ภาพ
แม้จะเป็นทีวีที่ได้ชื่อว่าเป็นรุ่นประหยัด แต่ก็มีภาษีด้านภาพที่ดีเลยทีเดียว ด้วยคุณสมบัติจาก Wide Color Gamut และ HDR10+ จากที่กล่าวไว้ในส่วนที่แล้ว เริ่มการทดสอบด้วยการรับชมผ่าน Netflix ซึ่งเป็นการเข้าถึงคอนเท็นต์แบบ HDR ที่สะดวกที่สุดสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป โดยจะใช้ภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง BLAME! อันมีจุดเด่นของภาพที่สีสันสดเด้ง การไล่เฉดสี และลำแสงเจิดจ้าที่ท้าให้ทดสอบความสว่างของ HDR จากเครื่องนี้
ค่าภาพจากโรงงานที่ได้ของเครื่องนี้ ให้ความเที่ยงตรงของสีสันอยู่ในเกณฑ์ดี โหมดภาพแนะนำสำหรับการรับชมแบบ SDR และ HDR คือโหมด Movies ที่ให้สมดุลของสีอยู่ในระดับดี ค่าความสว่างสูงสุดอยู่ 310 Nits รับชมได้อย่างสบายตา ให้ศักยภาพการรับชมได้ตามที่อวดสรรพคุณเรื่องภาพเอาไว้เลย
สีสันที่ได้จากเรื่องนี้นั้น มีความสดอิ่ม ให้สีที่ฉ่ำตาถูกคออนิเมะแน่นอน เช่นในฉากสุดท้ายที่ตัวร้ายมาถล่มฐานมนุษย์ โทนสีจะออกไปทางสีแดง เนื่องจากในเรื่องกำลังเกิดไฟไหม้ลุกโชนไปทั่ว ทีวีเครื่องนี้สามารถไล่เฉดสีได้อย่างดี ตัดด้วยลำแสงจากปืนเลเซอร์ที่เจิดจ้าสมกับความเป็น HDR10 จนต้องรู้สึกแปลบปลาบดังที่ผู้สร้างตั้งใจไว้ สอบผ่านในเรื่องการรับชมภาพยนตร์อนิเมชั่นแบบไม่มีอะไรน่าห่วง
จะทดสอบด้วยการ์ตูนอนิเมชั่นก็ดูธรรมดาไป มาทดสอบค่าภาพจากโรงงานกันต่อกับซีรีส์เรื่อง A Series of Unfortunate Events บน Netflix เป็นอีกเรื่องที่ภาพ HDR และมีจุดเด่นในเรื่องของสีสันที่มีความเป็นธรรมชาติ ไม่ย้อมโทนภาพจนสีของผิวพรรณผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง อ่านมาถึงตรงนี้บางท่านอาจสงสัยว่าทำไมยังทดสอบด้วย Netflix อีก เนื่องจากการรับชมแบบสตรีมมิ่งนั้น เป็นคอนเท็นต์ 4K HDR ที่เข้าถึงผู้รับชมส่วนใหญ่ได้มากและง่ายที่สุดนั่นเอง
แม้จะเป็นการชมแบบสตรีมมิ่ง แต่ก็ให้ความคมชัดและสีสันที่เป็นธรรมชาติ แลดูสบายตาไม่จัดเกินไป เช่นลักษณะทางกายภาพของ เคาต์โอลาฟ ตัวร้ายในเรื่อง ที่มีใบหน้าอันเหี่ยวย่น เส้นผมทั้งหงอกขาว เทา และสีเข้มสลับกันไป ทีวีเครื่องนี้สามารถเผยรายละเอียดได้อย่างครบถ้วน องค์ประกอบต่างๆ ในฉากก็ผุดสีสัน และสร้างความเปรียบต่างของแสงได้ดีในฉากเดียวกัน ส่วนที่มืดก็ไม่ดำจม มีรายละเอียดให้เห็น ด้านสว่างก็ไม่ขาวโพลนจนสูญเสียรายละเอียด
ทดสอบกันต่อด้วยแผ่น 4K Blu-ray เรื่อง Captain Marvel ซูเปอร์ฮีโร่สาวจากฝั่ง Marvel โดยโหมดภาพที่ใช้ยังคงเป็น Movies ที่ให้ค่าภาพจากโรงงานได้ดีที่สุด หลังจากรับชมแล้วก็ไม่ผิดหวัง ให้สีสันความสดได้ดีตามมาตรฐาน ผลพวงจาก Wide Color Gamut บวกกับ HDR10+ นับว่าเป็นจุดเด่นของรุ่นนี้เลย
