Sound – เสียง
ลำโพงของ LG G7 OLED TV เป็น Soundbar สี Rose Gold ดูหรูหรา ผมชอบสีนี้เป็นพิเศษเพราะชื่นชอบนาฬิกาข้อมือที่ใช้ Rose Gold เป็นส่วนประกอบ คือมันจะดูสวยแพงแบบทันสมัยไม่ได้ดูป๋าเหมือนพวกสีทองที่มักจะเหลืองจ๋า กำลังขับของ Soundbar ตัวนี้สูงถึง 60 Watts ไฮไลท์คือรองรับระบบเสียง Dolby Atmos ซะด้วย Dolby Atmos คือระบบเสียงรอบทิศงทางแบบใหม่ล่าสุดที่เพิ่มมิติเสียงรอบทิศทางด้านบน Top Surround ด้วยลำโพงบนเพดาน เพื่อสร้างสนามเสียงนั้นครอบคลุม 360 องศา แต่ของ LG G7 จะเป็นลักษณะของการจำลองเสียงแบบ Dolby Enabled Speaker คือยิงเสียงจากลำโพง Soundbar ขึ้นเพดานแล้วชิ่งลงมายังผู้รับชมแทน การรองรับระบบเสียง Dolby Atmos นั้นจะผ่านการสตรีมมิ่งบนแอพในตัวเครื่องเท่านั้น อย่างเช่นเรื่อง Okja ใน Netflix นี่เป็นระบบเสียง Dolby Atmos ให้แต่ต้นเลย ส่วนหากคอนเทนต์ที่ดูผ่าน HDMI จะสามารถจำลองเสียงจากแบบปกติให้มีความใกล้เคียง Dolby Atmos ได้ สามารถเข้าไปเลือกปรับใช้ฟีเจอร์จำลองเสียงนี้ได้ที่เมนูด้านใน
คุณภาพเสียงโดยรวมก็จัดว่ามีความหนักแน่นกว่าซีรีส์ E ที่เป็นลำโพง Soundbar เหมือนกัน แต่ให้พื้นที่ด้านหลังสำหรับการบรรจุลำโพงนั้นตื้นกว่าซีรีส์ G จึงเป็นข้อได้เปรียบของเจ้า G7 ที่จัดเต็มดอกลำโพงไว้ด้านใน ทดสอบจากเพลง I saw her standing there ในคอนเสิร์ตของป๋า Billy Joel ที่ได้ Paul McCartney แห่งวง The Beatles มาฟีเจอริ่ง ซึ่ง G7 ก็ถ่ายทอดเพลงออกมาได้ค่อนข้างสนุก เบสมีน้ำหนัก ฟังแล้วคึกคัก ส่วนการดูหนังก็ยกระดับจากลำโพงทั่วไปแบบขาดลอยเช่นกัน ฟังแล้วสนุก ไม่มีอาการเหือดแห้งโผล่ออกมาให้ได้ยิน ติเล็กน้อยเรื่องความใสก็อาจจะมิได้ใสปิ๊งดั่งตาตั๊กแตนนัก ส่วนเรื่องมิติเสียงของ Dolby Atmos นั้นก็อาศัยหลักการยิงเสียงขึ้นบนเพื่อชิ่งลงมาเพื่อสร้างสนามเสียงด้านบน ระดับความลอยทีได้จริงก็อยู่ประมาณหนึ่งคือจะอยู่ประมาณด้านบนสุดของจอ อาจจะไม่สูงเหนือหัวจริงแบบลำโพงฝังเพดาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับความสูงเพดานด้วยว่ายิ่งต่ำจะยิ่งเห็นผล หากเพดานสูงไม่เกิน 2.7 เมตรพร้อมระยะนั่งรับชมไม่เกิน 2.75 เมตรจะยังรู้สึกถึงมิติความลอยได้อยู่ เป็นกิมมิคลูกเล่นด้านเสียงที่พอเอามาใช้งานกล้อมแกล้มได้
Extra – เพิ่มเติม
webOS ยังคงเป็นระบบปฏิบัติการคู่บุญของ LG Smart TV มาถึง 4 เจนเนอเรชั่นด้วยกัน ตั้งแต่ 1.0 / 2.0 / 3.0 และมาในปี 2017 นี้ก็เดินทางมาถึงเวอร์ชั่น 3.5 ซึ่งลูกเล่นและความคล่องตัวก็อัพเกรดขึ้นมาตามลำดับเช่นกัน แต่จุดเด่นคือเรื่อง “การใช้งานที่แสนง่าย” ด้วย Magic Remote ตัวเก่ง ที่มีการใช้งานแบบ “แอร์เมาส์” พร้อม “ลูกศร” บอกตำแหน่งโชว์บนหน้าจอทีวี มีแอพพลิเคชั่นให้ดาวน์โหลดพอประมาณ ทีเด็ดสุดผมยกให้ Netflix แอพดูซีรีส์และหนังของต่างประเทศ ที่มีซีรีส์ความละเอียด 4K พร้อม HDR ติดมาให้ด้วย ซึ่งในตอนนี้ซีรีส์และหนังใน Netflix มีมาตรฐาน Dolby Vision ที่ LG G7 ตัวนี้รองรับให้ทดสอบรับชมกันอยูหลายเรื่อง ส่วนแอพส์ดูหนังและซีรีส์หลักๆก็ยังมีให้ครบ อาทิ YouTube, MonoMaxx, Google Movies, Amazon ในขณะที่แอพส์เกมส์ก็เล่นพอขำๆได้ บางเกมส์ก็ใช้ Magic Remote ควบคุมแบบแอร์เมาส์ได้ด้วย
webOS 3.5 มีลูกเล่นปลีกย่อยเพิ่มเติมขึ้นมาหลายจุดอยู่ ได้แก่
1) การรับชมคอนเทนต์ VR แบบ 360 องศา
2) การเล่นไฟล์เพลงจาก USB ในขณะที่เปิดช่องรายการต่างๆอยู่ ตลอดจนดูเนื้อร้อง (ไฟล์ต้องมีเนื้อร้อง)
3) การเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือด้วยแอพ LG TV Plus
4) ฟีเจอร์ซูมภาพแบบ Picture in Picture ในตำแหน่งที่ต้องการ พร้อมบันทึกวีดีโอที่ซูมลงใน USB
5) Magic Link ที่จะช่วยค้นหาและดึงวีดีโอคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับรายการดิจิตอลทีวีที่เรารับชมอยู่มาจัดแสดงให้เราเลือกรับชมเพิ่มเติม
ศึกษาลูกเล่น webOS 3.5 เพิ่มเติมได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้
>>> รวมคลิปวีดีโอ “เคล็ดลับการใช้งาน LG webOS 3.5” คลิ๊กไปที่หน้า 5 <<<