27 Jul 2023
Review

รีวิว Samsung 65S90C 4K HDR10+ QD-OLED ทางเลือกสำหรับคนอยากสัมผัสเทคโนโลยีใหม่ ในราคาเบา ๆ


  • ชานม

เพิ่มเติม

หน้า Home จาก Tizen OS ที่คุ้นเคย รวบรวมแอปฯ ที่ใช้งานประจำ ไปจนถึงคัดคอนเทนต์น่าสนใจมารวมไว้ให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
SmartThings ควบคุมอุปกรณ์อัจฉริยะทั้งหมดในบ้านผ่านหน้าจอทีวีได้เลย รองรับมาตรฐานสมาร์ทโฮมใหม่ Matter (ผ่านสัญญาณ Wi-Fi, Zigbee และ Thread) ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมต่างค่ายภายใต้ Matter ได้หลากหลาย ไม่ปิดกั้นเฉพาะเพียงแบรนด์ Samsung
Bixby รองรับคำสั่งเสียงภาษาไทยแล้ว ! โดยจะต้องตั้งค่า Bixby Settings เป็น “ภาษาไทย” ก่อน และกดปุ่มไมโครโฟนบนรีโมทค้าง เพื่อสั่งการด้วยเสียงได้ สามารถสั่งได้ทั้งเปิดแอปพลิเคชัน เพิ่ม/ลดเสียง หรือกระทั่งค้นหาช่องที่ชื่นชอบบนแอปฯ YouTube รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถศึกษาได้ในแอปฯ Bixby เลยครับ
ในที่สุดแอปฯ Disney+ Hotstar ก็พร้อมใช้งานแล้วสำหรับ Tizen OS ! อย่างไรก็ดี ช่วงเวลาทดสอบ แอปฯ จะยังไม่รองรับระบบเสียงรอบทิศทางครับ แต่น่าจะได้อัพเดทเพิ่มเติมภายหลัง
Apple TV รองรับการแสดงผล 4K HDR10+ การรับฟังระบบเสียง Dolby Atmos (DD+) แนะนำให้เชื่อมต่อ HDMI ARC ไปยังชุดเครื่องเสียงภายนอก
Netflix รองรับการแสดงผล 4K HDR10 การรับฟังระบบเสียง Dolby Atmos (DD+) แนะนำให้เชื่อมต่อ HDMI ARC ไปยังชุดเครื่องเสียงภายนอก
Amazon Prime Video อีกหนึ่งผู้ให้บริการวิดีโอสตรีมมิ่งคุณภาพ
หากที่กล่าวไปข้างต้นยังไม่จุใจ ยังมีแอปฯ ความบันเทิงอีกมากมาย ทั้ง HBO Go, AIS Play, YouTube, iQIYI, WeTV, Viu, TikTok ฯลฯ ให้เลือกดาวน์โหลดใช้งานได้อีกเยอะ

สรุป

S90C เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ สำหรับใครที่อยากสัมผัสเทคโนโลยีจอภาพรูปแบบใหม่อย่าง QD-OLED ซึ่งโดดเด่นในด้านคอนทราสต์ ความดำแบบไร้ซึ่งแสงลอด-แสงรั่ว ช่วยขับเน้นสีสันได้ลึกเข้ม จะมีความต่างที่จากรุ่นท็อป S95C ที่เห็นชัดเป็นรูปธรรมบ้าง คือ ขาดกล่อง One Connect และระดับความสว่างที่ต่ำกว่า แต่ไม่น่าใช่ประเด็นสำคัญ เพราะคุณสมบัติเด่นด้านภาพอื่น ๆ ไม่ได้ย่อหย่อนลงมากแต่อย่างใด เมื่อเทียบกับราคาถือว่าคุ้มค่า น่าลองครับ

ข้อดีของ Samsung 65S90C

  1. จอบางเฉียบสไตล์ OLED Panel ดูเรียบหรู
  2. QD-OLED ปราศจากแสงลอด-แสงรั่ว โดยสิ้นเชิง ความสว่างสูง คอนทราสต์โดดเด่น
  3. Filmmaker Mode/Movie ให้สมดุลสีเที่ยงตรงดีทั้ง SDR/HDR หลังปรับภาพยิ่งโดดเด่น, HDR Peak Brightness >900 nits
  4. HDMI 2.1 ทั้ง 4 ช่องรองรับ 4K 144Hz VRR (FreeSync Premium Pro), Input Lag ต่ำ
  5. แอป Disney+ Hotstar มาแล้ว, Bixby รองรับคำสั่งเสียงภาษาไทย

ข้อจำกัดของ Samsung 65S90C

  1. ไม่มี One Connect, ตำแหน่งช่องเสียบอยู่ค่อนข้างลึก
  2. 144Hz รองรับที่ความละเอียด 4K เท่านั้น (120Hz ได้ทั้ง 1080p, 1440p และ 4K)
  3. ช่วงที่ทำการทดสอบ แอปฯ Disney+ Hotstar ยังไม่รองรับระบบเสียงรอบทิศทาง คาดว่าน่าจะได้อัพเดทเร็ว ๆ นี้

ราคาเปิดตัว Samsung S90C 4K HDR10+ QD-OLED TV

  • 77″ 104,990 บาท (พร้อมจำหน่ายแล้ว)
  • 65″ 72,990 บาท (วางจำหน่ายประมาณเดือนกันยายน)
  • 55″ 59,990 บาท (วางจำหน่ายประมาณเดือนกันยายน)