หลังจากที่ได้ทำการปรับคาลิเบรทภาพแล้ว พบว่า TCL 55P8S นี้ สามารถปรับโหมดภาพ HDR แบบอิสระ แยกจากโหมดภาพแบบ SDR ซึ่งถือว่าเป็นข้อดี เพื่อให้ได้โหมดภาพที่เหมาะสมในการรับชมแต่ละรูปแบบ และที่น่าสนใจคือการรับชมแบบ SDR ให้ความถูกต้องของสีได้เที่ยงตรงมาก สำหรับคอนเท็นต์ HDR ได้ค่า DCI-P3 สูงถึง 88.6% หรือ REC.2020 ที่ 65.3% สูงกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง P8 และให้ขอบเขตสีกว้างพอๆ กับรุ่น C6 เลยทีเดียว โดยโหมดภาพแนะนำนั้นยังคงเป็นโหมด Movies เช่นเดิม
สิ่งพิเศษอีกอย่างของรุ่นนี้อยู่ที่การรองรับ Micro Dimming ซึ่งจะทำการดิมความสว่างลงขณะที่รับชมฉากมืด ภาพรักษาระดับความดำเอาไว้ ฟีเจอร์นี้จะทำการเปิดให้โดยอัตโนมัติ หลังจากที่รับชมมาหลายเรื่องแล้ว แทบไม่พบกับอาการวูบวาบจากการดิมไฟลงกระทันหันเท่าไรนัก ไม่รบกวนสายตาระหว่างรับชมภาพยนตร์
กลับมาดูภาพหลังการปรับกับเรื่อง Captain Marvel กันอีกครั้ง พบว่าผิวพรรณของตัวละคร รวมถึงสีชุด มีความฉ่ำตาดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นพอสมควรเลย สังเกตความแตกต่างได้ค่อนข้างชัด ซึ่งทีวีรุ่นนี้ ไม่สามารถปรับโมชั่นภาพเคลื่อนไหวได้ แต่จากที่รับชมแล้ว ฉากแอ็คชั่นต่างๆ ให้ภาพเคลื่อนไหวลื่นไหลในเกณฑ์ดี สร้างอรรถรสความสนุกได้เต็มเปี่ยม
ภาพยนตร์เรื่องถัดไปที่ทำการทดสอบ HDR หลังการปรับภาพคือเรื่อง Alitar เป็นภาพยนตร์ที่เป็นลูกผสมอันลงตัวระหว่าง CG และนักแสดงจริงๆ ใช้เทคนิคการสร้างที่ละเอียด มีแสงสีสวยงามเหมาะต่อการทดสอบ ซึ่ง TCL 55P8S ยังทำหน้าที่สร้างความบันเทิงได้อย่างดี ในฉากการต่อสู้ที่สนามแข่ง ทีวีเครื่องนี้สามารถแสดงผลภาพเคลื่อนไหวได้แบบไม่มึนงง ภาพโลหะต่างๆ มีความวาว เก็บรายละเอียดเส้นสายเครื่องจักรได้ครบถ้วน
ส่วนใครที่ต้องการนำทีวีเครื่องนี้มาใช้เล่นเกม รับรองว่าไม่ผิดหวัง เพราะนอกจากจะให้ภาพ HDR เปล่งประกายแล้ว ในโหมด Game นั้น ให้ค่า Input Lag ที่ต่ำมากเพียง 14.7 MS แต่ถ้าต้องการใช้งานโหมดภาพอื่นๆ ก็ยังให้ค่า Input Lag ที่ต่ำ อยู่ที่ราวๆ 47 MS เท่านั้น เล่นเกมสไตล์แอ็คชั่นได้อย่างเพลิดเพลิน ไม่มีอาการดีเลย์ ได้การเล่นที่สัมพันธ์กับภาพในจออย่างทันท่วงที นับว่าเป็นทีวีรุ่นคุ้มค่า ที่ครบเครื่องเพียงพอต่อการใช้งานหลายด้านจริงๆ
เสียง
ด้านเสียงของ TCL 55P8S ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานเลย ดอกลำโพงจะอยู่ใต้จอภาพ ให้กำลังขับรวมอยู่ที่ 20W สามารถให้ความดังในระยะรับชมได้แบบสบายๆ เนื้อเสียงชัดเจนเป็นอย่างดี แต่หากใครต้องการคุณภาพเสียงที่มีความหนักแน่นขึ้น สามารถนำซาวด์บาร์มาเชื่อมต่อผ่าน HDMI ARC ได้ ซึ่งดีไซน์ของรุ่นนี้สามารถรับเข้ากับซาวด์บาร์ได้เป็นอย่างดี
ทีวีเครื่องนี้รองรับการถอดรหัสเสียง Dolby Audio ช่วยในเรื่องการถอดรหัสเสียงจากการรับชมหลากช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นจากไฟล์ หรือแอพสตรีมมิ่งอย่าง Netflix นอกจากนี้ยังมีโหมดจำลองเสียงเซอร์ราวด์ ให้ความรู้สึกพื้นที่เสียงกว้างขึ้น แต่แน่นอนว่าการจำลองเสียงเซอร์ราวด์ของทีวีในปัจจุบันยังมีข้อจำกัดอยู่ จึงแนะนำว่าโหมดเสียง Standard นั้นก็เสียงที่คมชัดเพียงพอต่อการรับชมเลย
