04 Jul 2014
Review

ภาพลอยเร้าใจ !!! รีวิว LG 42LW6500 Cinema 3D LED TV ทรงเครื่องยิ่งกว่าเย็นตาโฟ


  • lcdtvthailand

ภาพ

สำหรับ 42LW6500 นั้นเป็น LED TV รุ่นใหม่ ใช้ Backlight เป็น Edge LED ที่สามารถทำ Local Dimming ได้ ซึ่ง LG เรียกว่า “LED Plus” ส่วนเทคโนโลยีหน้าจอ 3 มิติแบบ Passive ก็มีชื่อเรียกทางเทคนิคว่า “FPR” (Film Patterned Retarder) ทำงานร่วมกับ 3D Polarized Glasses โดย LG เรียกเทคโนโลยีทีวีสามมิติชนิดนี้ว่านี้ว่า “Cinema 3D” เพราะเทคโนโลยี 3D แบบ Polarized ก็ใช้ในโรงหนังอาทิเช่น IMAX เช่นกัน ที่สำคัญได้รับการรับรองจากสถาบัน INTEREK และ TUV ในเรื่องของ “Flicker Free” หรือ “ภาพไม่กระพริบ” เฉกเช่นแบบ 3D ประเภท Active ด้วย พร้อมเทคโนโลยี 3D Light Boost ที่จะช่วยเพิ่มความสว่างในขณะเล่นภาพ 3 มิติ ซึ่งปกติเวลาเราดูภาพ 3 มิติ แสงสว่างจะดร็อปลง มีเทคโลโลยีเปลี่ยนภาพ 2 มิติให้เป็นภาพ 3 มิติได้จากทุกแหล่งสัญญาณ มี TruMotion 240Hz/200Hz ช่วยเรื่องภาพเคลื่อนไหวให้สมูธขึ้น โดยรวมแล้วจัดได้ว่าเป็นทีวีที่มีฟังก์ชั่นด้านภาพใน “ระดับเทพ” เลยทีเดียวครับ

มาเริ่มการทดสอบเลยดีกว่า โดยการทดสอบภาพแบบ 2D จะอยู่หน้านี้ และ แบบ 3D จะอยู่หน้าถัดไป

โหมดภาพสำเร็จรูป :: Picture Mode
โหมดภาพสำเร็จรูปนั้นมีมาให้เลือกหลากหลายเช่นเคย เช่นโหมด Vivid / Standard / Cinema / Game / Expert ซึ่งให้ผมแนะนำนะครับ หากท่านเลือกที่จะดูหนังจากแผ่น Blu-ray หรือ HD Player ก็ขอแนะนำโหมด Expert 1 อย่างยิ่ง เนื่องจากโหมดนี้ถูก Pre-Calibrated มาโดย “ISF” สถาบันปรับภาพระดับโลก เพื่อให้ค่าแสงสีถูกต้องมากที่สุดครับ ซึ่งผมลองใช้แแผ่นปรับภาพร่วมเช็คภาพด้วย พวกสีสันและ Dynamic Range (Contrast/Brightness) ถูกตั้งค่าออกมาอยู่ในระดับค่อนข้างสมบูรณ์เลยทีเดียว โดยจะมีการปิดฟังก์ชั่นเสริมของภาพที่เกินความจำเป็นออกไปด้วย ให้ภาพคงความเป็น Original โดยไม่ถดถอยเรื่องคุณภาพของภาพครับ สัดส่วนภาพจะถูกตั้งไว้ที่ Just Scan แสดงผลออกมาเป็น “1:1 Pixel Matching” แบบสมบูรณ์ คือภาพมา 1920 x 1080 ก็แสดงออกเป็น 1920 x 1080 ครบทุกอณู รายละเอียดที่ได้ครบถ้วน ไม่มีถูก Crop ขอบด้านข้างให้หายไปแม้แต่น้อย 

โหมดภาพสำเร็จรูป มีมาให้เลือกเยอะเช่นเคย 
แนะนำโหมด Expert 1 และปรับอุณหภูมิสีให้เป็น Medium
หากท่านจะดูหนังจาก Blu-ray หรือ HD Player ก็แนะนำอย่างยิ่ง

ส่วนอุณหภูมิสีอันนี้แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล เพราะในโหมด Expert นี้จะ Set ไว้ที่ “Warm” สีโทนอุ่นแบบในโรงหนังครับ มันจะติดอมเหลืองเล็กน้อย (ซึ่งเป็นอุณภมิสีที่ถูกต้องตามมาตรฐาน) แต่ถ้าหากท่านคิดว่าสีมันดูตุ่นไปซักนิด ก็ให้ปรับอุณภูมิสีมาเป็น “Medium” ก็จะได้สีสันที่มีความสดสว่างขึ้นมา ซึ่งผมเชื่อว่าถูกใจใครหลายๆคนมากกว่า และไม่ว่าจะเป็นห้อง “มืด” หรือ “สว่าง” เราก็สามารถปรับระดับ Backlight ชดเชยกันได้ครับ

