20 Oct 2014
Review

รีวิว VELOCITA MILANO V สาย HDMI ที่มาคู่กับคำว่า สมบูรณ์แบบ


  • ชานม

ด้วยการที่ VELOCITA เลือกใช้เทคนิคตัวนำที่เรียกว่า Silver Integration โดยผสมผสานโลหะเงิน เข้ากับตัวนำแบบ Solid Core ที่มีขนาดหน้าตัดตัวนำใหญ่พิเศษ นั่นจึงส่งผลให้ขนาดหน้าตัดสายโดยรวมของ MILANO HDMI ใหญ่กว่าปกติ (Ø ≈ 9.67mm) ตัวสายอาจจะค่อนข้างแข็งอยู่บ้าง แต่ยังคงให้ระยะดัดงอสายได้ ไม่แข็งโป๊กเสียบยากจนเกินไปนัก และเมื่อพิจารณาในส่วนของหัวต่อ หรือคอนเน็คเตอร์ จะพบว่ามีขนาดใกล้เคียงกับมาตรฐานทั่วไป

ข้อจำกัดของสาย HDMI ที่มีขนาดโครงสร้างใหญ่ที่หลายท่านอาจเป็นกังวล คือ เมื่อมีพื้นที่จำกัด (อย่างด้านหลังทีวี เครื่องเสียง) จะเกิดปัญหาการเสียบต่อหรือเปล่า โดยเฉพาะทีวียุคปัจจุบันที่มีขนาดบางลงๆ ทุกวัน พื้นที่เสียบต่อสายย่อมจะน้อยลงๆ สายใหญ่อาจจะเสียบไม่ได้ อีกทั้งโครงสร้างที่ใหญ่ ระยะดัดงอสายก็ย่อมจะไม่ยืดหยุ่นมากเหมือสายขนาดเล็ก เรียกว่าต้องเผื่อพื้นที่ว่างให้สายทิ้งตัวด้วย แต่ในประเด็นนี้สำหรับ VELOCITA MILANO V จะส่งผลกับการใช้งานจริงอย่างไร?

VELOCITA MILANO V ถือว่าเป็นสาย HDMI โครงสร้างใหญ่ ค่อนข้างมีน้ำหนักก็จริง แต่จากการใช้งานพบว่า คุณสมบัตินี้มิได้สร้างปัญหา สามารถเสียบต่อกับช่องต่อ HDMI ของทีวีจอบางยุคปัจจุบัน ที่มีเนื้อที่จำกัดได้ ความกระชับแน่นในการเสียบต่อดี ไม่หลวมคลอนหลุดง่าย แต่ก็ไม่คับจนเสียบยาก น้ำหนักสายที่ค่อนข้างมากอยู่สักหน่อย แต่มิได้เป็นปัญหาถ่วงดึงจนทำให้สายหลุด หรือทำให้หัวคอนเน็คเตอร์งอ เสียหาย

การใช้งานร่วมกับ Samsung 55F8000 ที่จะมีฝาปิดครอบช่องต่อด้านหลังทีวี เพื่อความเรียบร้อย สวยงาม ดังภาพ
ถึงแม้ Milano V จะมีขนาดสายค่อนข้างใหญ่ แต่ก็ยังสามารถปิดฝานี้ได้ (เมื่อเสียบช่อง HDMI 1 – 3)

เช่นกัน เมื่อทดลองใช้งานโดยเชื่อมต่อเข้ากับซิสเต็มโฮมเธียเตอร์ อย่างเช่น การเสียบต่อกับ AV Processor/AV Receiver พบว่าให้เสถียรภาพได้ดี ไม่มีปัญหา ถ้ามีพื้นที่ว่างด้านหลังเครื่องประมาณสักคืบนึง ก็เสียบได้ครับ

