17 Jul 2016
Review

ชุดลำโพง Atmos ระดับอ้างอิง !!? รีวิว Klipsch Reference Premiere Dolby Atmos 5.1.2


  • ชานม

Setup – การติดตั้ง

เหมือนเช่นลำโพงโฮมเธียเตอร์ทุกรุ่น ที่ต้องทำการติดตั้งอย่างเหมาะสมจึงจะสามารถรีดศักยภาพออกมาอย่างเต็มที่ และ Klipsch Reference Premiere Dolby Atmos นี้ ก็ไม่มีข้อยกเว้น

สำหรับลำโพงวางขาตั้ง และลำโพงเซ็นเตอร์จะให้แผ่นยางสำหรับติดรองตู้ลำโพงมาด้วย แนะนำให้ติดไว้ครับ ส่วนลำโพงตั้งพื้นมี 2 ทางเลือก กรณีที่ตั้งวางบนพรม หรือพื้นที่ไม่เรียบ หรือไม่ได้ระนาบ แนะนำให้ใช้เดือยแหลมและทำการปรับระดับให้เรียบร้อย แต่หากเป็นพื้นแข็งที่ได้ระนาบมั่นคงอย่างพื้นคอนกรีต พื้นกระเบื้อง แนะนำให้ใช้แผ่นยางติดแทน

การติดตั้งใช้งานร่วมกับ Dolby Atmos/DTS:X AV Receiver จะต้องกำหนดลักษณะลำโพง (Speaker Configuration) ให้ถูกต้องตรงตามการใช้งาน ซึ่งสำหรับบททดสอบนี้อ้างอิงการใช้งานร่วมกับ Denon AVR-X7200WA (F/W 6880-7971-5211-00) จะต้องกำหนดในส่วนของ Amp Assign หัวข้อ Height Speakers เป็น “Using Dolby Speakers”

สำหรับท่านที่ยังไม่มั่นใจว่าจะปรับตั้งเสียงของลำโพงรูปแบบ Dolby Atmos Enabled Speakers อย่างไร เบื้องต้นอาจใช้ระบบ Speakers Auto Calibration ได้ ซึ่งผลลัพธ์จากระบบ Audyssey MultEQ XT32 ของ AVR-X7200WA ทำได้ลงตัวดีทีเดียว

Sound – เสียง

เริ่มต้นทำการทดสอบแบบ 5.1.2 โดยทำการเปรียบเทียบระหว่างใช้งานลำโพง Front Dolby Atmos Enabled Speakers ที่ติดตั้งมากับ RP-280FA กับทดลองไม่ใช้งาน (Off) เพื่อดูว่าลำโพงพิเศษ Height Channel รูปแบบนี้มีส่วนเติมเต็มมิติเสียงด้านสูงได้จริงหรือไม่?

คอนเทนท์ที่ใช้ในการทดสอบ คือ แผ่นบลูเรย์ Dolby Atmos Demonstration Disc (Sep 2015 Ver.) แทร็กที่ชื่อว่า Audiosphere สามารถใช้อ้างอิงมิติเสียงโอบล้อมจากลำโพงรอบทิศทางทั้งบนและล่างได้ดีมากๆ แนะนำเลย

ผลลัพธ์ชัดเจนว่า Front Dolby Atmos Enabled Speakers ช่วยเติมเต็มมิติเสียงด้านสูงได้จริงไม่อิงนิยาย หากไม่มีแล้วล่ะก็ บรรยากาศเสียงด้านบนจะหายไป แต่แน่นอนว่าเวทีเสียงด้านสูงที่ได้จากระบบ 5.1.2 รูปแบบนี้ อาจจะเทหนักไปทางด้านหน้าตามตำแหน่งของลำโพง Height Channel คำแนะนำเพิ่มเติม คือ ไม่ควรตั้งลำโพงเซอราวด์หลังต่ำเกินไปแต่ให้ทำการยกสูงสักหน่อย (ต้องสูงไม่น้อยกว่า 1.20 – 1.50 ม. ขึ้นไป) เพราะลำโพงเซอร์ราวด์ในระบบ 5.1.2 จะทำหน้าที่ควบรวมเสริมสร้างทั้งทิศทางเสียงด้านหลังและเติมเต็มบาลานซ์มิติเสียงด้านสูง ถึงแม้หน้าที่หลังจะไม่เด่นชัดเท่า Rear Height Channel ในระบบ 5.1.4 แต่กรณีนี้ก็ช่วยได้มากเหมือนกันครับ

