19 Sep 2017
Review

รีวิว LG 65G7T 4K OLED TV ระดับ Signature หรูหราไฮไซโก้ที่สุด


  • lcdtvthailand

Signature Series หรือ “รุ่นลายเซ็น” คือหมวดสินค้ารุ่นท็อปสุดของ LG ซึ่งเริ่มใช้ชื่อนี้ตั้งแต่ปี 2016 ซึ่งก็คือ OLED TV รุ่น G6 มีดีไซน์ที่หรูหราไฮไซ พร้อมอาณาบริเวณพื้นที่ดิสเพลย์พิเศษที่ทำไว้โดยเฉพาะ แต่จะพบได้เฉพาะประเทศโลกที่ 1 เท่านั้นในช่วงปีที่ผ่านมา อย่างที่ผมไปเจอมากับตาก็ อาทิ ประเทศอังกฤษ ที่ห้างสุดหรูกลางกรุงลอนดอนอย่าง Harrods หรือหากเป็นประเทศเกาหลีใต้บ้านเกิด ก็จะมีโชว์ขายที่ห้างไฮโซอย่าง Shinsegae และ Lotte ที่เปรียบดั่งสยามพารากอนบ้านเรา เพราะระดับราคาของมันสูงจนต้องขึ้นห้างระดับ 5-6 ดาวเท่านั้น ประกอบกับพื้นที่ดิสเพลย์จะต้องถูกตกแต่งให้เปนธีม Signature เท่านั้น ส่วนในบ้านเรานั้นไม่มีขายสำหรับซีรีส์ G จะมีขายก็แต่รุ่นรองๆลงมาอย่างซีรส์ E, C, B เท่านั้น พอมาในปี 2017 ก็ต้องใช้คำว่า Dream Comes True หรือฝันที่เป็นจริง ประเทศไทยบ้านเราก็ไม่ถูกกั๊กรุ่นอีกต่อไป ได้ฤกษ์เปิดตัว OLED TV Signature Series รุ่น G7 เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดดเด่นที่ดีไซน์อันเฉียบคม พร้อมแท่งลำโพง Soundbar ที่สานต่อมาจากรุ่น G6 อันเป็นเอกลักษณ์ มาดูการทดสอบเจาะลึกกันดีกว่าว่าเจ้า G7 รุ่นนี้จะสมกับคำว่า “Signature Series” หรือรุ่นระดับ “ลายเซ็น” หรือไม่ ???

LG 65G7T “Signature Series” OLED TV
ราคาเปิดตัว 299,990 บาท
(อัพเดท 9/2017 ราคาเปิดตัวปรับเป็น 249,990 บาท)
LG OLED TV “Signature Series” เพิ่งเปิดตัวในไทยเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ความแตกต่างระหว่างซีรีส์ B7 C7 E7 G7 และ W7 
หมายเหตุว่า E7 และ W7 มีจำหน่ายในไทยเฉพาะขนาด 65″

LG 65G7T (65″) : Signature Series

– OLED TV
– 4K Ultra HD 
– HDR 10 & Dolby Vision
– Perfect Mastering Engine
– 60 Watts with Dolby Atmos 
– webOS 3.5
– Magic Remote
– HDMI x 4
– USB x 3
ราคาเปิดตัว 299,990 บาท (อัพเดทเดือน 9/2017 ปรับลงเป็น 249,990 บาท)

Design – การออกแบบ

ดีไซน์ของ LG OLED TV 65G7T ก็สวยหรูในแบบฉบับของทีวี OLED ตัวท็อป ความบางในจุดที่บางที่สุดคือ 2.57 มิลลิเมตรเท่านั้น ตัวแผง OLED Panel มีความบางมากจึงถูกยึดกับตัวกระจกอีกชั้นหนึ่งเพื่อให้มีความแข็งแรง ด้านหลังเล่นเป็นลวดลายคิวบิค 3 มิติ ฐานด้านล่างเป็นลำโพงซาวด์บาร์ทรงเหลี่ยม รองรับระบบเสียง Dolby Atmos จากพวกแอพส์ดูหนังในเครื่อง รีโมทคอนโทรลให้มา 2 แบบคือ 1) Magic Remote บังคับเป็นแอร์เมาส์ได้เลย 2) รีโมทขนาดจิ๋ว โดยรีโมททั้ง 2 มีการใช้โทนสี Brushed Gold ที่ดูแล้วหรูหรา คลาสซี่มีสไตล์

ดีไซน์หน้าตรงของ G7 เรียบหรูดูดี
หันด้านข้างให้เห็นถึงความบางและความลึกของฐานลำโพง Soundbar
มีโลโก้ LG Singature Series ผนึกเอาไว้เพื่อบ่งบอกว่า “ข้าคือรุ่นท็อป” !
ตัวแผง OLED Panel บางเฉียบสีดำ ซึ่งตามหลักจะมีความยืดหยุ่น
 จึงถูกผนึกติดกับแผ่นกระจกด้านหลังอีกชั้นเพื่อความแข็งแรง ป้องกันการเสียรูป
บางเฉียบเพียง 2.57 มม. เท่านั้น บางแค่ไหนถามใจเธอดู ???
แผ่นกระจกด้านหลังมีลวดลายคิวบิค 3 มิติ
ปุ่มกดแบบ Joystick เป็นทั้งปุ่ม Power เปิด-ปิดเครื่อง และปุ่มเข้าสู่เมนูต่างๆได้ในเวลาเดียวกัน
หรูยันรีโมท ! ทั้ง 2 แบบดีไซน์สีทองดูสวยทันสมัย
ผมขอแอบเหน็บค่ายญี่ปุ่นว่าชอบใช้ดีไซน์รีโมทแบบอนุรักษ์นิยม

Connectivity – ช่องต่อ

เนื่องจากเป็นรุ่นท็อป พวกช่องต่อนั้นจัดให้เต็มไม่มีกั๊กอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น HDMI ถึง 4 ช่อง, USB 3 ช่อง รวมถึงความสามารถในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบไร้สายและมีสายโดยใช้สาย LAN

– HDMI x 4
– USB x 3
– AV x 1 (ต้องใช้ Adapter)
– Component x 1 (ต้องใช้ Adapter)
– Antenna x 1 รองรับดิจิตอลทีวี
– Optical Out x 1
– LAN x 1
– Audio Out / Headphone 3.5 mm out x 1
– รองรับการเชื่อมต่อ Wireless LAN
– รองรับการเชื่อมต่อหูฟังและลำโพง Bluetooth

หมายเหตุ : การที่จะให้ช่องต่อ HDMI รองรับสัญญาณ 4K HDR แบบเต็มประสิทธิภาพ จะต้องเปิดฟังก์ชั่น HDMI Ultra HD Deep Color เสียก่อน

ช่องต่อ HDMI และ USB
พวกช่องต่อ AV / Component ต้องใช้ Adapter ที่แถมมาให้ในชุด