นอกจากซับวูฟเฟอร์ไร้สายที่ดูหวือหวาจับต้องได้แล้ว ตัวเครื่องมีอีกสองฟีเจอร์เด่นที่ไม่ควรพลาด คือการที่ตัวเครื่องเป็น Chromecast built-in และมีแอปพลิเคชั่น Spotify ติดตั้งมาให้ภายในตัวเครื่อง เพื่อช่วยเปิดโลกออนไลน์ให้กับซาวด์บาร์ตัวนี้ได้อย่างเต็มรูปแบบ
ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเป็นสมาชิก Spotify อยู่แล้ว ก็เพียงแค่เอารหัสมาล็อกอินผ่านตัวซาวด์บาร์ คุณก็สามารถฟังเพลงได้ทันทีไม่ต้องง้ออุปกรณ์อื่นเพิ่ม แต่ถ้าใครไม่ได้เป็นสมาชิก ก็สามารถเลือกใช้งานฟีเจอร์ Chromecast เข้ากับมือถือแอนดรอยด์ของคุณเพื่อฟังเพลงจากแอปพลิเคชั่นสตรีมมิ่งเพลงออนไลน์อื่น ๆ อย่างเช่น Tidal, Deezer, Google Play Music ก็ได้เช่นเดียวกัน
Conclusion – สรุป
Sony HT-MT500 เป็นอีกหนึ่งซาวด์บาร์หน้าตาดีที่มีดีกรีเสียงน่าพอใจเลยทีเดียว ด้วยเนื้อเสียงฟังสบายไม่จัดจ้านแต่กลางเด่นเป็นเอกลักษณ์แบบ Sony ลำโพงตัวผอมตัวนี้จึงเหมาะกับการมาตั้งหน้าทีวีตามความตั้งใจของวิศวกรผู้ออกแบบอย่างไม่มีข้อกังขา ที่น่าแปลกใจคือซับวูฟเฟอร์ตัวบางที่สามารถขับย่านเสียงต่ำออกมาได้ดีเกินลักษณะตัว หรือจะว่าไปมันก็คงคล้าย ๆ กับ Bassbox ที่นักเล่นเครื่องเสียงรถยนต์รู้จักกันดี แต่กรณีนี้เราประยุกต์มาใช้งานกับเครื่องเสียงบ้านก็ดูเข้าท่าไปอีกแบบ
ส่วนของฟีเจอร์การเชื่อมต่อต่าง ๆ ก็เรียกว่าครบทุกรูปแบบการใช้งานหลัก ตั้งแต่ HDMI In เพื่อขับเสียงจากช่อง ARC ของทีวี ไปจนถึง Chromecast built-in ที่เราจะสตรีมเพลงจากแอนดรอยด์เครื่องไหนก็ได้มายังซาวด์บาร์ตัวนี้ ครบเครื่องทุกการใช้งาน พร้อมดีไซน์เรียบหรูดูมีระดับ ท่านไหนสนใจก็เชิญไปทดลองฟังกันได้ที่โชว์รูม Sony ครับผม
ข้อดี
– ดีไซน์สวย งานประกอบเนี๊ยบ วางหน้าทีวีแล้วไม่สูงบังจอ ที่สำคัญคือมันกลืนหายเป็นหนึ่งเดียวกับทีวีไปเลย แต่พอปิดทีวีปั๊บ ก็กลับมากลายเป็นเฟอร์นิเจอร์สวย ๆ 1 ชิ้นเหมือนเดิม
– เสียงดี สะอาด ปราศจากความจัดจ้าน ทำให้ฟังต่อเนื่องได้นาน ส่วนซับวูฟเฟอร์เห็นตัวบาง ๆ แต่ก็ทำโซฟาสั่นได้ เป็นมินิซิสเต็มที่ถูกจูนให้ทำงานร่วมกันอย่างกลมกลืน
– ลูกเล่นแพรวพราว ครบทุกการเชื่อมต่อทั้งแบบมีสายและไร้สาย จะ iOS หรือ Android ก็สตรีมเพลงมาฟังบนซาวด์บาร์ตัวนี้ได้ง่าย ๆ
ข้อเสีย
– บางทีเวลาปิดเครื่องไปนาน ๆ พอกลับมาเปิดใช้งานอีกที จะใช้เวลาเปิดเครื่องกับ Pairing ค่อนข้างนาน
– ซับวูฟเฟอร์แม้จะโฆษณาว่าเหมาะกับการวางไว้ใต้โซฟา แต่นั่นหมายความว่าบริเวณใกล้ ๆ จะต้องมีเต้าเสียบปลั๊กไฟไว้ด้วย ซึ่งถ้าพิจารณาดูตามผังห้องคอนโดในเมืองไทยส่วนใหญ่ จึงค่อนข้างเป็นไปได้ยากนิดนึง