ทดสอบกับภาพยนตร์ดูบ้างกับ Transformers Age of Extinction (Dolby Atmos) สิ่งที่ยืนยันได้เลย คือ น้ำหนักเสียงจากชุดลำโพง Enabled Speakers แบบ “Built-in” ที่ฝังอยู่ด้านบนลำโพงตั้งพื้นขนาดใหญ่อย่าง RP-280FA มีความโดดเด่นกว่าลำโพงลักษณะ “Add-on” หลายๆ รุ่น (ที่มักจะมาในแบบตู้ลำโพงขนาดกะทัดรัดติดตั้งตัวขับเสียงขนาดเล็ก) อย่างเห็นได้ชัด จุดนี้ส่งผลไปถึงบรรยากาศด้านสูงจาก RP-280FA มีสเกลเสียงที่โอ่อ่ากว่า และที่สำคัญ คือ “ความหนักแน่น” จากเอฟเฟ็กต์ด้านสูง พลังดูดมหาศาลของยานลอยฟ้าขนาดยักษ์จากแชปเตอร์ 20 เสียงเครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ในแชปเตอร์ 12 – 13 ไปจนถึงเสียงฟ้าคำรามจากแทร็กที่ชื่อว่า Amaze ในแผ่น Dolby Atmos Demonstration Disc ฟังดูมีสเกลยิ่งใหญ่พร้อมพลังเสียงที่สมจริงกว่ามาก จนลืมลำโพง Add-on เล็กๆ ไปเลย

อย่างไรก็ดีหากเทียบกับชุดลำโพง 5.1.2 ที่ใช้งานลำโพงรูปแบบ Top (Middle) Speakers ติดตั้งอยู่บนฝ้าเพดาน (ทดสอบอ้างอิงร่วมกับลำโพง KEF Ci200RR-THX) พบว่า การชี้ตำแหน่งทิศทางเสียงจาก Transformers แชปเตอร์ 20 จะมีความชัดเจนสมจริงกว่าบ้าง อ้างอิงได้จากตำแหน่งยานแม่จะอยู่บนศีรษะชัดเจนมากๆ ในขณะที่ผลลัพธ์จาก Front Enabled Speakers อาจจะพอถ่ายทอดบรรยากาศด้านสูงได้ก็จริง แต่ตำแหน่งยังไม่ชัดแจ้งมากเท่า ทั้งนี้หากต้องการเสริมผลลัพธ์ด้านมิติทิศทางเสียงด้านสูงสำหรับ Enabled Speakers ให้เทียบเท่ากับ Top Speakers คงต้องทำการเพิ่มเติม Enabled Speakers อีกชุดหนึ่งที่ลำโพงเซอร์ราวด์ เพื่อใช้งานแบบ 5.1.4 ครับ

เนื่องจากต้องการชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างที่ได้จากระบบเสียงยุคใหม่ จึงเน้นรายงานเสียงเอฟเฟ็กต์จาก Height Surround Channel ก่อน อย่างไรก็ดีต้องขอบอกว่า ความยอดเยี่ยมของซิสเต็มลำโพงโฮมเธียเตอร์ชุดนี้ ที่โดดเด่นที่สุดเห็นจะไม่พ้น RP-280FA ที่รับหน้าที่สำคัญเป็นลำโพงคู่หน้านี่แหละ ซึ่งมากกว่าครึ่งของความอลังการ เวทีเสียงโอ่อ่า มาจากลำโพงคู่นี้นี่เอง แรงปะทะและเสียงความถี่ต่ำอันหนักแน่นจากวูฟเฟอร์สีทองแดงคู่ขนาด 8 นิ้ว เป็นอะไรที่น่าประทับใจมาก

Klipsch Reference Premiere Dolby Atmos มิใช่ลำโพงสไตล์เสียงหวานแหวว หากจะให้ยกแนวเพลงที่เข้ากันกับคาแรคเตอร์ของลำโพงคู่นี้ ผมนึกถึง Main Title from Star Wars/ The Flag Parade แทร็กหนึ่งในอัลบั้ม Mega Movies (SACD Stereo/Multi-channel) อำนวยเพลงโดย Erich Kunzel และวง Cincinnati Pops Orchestra กับอัลบั้มไลฟ์คอนเสิร์ตสุดอลังการ Moment of Glory (SACD Stereo/Multi-channel) จากวงร็อคไอ้แมงป่องผยองเดช Scorpions ร่วมกับวง Berliner Philharmoniker ที่ฟังผ่านลำโพงชุดนี้แล้วมันสะใจจริงๆ กับแนวเสียงเปิดเผยที่มาพร้อมพลังอันดุดันและความยิ่งใหญ่โอ่โถงของเวทีเสียง

