เสียง
ระบบเสียงของ Samsung 55MU6300 ให้ลำโพงแบบสเตริโอ 10 + 10 Watts ลำโพงเป็นแบบยิงเสียงลงล่าง Down Firing Speaker มีโหมดเสียงสำเร็จรูปอาทิ Standard, Amplify โหมดเสียงของทีวีที่ให้คุณภาพดีที่สุดได้แก่ Standard ในขณะที่โหมด Amplify จะเน้นการบูสท์เสียงกลาง ซึ่งเป็นเสียงสนทนาให้โดดขึ้นมา และกดเสียง Background ให้ต่ำลง เหมาะกับพวกชอบดู-ฟังรายการข่าวแล้วอยากฟังเสียงของผู้พูดชัดๆ สามารถเชื่อมต่อ Soundbar และลำโพงไร้สายชนิดอื่นได้ด้วยสัญญาณ Bluetooth
ทดสอบด้วยคอนเสิร์ตเพลง Cant Fight This Feeling Anymore ของวง REO SPEEDWAGON ในโหมดเสียง Standard คุณภาพโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ปานกลางพอฟังได้ มิได้เด่นด้านไหนเป็นพิเศษ ระดับความดังสูงสุดอาจจะไม่สูงนัก เบสพอมี แต่อาจจะติดขุ่นไปบ้าง โดยรวมหากรับชมคอนเทนต์ทั่วไปเช่น ดิจิตอลทีวี, True Visions, หนัง HD ก็พอไปวัดไปวาได้ ไม่ได้มีอะไรให้ติหรือชมเป็นพิเศษ แต่หากอยากอัพเกรดระบบเสียงแบบเห็นผล ก็ต้องลำโพง Soundbar รุ่นใหม่ปี 2017 ของ Samsung จัดว่าคุณภาพเสียงดีเยี่ยม อย่างผมใช้รุ่น HW-M450 สามารถเชื่อมต่อทั้งแบบมีสายและไร้สายกับตัวทีวีแทบไร้รอยต่อ คุณภาพเสียงก็ดีเกินคาดไปมากสำหรับห้องนั่งเล่นขนาดทั่วไป
เพิ่มเติม
ระบบ Smart TV ของ Samsung ยังคงต่อยอด Tizen OS จากปีที่ผ่านมา จุดเด่นของ Tizen OS จะว่าหวือหวาก็ไม่ใช่ หรือ จะไม่หวือหวาก็ไม่เชิง หน้าหลัก Smart Hub เมื่อเรากดปุ่ม Home รูปบ้านเข้าไป จะปรากฏแถบเมนูขึ้นมา 1 ชั้น และหากเราเลื่อนไปยังแอพต่างๆมันจะแสดงพรีวิวคอนเทนต์ของแอพนั้นๆในชั้น 2 ขึ้นมาอีกด้วย อย่างเช่น Netflix มันก็จะแนะนำวีดีโอในชั้น 2 โซนพรีวิว มี One Remote รีโมทคอนโทรลขนาดจิ๋วซึ่งเป็นรีโมทศูนย์กลางจักรวาลใช้ควบคุมเครื่องเล่น Blu-ray Player, Soundbar และอื่นๆได้ภายในอันเดียว แถมยังมีลูกเล่น Voice Search ที่ทรงพลังกว่าที่เคย ไม่ใช่ค้นหาคลิปวีดีโอทั่วไป แต่สามารถใช้สั่งงานทีวีในรูปแบบอื่นได้ด้วยเช่น เปลี่ยนช่อง, ปรับค่าภาพ (เช่นพูดไปว่า “Sharpness 10”), เปลี่ยน Input (เช่นพูดว่า “Source”), เพิ่มลดระดับโวลุ่ม (เช่นพูดว่า “Volume 50”) และอื่นๆอีกมากมาย รวมถึงการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ Smart Phone กับตัวทีวีผ่านแอพ Smart View ก็ทำให้การควบคุมทีวีนั้นสะดวกขึ้น แต่ลูกเล่นเหล่านี้ผมอาจจะรู้สึกไม่ได้ว้าวหรือจับต้องได้มากนักเพราะตามหลักการแล้ว Smart TV ยี่ห้ออื่นๆก็จะทำได้คล้ายๆกันหมด
แล้วสิ่งที่จับต้องได้คืออะไรหละ ? แน่นอนว่าผู้เสพ Smart TV ในยุคนี้นั้นหัวใจหลักนั้นคือเรื่อง “วีดีโอคอนเทนต์” ซื้อทีวีมาก็ต้องเอามารับชมหนัง ละคร และซีรีส์ ให้เต็มตามิใช่รึ ? ซึ่ง Samsung Smart TV ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Tizen OS ทุกเครื่องจะมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่มีชื่อว่า TV Plus เป็นช่องรายการเกาหลีทั้งช่องละครซีรีส์, คอนเสิร์ต K-Pop,วาไรตี้, ข่าว และอื่นๆอีกมากมายกว่า 30 ช่องรับชมเฉกเช่นประเทศเกาหลีทั้งแบบ HD และ SD ยิ่งไปกว่านั้นในหลายๆช่องพวกละครซีรีส์นี่ก็มีซับไตเติ้ลภาษาไทยให้เสียด้วย ไม่ได้ให้มาเรามาฟังแต่ภาษาเกาหลีแบบมึนๆ เบอร์ช่องก็จะเริ่มตั้งแต่ 101 เป็นต้นไป ซึ่งช่องจะต่อจากพวกช่องรายการทีวีบ้านเราเลย เวลากดรีโมทก็กดไล่ช่องขึ้นไปเรื่อยๆเดี๋ยวจะเจอเอง ทั้งหมดนี้ “ฟรี” เขาไม่คิดเงินแม้แต่บาทเดียว จัดว่าสมนาคุณสุด Exclusive สำหรับผู้ใช้ทีวี Samsung จริงๆ เชื่อว่าช่องรายการอปป้าเกาหลีเหล่านี้จะถูกใจ “คุณแม่บ้าน” มิใช่น้อย เป็นข้ออ้างสำหรับคุณพ่อบ้านในการซื้อทีวีเครื่องใหม่ได้เลย อิอิ
* หากจะรับชมช่อง TV Plus เราต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
ส่วน “แอพส์ดูหนังและซีรีส์เกรดเอ” ทั้งไทยและเทศ อาทิ Netflix, YouTube, iflix, Monomaxx, DOONEE, Hollywood HDTV, Amazon Prime Video และ Google Movies ทาง Samsung เขารวบรวมเอาไว้ให้หมดแล้ว อยู่ที่เราเลือกสมัครสมาชิกเพื่อรับชมคอนเทนต์เหล่านี้ได้ตามอัธยาศัย