Picture – ภาพ

HDMI In ทั้ง 2 ช่องของ Q950A เป็นเวอร์ชัน 2.0 เมื่อเชื่อมต่อกับ 4K HDR Blu-ray Player อย่าง Oppo UDP-203/205 จะสามารถ Pass-through สัญญาณภาพ HDR ได้ครบทั้ง HDR10+ และ Dolby Vision* โดยรองรับที่ความละเอียดสูงสุด 4K 60Hz (ซึ่งเป็นความละเอียดสูงสุดของแผ่นบลูเรย์ภาพยนตร์ในปัจจุบัน)
*หมายเหตุ: อ้างอิงกับ Oppo 4K HDR Blu-ray Player ทั้งนี้ทีวีต้องรองรับระบบภาพดังกล่าวด้วย จึงจะแสดงผลได้

Sound – เสียง
รุ่นก่อนอย่าง Q90R ถึงแม้จะดูหนังได้หวือหวาสะใจ แต่เสียงติดกระด้างไปนิดหนึ่ง ฟังนาน ๆ แล้วล้า เมื่อ Q950T ออกมาก็ทำแนวเสียงผ่อนคลายลง แต่บางคนอาจฟังรู้สึกว่าขาดความเฟี้ยวฟ้าวไปบ้าง การมาถึงของ Q950A จึงเป็นการทลายขีดจำกัดของรุ่นเก่า เพราะนำจุดเด่นของรุ่นที่ผ่านมารวมไว้ด้วยกัน และยังเพิ่มจุดเด่นของรุ่นใหม่เข้ามาอีก

จะติดตั้งที่ผนังด้านข้างตำแหน่งพอดีกับระนาบโซฟา หรือเยื้องไปด้านหลังก็ได้ หรือจะติดตั้งบนผนังด้านหลังจุดนั่งฟังก็ลงตัว การโท-อิน เอียงหน้าลำโพงเข้าหาจุดนั่งฟังหรือไม่ ไม่ส่งผลมากนักสำหรับรุ่นนี้ การเติมเต็มเสียงโอบล้อมได้บรรยากาศที่กว้าง ไม่ฟ้องตำแหน่งลำโพงเซอร์ราวด์มากเกินไป แต่ควรวางลำโพงให้ห่างจากจุดนั่งฟัง (ยิ่งห่าง บรรยากาศเสียงยิ่งกว้าง) และความสูงจะต้องไม่ต่ำกว่าระดับหู สูงกว่าเล็กน้อยได้ การบาลานซ์ระดับเสียงแชนเนลต่าง ๆ ที่ลำโพงหลังให้ลงตัวสัมพันธ์กับเสียงจากแชนเนลด้านหน้าของซาวด์บาร์ ก็เป็นอีกจุดที่ควรคำนึงถึง

ในแง่ประโยชน์ที่ได้จากลำโพง Rear Side ที่เพิ่มเข้ามา สามารถเติมเต็มผลลัพธ์ได้ชัดเจนกว่า Front Side ที่ติดตั้งอยู่ข้างหน้าที่ด้านข้างของลำโพงซาวด์บาร์ (ซึ่งเพิ่มมาตั้งแต่รุ่น Q950T) แต่ทั้ง Front Side และ Rear Side สำหรับ Q950A จะทำงานร่วมกับโหมดจำลองเสียงเท่านั้น (ไม่ทำงานในโหมด Standard)

มองเผิน ๆ ลำโพงซาวด์บาร์ดูไม่แตกต่างจากรุ่นก่อน (Q950T) ทั้งรูปทรงภายนอกและจำนวนตัวขับเสียงที่ติดตั้งอยู่ภายใน แต่ทาง Samsung (ซึ่งน่าจะได้ Know-how จาก Harman Kardon ไปแล้ว) ก็ปรับจูนเสียงให้ลงตัวมากยิ่งขึ้น การถ่ายทอดรายละเอียดเสียงโดดเด่นกว่า Q950T เสียงจะออกไปทางเปิดเผยกว่า ทดลองกับเรื่อง Kate จาก Netflix ระบบเสียง Dolby Atmos/DD+ ให้ความสะใจดีมาก มาทั้งความหนักแน่นและเสียงโอบล้อมตื่นตาตื่นใจ แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงความนุ่มนวลไว้บ้าง เสียงไม่แข็งแบบ Q90R โดยเฉพาะเมื่อเร่งระดับเสียงค่อนข้างดัง

ลำโพงซับวูฟเฟอร์เหมือนจะจูนเสียงมาให้แรงปะทะดุดันขึ้นอีกเล็กน้อย ปริมาณเบสลึกไม่ต่างจากเดิมมากนัก Auto EQ อาจช่วยให้เสียงความถี่ต่ำลงตัวขึ้น (เบสบวมน้อยลงในบางสภาพแวดล้อม) วูฟเฟอร์ขนาด 8 นิ้ว ยังคงให้ความกระชับ และยังได้อานิสงส์ช่วยให้เสียงย่านกลางต่ำลงไปถึงเบสต้นมีความต่อเนื่องกลมกลืนเข้ากับซาวด์บาร์ได้ง่ายกว่าซับวูฟเฟอร์ขนาดใหญ่ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นกับตำแหน่งและการกำหนดระดับเสียงของลำโพงซับวูฟเฟอร์ของผู้ใช้งานด้วย หากยังไม่ลงตัว เสียงย่านต่ำที่อื้ออึงจะขาดโฟกัส เสียงอาจจะแปลกแยกจนฟ้องตำแหน่ง และกลบความเด่นของเสียงย่านอื่นได้ จึงควรให้ความสำคัญกับตำแหน่งตั้งวางภายในห้อง และกำหนดระดับเสียงของซับวูฟเฟอร์ให้พอเหมาะ