ยอมรับว่าทีแรกมองว่าซับวูฟเฟอร์ขนาด 15 นิ้ว รุ่น R-115SW น่าจะดูลงตัวกว่า ในแง่การเติมเต็มย่านต่ำลึกให้สมน้ำสมเนื้อกับศักยภาพของลำโพงคู่หน้า ทว่าเมื่อใช้งานจริงศักยภาพของ R-112SW ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง การรับชมร่วมกับภาพยนตร์ระบบเสียง Dolby Atmos หลายๆ ไตเติล รวมไปถึง San Andres อย่างที่ทราบว่าเรื่องนี้บันทึกเสียงย่าน LFE มาอย่างหนักหน่วง ลำโพงซับวูฟเฟอร์รุ่นนี้ก็ไม่แสดงอาการอ่อนเปลี้ยใดๆ แต่ยังคงเติมเต็มเสียงเอฟเฟ็กต์ต่ำลึกได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งขนาดตัวตู้ที่ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไปนี้ ยังช่วยให้จัดหาที่ทางตั้งวางได้สะดวกกว่า R-115SW ที่มีขนาดใหญ่กว่าด้วย

ทั้งขนาดและอัตราตอบสนองความถี่ของ RP-450CA ลำโพงเซ็นเตอร์ในชุดนี้ พูดได้ว่าเป็นลำโพงขนาด Large ได้อย่างเต็มปาก ดูเผินๆ ก็ไม่ต่างจากลำโพงตั้งพื้นขนาดย่อมๆ ที่นำมาวางนอนเท่าไหร่… การถ่ายทอดน้ำหนักและสเกลเสียงจึงไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่า RP-280FA เลย แต่เหนือสิ่งอื่นใด คือ เสียงสนทนามีความหนักแน่น แม้แต่เสียงต่ำๆ จากนักร้องชายก็มีพลังฟังแล้วสมจริงดีมาก น้อยนักที่ลำโพงเซ็นเตอร์ทั่วไปจะให้ได้ถึงขนาดนี้

ดังที่เรียนไปในตอนต้นว่า ในระบบ 5.1.2 ลำโพงเซอร์ราวด์จะทำหน้าที่ 2 อย่าง คือ ถ่ายทอดมิติเสียงโอบล้อมด้านหลัง และเติมเต็มบรรยากาศด้านสูงโดยเป็นตัวบาลานซ์เสียงจาก Front Height Speakers มิให้น้ำหนักทิศทางเสียงด้านสูงเทไปด้านหน้ามากจนเกินไป ซึ่ง RP-160M สามารถทำหน้าที่ดังกล่าวได้โดยสมบูรณ์ ด้วยมุมกระจายเสียงที่กว้างขวางจาก LTS Tweeter และ Tractrix Horn  จึงส่งผลให้การแจกแจงรายละเอียดทิศทางเสียงโอบล้อมทำได้จะแจ้งชัดเจนดีด้วย และเสียงความถี่ต่ำจาก Copper Cerametallic Woofer ขนาด 6.5 นิ้ว ก็ให้ได้เกินตัว ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นจุดอ่อนเมื่อเทียบกับศักยภาพของลำโพงคู่หน้าและเซ็นเตอร์ในชุด

ในอนาคตหากต้องการบรรยากาศโอบล้อมด้านสูงที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นก็สามารถเพิ่มเติมลำโพง Dolby Atmos Enabled Speakers แบบ Add-on ของ Klipsch คือ RP-140SA โดยนำมาวางบนลำโพงเซอร์ราวด์คู่นี้ในแบบ 5.1.4 ได้ครับ (ในรูปด้านบนเป็นการทดลองใช้งานร่วมกับ Onkyo SKH-410)