Sound – เสียง

ตอนได้สายมาใหม่ๆ แกะออกมาฟังแรกๆ เสียงจะติดคลุมเครืออยู่สักหน่อย ถึงแม้ยังพอได้เค้าว่าให้น้ำเสียงได้อิ่มเอิบ ทว่ายังออกไปทางอั้นๆ เสียงความถี่ต่ำเองก็ยังขาดแรงปะทะอยู่ แต่เมื่อเปิดเบิร์นไปสักระยะหนึ่ง เมื่อเลย 48 ชม. แรกไปแล้ว จะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น รายละเอียดที่เหมือนหลบใน ก็เปิดเผยให้เห็นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เพื่อความแน่ใจ เบิร์นต่อไปสัก 120 ชม. ได้ผลลัพธ์ดังนี้

นับว่า VELOCITA MILANO V ให้ดุลเสียงไม่เทไปทางใดทางหนึ่ง สิ่งที่อัพเกรดขึ้นจาก MILANO I ให้ความชัดเจนในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรายละเอียด น้ำหนักเสียง และบรรยากาศ จุดที่น่าสนใจสำหรับ MILANO Series คือ น้ำเสียงที่อิ่มแน่น นำไปฟังเพลงก็ให้เคลิบเคลิ้ม จุดที่พัฒนาขึ้นจาก MILANO I คือ ให้ความเนียนสะอาดไหลลื่นขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง เดิมทีสาย HDMI มักจะถูกมองว่าให้น้ำเสียงได้ไม่ค่อยจะดีนัก เมื่อเทียบกับสายอะนาล็อกหรือแม้แต่สายดิจิทัลแบบ Coaxial กล่าวคือฟังเพลงแล้วไม่ค่อยได้บรรยากาศ อะไรก็ดูเหมือนจะบีบๆ แข็งๆ ดูเกร็งไปเสียหมด แต่ตอนนี้ช่องว่างระหว่างสายอะนาล็อกหดแคบลงเรื่อยๆ (ซึ่งหมายถึง DAC ต้องดีด้วยนะ) ส่วน Coaxial ไม่น่าจะเป็นประเด็นอีกต่อไป

ถึงแม้จุดเด่นประการแรกจะเป็นเรื่องของน้ำเสียงที่อิ่มเอิบ แต่อีกจุดหนึ่งที่ MILANO V ไม่ขาด กลับดูจะทำได้ดีเสียด้วย คือ การแจกแจงรายละเอียดเสียง (ซึ่งมักจะเกิดกับสายราคาไม่สูง ที่เน้นเรื่องมวลเสียง) ซึ่งน่าจะเป็นอานิสงส์ของการใช้ Silver contact การแจกแจงที่ว่า นอกจากปลายเสียงที่กระจ่างแล้ว ยังเปิดเผยดีเทลเช่นระยะห่างของชิ้นดนตรีที่ชัดเจนขึ้น ไม่ควบรวมหรือบีบรัดชิดกัน เป็นความกระจ่างที่ยังให้ความผ่อนคลาย ไม่เครียด ไม่อึดอัด ฟังดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งคงไม่ได้เน้นไปในแนวอึกทึก

มาดูเรื่องของการรับฟังร่วมกับระบบเสียงของภาพยนตร์บ้าง แน่นอนจุดที่สัมผัสได้ชัด คือ เสียงสนทนาที่ฟังเป็นธรรมชาติมาก ให้ความอิ่มเอิบ ฟังสบาย ไม่เจออาการแห้งบาง โดยเฉพาะเมื่อเปิดในระดับเสียงค่อนข้างดัง บรรยากาศโอบล้อมดูจะชี้ชัดตำแหน่งได้จะแจ้งขึ้น แต่ที่เด่น คือ มวลเสียงความถี่ต่ำที่สะอาด แผ่ และลงลึก ปริมาณเบสไม่ได้โอเวอร์เกินเลย หรือกระแทกกระทั้น แต่ให้โฟกัสได้ดี จึงมิได้เหมาะเฉพาะกับการรับชมภาพยนตร์อย่างเดียว แต่ควบรวมไปถึงในแง่ของการฟังเพลงแบบมัลติแชนเนลด้วย เสียงเอฟเฟ็กต์จากช่องเสียง LFE กับการรับชมภาพยนตร์ที่บันทึกเสียงได้ดุดัน ก็ให้แรงปะทะกำลังดี ที่เด่นจะเป็นเรื่องของการคงบาลานซ์ย่านต่ำ ไม่เน้นปริมาณเบสต้นเพื่อสร้างอิมแพ็ค แต่ให้น้ำหนักความลึกเพื่อสร้างบรรยากาศ

