Picture – ภาพ
49L5650VT ตัวนี้ มีโหมดภาพสำเร็จรูปจากโรงงานมาให้เราใช้ทั้งหมด 6 แบบด้วยกัน เริ่มจาก Dynamic, Standard, Football/Cricket, Cinema, Game และ User แน่นอนว่าตามธรรมเนียม ก่อนจะรีวิวเราก็ต้องวัดค่าจากโรงงานกันก่อน ด้วยอุปกรณ์ตรวจวัดที่ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก isf โดยค่าที่ได้มีดังต่อไปนี้ครับ
Pre Calibration – SDR Mode | ||||||
Picture Mode | CTT | Gamma | Luminance | Backlight | HDMI | Power |
avg | avg | fL | Lag | W | ||
Dynamic | 14122 | 1.86 | 100.5 | Max | 28.7 | 83 |
Standard | 9960 | 2.01 | 97 | 85 | 26.3 | 76 |
Football / Cricket | 16802 | 2.22 | 79 | Max | 29.9 | 83 |
Cinema | 7037 | 2.1 | 77.2 | 80 | 26.6 | 72 |
Game | 10221 | 2.12 | 98.8 | Max | 29.5 | 83 |
User | 9990 | 2.03 | 109.4 | Max | 83 | |
User (calibrated) | 7160 | 2.2 | 65.4 | Max | 30.2 | 84 |
ค่าเริ่มต้นจากโรงงานดูแล้วค่อนข้างจะมีความคลาดเคลื่อนอยู่ ซึ่งโหมดที่เข้าใกล้มาตรฐานที่สุดที่สามารถเลือกใช้งานแบบไม่ต้องปรับภาพก็คือ Cinema ซึ่งจะมีอุณหภูมิสีอยู่ที่ประมาณ 7000K มาดูสีจริงกันครับว่าแต่ละโหมดให้ผลลัพธ์ออกมาแบบใดบ้าง
หากไม่ต้องการจะวุ่นวายกับการปรับภาพ ผมแนะนำให้เลือกมาที่โหมด Cinema แล้วเลือก Color Temp ไปที่ Warm จะทำให้ได้ภาพที่ใกล้เคียงกับการรับชมผ่านโรงภาพยนตร์มากยิ่งขึ้น
กราฟสีด้านบนแสดงขอบเขตสีสันที่ทำได้ของโหมด Cinema ซึ่งถือว่าเป็นโหมดสำเร็จรูปจากโรงงานที่ให้ค่าได้ใกล้เคียงมาตรฐานที่สุดในบรรดาโหมดต่างๆ โดยหากอ้างอิงจากขอบเขตสี Rec.709 แล้ว ทีวีตัวนี้ให้สีสันได้ในระดับปานกลาง คือไม่เพี้ยนเยอะ หรือยอดเยี่ยม
หลังจากดูค่าก่อนปรับภาพกันไปได้ระยะหนึ่ง ผมก็ส่งจอเข้าแล็บคุณชานมให้ทำการ Calibrate จอ เพื่อเค้นเอาประสิทธิภาพที่อาจจะซ่อนอยู่เอาไว้ออกมาให้ได้มากที่สุด โดยโหมดภาพที่เราใช้ก็คือ User ที่จะปล่อยให้เราเข้าไปเพิ่มลดค่าต่างๆ ได้อย่างอิสระ ด้านล่างคือผลลัพธ์หลังจากผ่านการปรับภาพครับ
ขั้นตอนหลักๆ ที่ทีมงานจะทำเพื่อปรับจูนภาพก็คือการทำให้ทีวีสามารถแสดงสีสันได้อย่างเที่ยงตรง และเค้นเอาความสามารถในการแสดงสีเพื่อไปสู่เป้าหมาย 100% Rec.709 ซึ่งเป็นมาตรฐานทีวี Full HD ที่ยอมรับกันในอุตสาหกรรมภาพยนตร์
3D Color Management คือตัวเลือกสำคัญ ที่ทำให้สีที่ได้ออกมาแม่นยำใกล้เคียงมาตรฐาน ซึ่งโตชิบาเองได้ทำการใส่ตัวเลือกนี้มาให้เราปรับในทีวีตัวนี้ด้วย แต่น่าเสียดายที่เราไม่สามารถปรับ White Balance แบบละเอียดเพิ่มเติมได้ ไม่เช่นนั้นทีวีตัวนี้จะสามารถแสดงสีได้แม่นยำมากขึ้นไปอีกขั้นแน่นอน
ก็จบกันไปสำหรับเรื่องข้อมูลอ้างอิงจากอุปกรณ์มาตรฐานนะครับ ถ้าถามผมตรงๆ ว่าในชีวิตจริงเราจำเป็นจะต้องซีเรียสอะไรระดับนี้หรือไม่ ก็ตอบตรงๆ เช่นกัน ว่าหากท่านเป็นนักดูหนังตัวยง ต้องการรับสารที่ผู้กำกับต้องการจะสื่อทุกอย่าง เรื่องพวกนี้ก็เป็นสิ่งที่ท่านควรไขว่หา เพราะสีเพี้ยนก็เหมือนกับเสียงเพี้ยน มันส่งผลต่อใจความที่มาถึงเราครับผม
แต่ถ้าตัวเราต้องการที่จะเพลิดเพลินในระดับผู้ใช้ทั่วไป ปัจจัยด้านความเที่ยงตรงอาจจะพอลดความสำคัญลงมาได้บ้าง เพื่อจะได้ไปให้น้ำหนักกับบรรดาฟีเจอร์ที่ทางผู้ผลิตพยายามสรรสร้างให้เรา