จะว่า Q950A เด่นเฉพาะการดูหนังคงไม่ใช่ ในด้านฟังเพลงถือว่ามีการไฟน์จูนเสียงได้ลงตัวน่าฟังขึ้นกว่ารุ่นก่อนด้วย ทดลองกับ Celine Dion: Live In Las Vegas: A New Day (Blu-ray: DD TrueHD, LPCM 24-bit/96kHz) ให้เสียงร้องใสเคลียร์น่าฟังดีมาก บาลานซ์กับความอิ่มของน้ำเสียงกำลังดีไม่ถึงกับจัดจ้านจนเกินไป ฟังได้นาน ฟังได้เพลิน เบสกระชับหนักแน่น

มีทริคเล็ก ๆ เผื่อใครจะลองทำดู คือ ให้หาอะไรมารองข้างใต้เพื่อยกลำโพงซาวด์บาร์ให้สูงขึ้นนิดนึง เมื่อส่วนที่แนบกับชั้นวางน้อยลง การส่งผ่านแรงสั่นค้าง (Resonance) จะน้อยตามไปด้วย บางย่านเสียงที่เคยติดคลุมเครือนิด ๆ จะปลดเปลื้องออกมาได้อิสระ โฟกัสเสียงร้องนิ่งมากขึ้น รายละเอียดเสียงต่าง ๆ ก็จะชัดเจนกว่า

Conclusion – สรุป
แม้จุดที่เพิ่มเข้ามา คือ แชนเนลลำโพง Rear Side ที่ด้านข้างลำโพงเซอร์ราวด์ แต่ Samsung ก็ยังทำการปรับจูนเสียงจนได้ผลลัพธ์โดยรวมลงตัวยิ่งขึ้น เป็นการนำจุดเด่นแนวเสียงด้านการดูหนังฟังเพลงของ 2 รุ่นก่อน มารวมเข้าไว้ด้วยกัน ในขณะที่ฟีเจอร์การถอดรหัสเสียง และ Pass-through ฟอร์แมต HDR จากภาพยนตร์ก็รองรับได้ครบเหมือนเดิม แต่เหนืออื่นใด คือ ระดับราคาเมื่อเทียบกับคุณสมบัติที่ได้ ถือว่าเป็นมิตรมากครับ

ข้อดีของ Samsung HW-Q950A
1. รูปลักษณ์อิงดีไซน์เดิม ผ้าหุ้มสีดำ ดูเรียบ ๆ แต่ก็กลมกลืนเข้ากับทีวีได้ง่าย จะวางบนชั้นก็ดีหรือแขวนผนังก็ลงตัว
2. ติดตั้งตัวขับเสียงรอบทิศทางจำนวนมาก มี Side และ Height speakers อย่างละ 4 แชนเนล หน้า-หลัง รวมทั้งหมดเป็น 11.1.4 แชนเนล ช่วยขยายสนามเสียงให้โอบล้อมครอบคลุมพื้นที่กว้างมากขึ้น ตำแหน่งติดตั้งลำโพงเซอร์ราวด์ยืดหยุ่นขึ้น
3. ถอดรหัสเสียงครบทั้ง Dolby Atmos/TrueHD, DTS:X/HD-MA
4. HDMI 2.0 In 2 ช่อง สามารถ Pass-through สัญญาณภาพจากภาพยนตร์ทั้ง HDR10+ และ Dolby Vision รวมถึง VRR เมื่อเชื่อมต่อกับเครื่องเกม, HDMI 2.0 Out รองรับ eARC
ข้อจำกัดของ Samsung HW-Q950A
1. จอหลักใช้บอกสถานะและตั้งค่า จัดวางในตำแหน่งที่มองเห็นได้ยาก
2. Auto EQ อาจช่วยจัดการเสียงความถี่ต่ำ แต่ยังไม่ครอบคลุมเรื่องของการกำหนดบาลานซ์ระดับเสียงของลำโพงแต่ละแชนเนลและซับวูฟเฟอร์ ให้กลมกลืนกัน (ผู้ใช้ยังต้องปรับเองในจุดนี้)
3. Android หากทำการแคสผ่านแอป Music Streaming โดยตรง จะรองรับแค่ Spotify เท่านั้น (ไม่รองรับ Chromecast)
คะแนน
Samsung HW-Q950A Soundbar
8.7
*คุณภาพเสียงอิงมาตรฐานซาวด์บาร์
ราคาเปิดตัว Samsung HW-Q950A
28,900 บาท
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติม และสั่งซื้อทางออนไลน์ได้ที่ https://bit.ly/3EO0thA บนเว็บไซต์มีโปรโมชั่นจากทางแบรนด์อยู่เรื่อยๆ เข้าไปติดตามกันได้ครับ