Conclusion – สรุป

คงไม่เป็นการเกินเลย หากจะบอกว่านี่เป็นลำโพง Enabled Speakers รูปแบบลำโพงตั้งพื้นที่ดีที่สุด ณ เวลานี้! นอกจากคุณภาพเสียง “ระดับอ้างอิง” ตามชื่อแล้ว ขณะเดียวกันลักษณะลำโพงรูปแบบนี้ก็เอื้อต่อการติดตั้งใช้งานให้สัมผัสศํกยภาพระบบเสียงใหม่จาก Dolby Atmos และ DTS:X ที่เพิ่มเติมมิตเสียงด้านสูง ผสานพลังเสียงสไตล์อเมริกันของ Klipsch ที่ให้ทั้งความดุดัน เสียงเบสลงได้ลึกและกระชับ เติมเต็มอรรถรสการรับชมภาพยนตร์และรับฟังดนตรีออร์เคสตร้าวงใหญ่ได้เป็นอย่างดี

คะแนน

ดีไซน์ (Design)
8.75
เสียง (Sound)
9.25
ลูกเล่น (Features)
8.75
การเชื่อมต่อ (Connectivity)
8.50
ความคุ้มค่า (Value)
8.50
คะแนนตัดสิน (Total)
8.80

คะแนน Klipsch Reference Premiere Dolby Atmos

8.8

หมายเหตุประกอบการให้คะแนน

– การพัฒนาที่ก้าวกระโดดจาก Reference II อันมีที่มาจากพื้นฐานการออกแบบที่เอื้อกับคุณภาพเสียง พร้อมด้วยการออกแบบรูปลักษณ์ที่ดูลงตัวสวยงามมากยิ่งขึ้น โดดเด่นด้วย Spun-copper Ceramatalic woofer สีทองแดง และ Tractrix Horn อันเป็นเอกลักษณ์, ผิวตัวตู้วีเนียร์โพลิเมอร์ลวดลายปัดเสี้ยน ดูสวยงามและทนทานกว่าไวนีล

– เสียงดุดัน หนักแน่น กระแทกกระทั้น เบสลงได้ลึกสมใจอยาก Home Theater lover ขณะเดียวกันก็ให้ความฉับไว และรายละเอียดที่เด่นชัดเมื่อรับฟังดนตรี จุดเด่นของ Enabled Speakers แบบ Built-in ที่เหนือกว่ารูปแบบ Add-on ทั่วไป คือ น้ำหนักและสเกลเสียงที่เติมเติมบรรยากาศได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด

– การผนวกฝังลำโพง Enabled Speakers เข้ามา ช่วยให้เข้าถึงมิติใหม่ของระบบเสียงเซอร์ราวด์เพิ่มเติมบรรยากาศด้านสูงได้สะดวกเพราะติดตั้งง่าย, หน้ากากลำโพงยึดติดด้วยแม่เหล็กถอดใส่ง่ายดีและช่วยให้แผงหน้าดูสะอาดตา (ไม่ต้องมีรูยึดหน้ากาก)

– ขั้วลำโพงเป็นพลาสติกดูธรรมดาแต่ให้ความมั่นคงในการเสียบต่อ ลำโพงตั้งพื้นสามารถเลือกอุปกรณ์รองรับเลือกได้ระหว่างแผ่นยางกับสไปก์ให้เหมาะสมกับพื้นที่ตั้งวางเพื่อเสริมความมั่นคงได้, ลำโพงซับวูฟเฟอร์รับสัญญาณทาง Low-level เพียงอย่างเดียว แต่สามารถเพิ่มเติมการเชื่อมต่อสัญญาณแบบไร้สายได้ด้วย (เป็นอุปกรณ์เสริม)

– ชุดลำโพงที่ถึงพร้อมทั้งความสามารถรองรับระบบเสียงยุคใหม่อย่าง Dolby Atmos รวมถึง DTS:X ได้แบบง่ายๆ ไม่ยุ่งยากในการติดตั้ง และคุณภาพเสียงระดับอ้างอิงที่มีความโดดเด่นหาตัวจับยากหลายประการ สามารถเติมเต็มการรับชมภาพยนตร์ได้อย่างมีอรรถรส

by ชานม !
2016-07

ราคาตั้ง Klipsch Reference Premiere Dolby Atmos
RP-280FA = 119,900 บาท
RP-450CA = 49,900 บาท
RP-160M = 27,900 บาท
RP-140SA = 25,900 บาท
R-112SW = 29,900 บาท
*ราคาพิเศษโปรดสอบถามร้านค้าตัวแทนจำหน่าย

ขอขอบคุณ Sound Republic, Thailand ที่เอื้อเฟื้อชุดลำโพงในการทดสอบ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02-448-5489, 02-448-5465-6