18 Sep 2018
Review

รีวิว TCL 55P5CUS ทีวี 4K HDR จอโค้ง สุดคุ้ม! ดู Netflix YouTube HDR ได้ด้วย!!


  • Dear_Sir

ภาพ

TCL 55P5CUS เป็น LED TV พาเนลแบบ VA ขนาด 55” พาเนลชนิดนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ให้ระดับสีดำที่ค่อนข้างดี รวมไปถึงภาพที่ถ่ายทอดออกมาจะมีความันเงาพอสมควร แต่ก็อย่างที่รู้กันว่าหากไม่ใช่จุด Sweet Spot แล้ว คุณภาพของภาพก็จะลดทอนลงไป ทว่าด้วยลักษณะทางกายภาพของตัวเครื่องที่เป็นจอโค้ง ก็ช่วยลดจุดอ่อนตรงนี้ไปได้มากทีเดียว ซึ่งหากเราไม่ได้นั่งเฉียงมากๆ รับรองว่าคุณภาพของภาพลดทอนลงไม่เยอะครับ

พอร์ต HDMI ทั้งสามช่องของรุ่นนี้ รองรับสัญญาณ 4K 60Hz ทั้งสามช่อง (ไม่ได้จำกัดไว้ที่ HDMI 3 เหมือนรุ่น P62US) ในการทดสอบผมได้ทำการต่อทีวีเข้ากับเครื่องเล่น 4K Blu-ray Player โดยตรง เริ่มแรกผมจะทดสอบดูภาพจากค่าพื้นฐานของโรงงานโดยที่ยังไม่ปรับภาพกันก่อน โหมดภาพอัตโนมัติที่ให้มา มีอยู่ 4 โหมดด้วยกัน ได้แก่ Natural, Standard, Stadium, Dynamic, Movie และ User ซึ่งโหมดที่ผมดูแล้วดีทั้งในแง่ของความสว่าง สมดุลของสีสัน ก็คือโหมด Movie ภาษีภาพกินกว่าโหมดอื่นๆ ค่อนข้างเยอะ

สีสันสดค่อนข้างเงา ระดับสีดำดูดี
ตารางวัดค่าอุณหภูมิสี และการกินไฟที่ใช้

จากตารางด้านบน จะสังเกตเห็นว่าที่ช่อง Color Temp ในโหมด Movie จะอยู่ที่ 7088K ถือว่าดีระดับหนึ่งกับค่าที่มาจากโรงงาน เพียงแต่ภาพจะติดโทนเย็นเล็กน้อย สำหรับบางคนก็อาจจะถูกใจ เพราะคนไทยชอบภาพโทนเย็นหน่อย แต่ถ้าใครไม่ชอบก็อาจเปลี่ยน Color Temperature เป็น Warm ก็ได้

ไม่เพียงแค่ในภาพแบบ SDR ภาพแบบ HDR ก็สามารถใช้โหมด Movie ได้เช่นกัน เรียกได้ว่าโหมดเดียวใช้งานได้ครอบคลุม ซึ่งจากที่ใช้เครื่องมือวัด ความสว่างในโหมด Movie จะอยู่ที่ราว 324 nits ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ LED TV รุ่นเริ่มต้นทั่วไป และที่น่าประทับใจคือแม้จะเป็นทีวีตัวเริ่มต้น แต่ตัวเครื่องก็มี 10-point White Balance ให้ปรับด้วย มีข้อแนะนำครับสำหรับผู้ใช้ที่ไม่มีเครื่องไม้ เครื่องมือในการปรับภาพ ขอให้เลือกใช้โหมด Movie แล้วปรับ Color Temperature เป็น Warm ก็เพียงพอต่อการใช้งานมากๆ แล้ว

ค่าก่อนปรับภาพ จะเห็นได้ว่าสีน้ำเงินโดดออกมา ทำให้ภาพติดโทนเย็น

หลังจากการปรับภาพโดยคุณชานม ค่าอุณหภูมิสีที่ออกมาถือว่ายอดเยี่ยม (ลองดูตารางที่อยู่ในช่อง Movie Calibrated) ที่ปรับแล้วได้ 6540K ซึ่งค่ามาตรฐานที่ดีที่สุดอยู่ที่ 6500K และหลังจากปรับภาพแล้วขอบเขตสียังกว้างขึ้นอีกด้วย จากเดิม 96.4% แต่พอปรับแล้วเป็น 97.2% ตามมาตรฐานของ Rec.709

ปรับแล้วออกมาดีงามมากจริงๆ
ภาพที่ได้ก็เป็นธรรมชาติ สีสัน HDR ดูดีเลย
อยากจะบอกว่ารุ่นนี้เอามาเล่นเกมก็ดีไม่หยอก เพราะ Input Lag ใน Game Mode อยู่ที่ 19.3 ms เท่านั้น

ไม่เพียงแต่ทดสอบคอนเทนท์ความละเอียด 4K คอนเทนท์ Full HD ก็ยังหยิบมาทดสอบด้วยเช่นกัน หลักๆ แล้วผมต้องการดูความสามารถในการอัพสเกลภาพเป็นหลัก โดยแผ่นที่ใช้ทดสอบเป็นแผ่นมวยปล้ำ WrestleMania 2018 ระหว่าง Brock lesnar กับ Roman Reigns ภาพที่ออกมาถือว่ามีรายละเอียด มีน้ำมีนวลพอควรเลย เป็นรองความละเอียด 4K เล็กน้อยเท่านั้น ต้องขอขอบคุณชิปประมวลผลภาพของ TCL