Picture – ภาพ

ลักษณะของภาพ หลังจากเบิร์นเป็นระยะเวลา 120 ชม. เป็นดังนี้ จุดเด่นของ VELOCITA MILANO V คือ ความอิ่มแน่นของสี ที่ให้เนื้อสีที่เข้ม สด ไม่เน้นสว่างโพลน แต่ให้ระดับสีดำที่ดำลึก อันมีส่วนช่วยให้มิติภาพมีความลึกขึ้น แต่ทั้งนี้การใช้งานร่วมกับโหมดภาพที่ให้ความเป็นธรรมชาติสูง เช่น Movie หรือ User จะให้ความสมบูรณ์กว่าอ้างอิงกับโหมดภาพที่ให้สีสันเกินจริง กำหนด Brightness ไม่เหมาะสม หรือเน้น Sharpness เกินพอดีอยู่ก่อน มันจึงมิใช่สายที่เพิ่มเติมส่วนที่ขาด หรือลดทอนส่วนที่เกินชัดเจนนัก

Conclusion – สรุป

HDMI VELOCITA MILANO V

ข้อดี
1. การผสมผสานวัสดุเงินกับตัวนำขนาดใหญ่ให้ผลลัพธ์ คือ แนวเสียงที่เป็นธรรมชาติ ไม่มีความแห้งบาง ทว่าน้ำเสียงอิ่มใหญ่ มีน้ำมีนวล คล้ายคลึงอะนาล็อก ปลายเสียงเปิดเผย
2. ภาพอิ่มเข้ม ให้น้ำหนักของสีได้ดี
3. รับประกันตลอดอายุการใช้งาน หากพบปัญหาระหว่างใช้ สามารถเคลมกับร้านที่ซื้อได้

ข้อเสีย
1. ตัวสายค่อนข้างใหญ่ และแข็ง ดัดงอยากสักนิด จำเป็นต้องมีพื้นที่บ้าง แต่กับการเสียบต่อกับคอนเน็คเตอร์ของอุปกรณ์อย่างทีวีบางๆ ไม่มีปัญหา
2. ขณะทดสอบ ยังมีความยาวจำกัด ยาวสุดที่ 2 เมตร

หากเทียบกับสาย HDMI ระดับไฮเอ็นด์ในท้องตลาด กล่าวได้ว่า VELOCITA “MILANO V” มีราคาไม่สูงเลยเมื่อเทียบกับศักยภาพที่ได้ หากท่านใดเคยประทับใจกับสายลำโพงของ VELOCITA “ROME V” จะพบว่าค้ายคลึงกันในแง่ของความไฮเอ็นด์ กล่าวคือจะช่วยอัพเกรดศักยภาพของซิสเต็มให้สูงขึ้นชัดเจนเมื่อเทียบกับสายตลาด ในขณะที่ยังคงบาลานซ์ไม่เน้นหนักไปทางใด จึงแนะนำอย่างยิ่งสำหรับเติมเต็มศักยภาพของซิสเต็มโฮมเธียเตอร์ให้ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

หมายเหตุ : มาตรฐานคะแนนปี 2013
สาย HDMI VELOCITA MILANO V
2 เมตร ราคา 4,000 บาท

1 เมตร ราคา 3,400 บาท
สายลำโพงไฮเอ็นด์ VELOCITA ROME V : Single Wire
ราคา 19,990 บาท