หากดูฟรีทีวี, จานดาวเทียม TrueVision จานแดง เหลือง ส้ม โหมดภาพที่แนะนำก็เป็นโหมด Standard ครับ ภาพสว่างสดใสกำลังดี รายละเอียดแสดงได้ดีครบถ้วนครับ  

สัดส่วนภาพ :: Aspect Ratio 
มีแบบ 16:9 / Just Scan / Original / 4:3 / 14:9 / Cinema Zoom สามารถเลือกโหมดภาพจากปุ่มลัดบนรีโมทคอนโทรลได้เช่นกันครับ

ทดสอบความดำของภาพ
ตามสูตรครับต้องใช้ Content พระจันทร์ในคืนมืดทดสอบครั้งนี้ โดย LG ใช้ Backlight เป็น Edge LED with Local Dimming (LED Plus) แต่ครั้งนี้เราสามารถปรับระดับของ Local Dimming แบบ “สูง-กลาง-ต่ำ” หรือจะ “ปิด” ไปเลยได้อีกด้วย แนะนำระดับ “ต่ำ” นะครับ คุมไฟได้กำลังดี ไม่กระโชกโฮกฮากและภาพก็ไม่มืดจนเกินไปจนรายละเอียดหายอีกด้วย ส่วนการแสดงสีดำและการคุมไฟ Backlight นั้น ทำได้ในระดับมาตรฐานทั่วไปของ Edge LED คือหากดูในห้องสว่าง สีดำก็ดูดำสนิท เราก็ไม่สังเกตุเห็น Backlight เล็ดลอดออกมาเท่าไหร่ แต่หากเป็นห้องมืดสนิทก็มีรั่วให้เห็นตามสูตรของ Edge LED บ้างครับ แต่โดยรวมแล้ว ด้วยความสามารถในการปรับระดับของ Local Dimming ได้นี่ถือว่าช่วยในการดูหนังจริงๆได้เยอะพอสมควรเลย !!!

สามารถปรับระดับ LED Local Dimming ได้นะครับ
แนะนำเปิดไปในระดับ “ต่ำ” จะช่วยคอนโทรล Backlight ได้ดีขึ้น
ภาพ 2D จากเรื่อง AVATAR เรื่องของรายละเอียดและสีสัน 
ดีขึ้นจาก LE5500 แบบทีมงานทุกคนสังเกตุได้
สามารถปรับระดับของ “TruMotion” ได้ 
สามารถเลือกเป็น User เพื่อปรับลด Judder และลด Blur ได้ 
Transformers ภาค Revenge of The Fallen  
ภาพจากหนัง MKV เรื่อง Kung Fu Panda ความคมและสีสันอิ่มเอมใช้ได้เลย

สรุปเรื่องภาพ 2 มิติ
จากการทดสอบจากหนังที่ดูประจำนั้น ผมได้เห็น “พัฒนาการ” ของคุณภาพของ LG 42LW6500 ที่ดีขึ้นกว่ารุ่นปี 2010 ที่ผ่านมาครับ ลูกเล่นในการปรับภาพระดับมือใหม่และระดับ Professional ก็มีให้เลือกเยอะมาก และด้วยความที่มันมีลูกเล่นในการปรับภาพเยอะมาก ลองเล่นไปเล่นมาก็เริ่มเลยเถิด ผมเองก็หาทางลัดที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง ด้วยการเลือกโหมดภาพสำเร็จรูป Expert 1 ทีเดียวอยู่เลยเพราะเป็นโหมดที่ได้รับปรับแต่งโดยสถาบัน ISF ซึ่งเป็นสถาบันระดับโลกที่มีส่วนในการกำหนดมาตรฐานคุณภาพของภาพจากจอ Display ไม่ว่าจะเป็น TV หรือ Projector (Industry Standard) การคุม Backlight ด้าน LED Local Dimming ก็มีการต่อยอดจากปีที่แล้วมาเช่นกัน แต่ปีที่แล้วไม่สามารถปรับระดับ สูง กลาง ต่ำ ได้ (เลือกได้แค่จะ “เปิดหรือปิด” Local Dimming) แต่ปีนี้ปรับได้แล้วครับ ซึ่งช่วยกลบจุดอ่อนของการคุมแสงของ Edge LED ได้ดีขึ้นจริงๆครับ สำหรับภาพ 2 มิติก็ถือว่าสร้างความประทับใจในระดับ “กำลังดี” ให้กับทีมงาน แต่ไฮไลท์มันอยู่ที่ภาพ 3 มิติในหน้าถัดไปต่างหาก !!!