15 Jul 2019
Review

รีวิว Sony 65A8G 4K HDR OLED TV คุ้มค่ายิ่งกว่าเดิม ด้วยราคาเปิดตัวต่ำกว่า A8F


  • ชานม

ภาพ

ในรุ่น A8G Sony ยังคงเลือกใช้ 4K WRGB OLED Panel พร้อมชิพประมวลผล X1 Extreme เช่นเดียวกับ A8F ในแง่ผลลัพธ์ด้านการแสดงผล จึงมีแนวโน้มว่าไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ

โหมดภาพโรงงานเมื่อรับชม SDR Content โดยหลักๆ แล้ว เหมือนกับ A8F โดยโหมดภาพที่สามารถใช้อ้างอิงในแง่ความถูกต้องของสีสันใกล้เคียงมาตรฐานอุตสาหกรรมภาพยนตร์ (SDR) มีอยู่หลายโหมด ทั้ง Custom, Cinema Pro, Cinema Home ไปจนถึง Game และ Graphics (2 โหมดนี้ เหมาะใช้งานเมื่อเชื่อมต่อ Game Console หรือ PC) โดยอุณหภูมิสีวัดได้อยู่ที่ราว 7400K อันเป็นผลจากตัวเลือก Color Temperature = Expert1 ความเที่ยงตรงนับว่าอยู่ในเกณฑ์ดี

ทดสอบวัดค่าดูพบว่า Expert1 ให้ดุลสีติดโทนเย็นเล็กน้อย แต่ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี โดยค่าความผิดเพี้ยนของดุลสี (dE) อยู่ที่ 5.97 กรณีที่จะนำไปใช้เป็นจอภาพอ้างอิงกับงานที่จริงจังอย่าง Photo Post Processing หรือ Video Editing สามารถคาลิเบรท White Balance ได้ ผลลัพธ์เที่ยงตรงมากยิ่งขึ้น
A8G รองรับการปรับภาพละเอียดในส่วนของ White Balance ทั้ง 2p และ 10p แต่จะไม่รวมถึง CMS (Color Management System ที่ทำได้ในรุ่น A9F) แต่ถึงกระนั้นภายหลังปรับภาพพบว่า A8G ให้ดุลสีที่เที่ยงตรงดีมากครับ ค่าความผิดเพี้ยน (dE) ลดต่ำลงเหลือเพียง 0.9 เท่านั้น และถึงแม้ Sony จะไม่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ทำการไฟน์จูนในส่วนของ CMS ทว่าเมื่อทำการไฟน์จูนค่าภาพในจุดอื่นจนเที่ยงตรงดีแล้ว ผลลัพธ์จะดีขึ้นตามไปด้วยจนอาจไม่มีความแตกต่างจากทีวีรุ่นที่สามารถปรับ CMS แบบละเอียด
อีกหนึ่งความยอดเยี่ยมของชิพประมวลผล X1 Extreme คือ “ภาพเคลื่อนไหว” ที่ทำได้ไหลลื่นเป็นธรรมชาติดีมาก และกรณีที่ต้องการจำลองแทรกเฟรมเพิ่ม สามารถดำเนินการผ่านตัวเลือก Motionflow โดยระดับ True Cinema ดูเป็นธรรมชาติใกล้เคียงต้นฉบับ แต่หากต้องการความไหลลื่นเพิ่มมากขึ้น Standard ก็ให้ผลลัพธ์ที่ดีเช่นเดียวกัน (artifacts น้อยมากสำหรับปริมาณการแทรกเฟรมเพิ่มระดับนี้) หรือจะกำหนดระดับของโมชั่นแบบละเอียดเลยก็ได้ที่ตัวเลือก Custom โดยหัวข้อ Smoothness ใช้กำหนดปริมาณการแทรกเฟรมภาพเคลื่อนไหว
ศักยภาพด้านการแสดงผล HDR Content ของ A8G รองรับทั้ง HDR10, HLG และ Dolby Vision โดยโหมดภาพที่แนะนำสำหรับการรับชม HDR10 หากอิงเรื่องของความบิดเบือนผิดเพี้ยนของสีสันต่ำที่สุด ยังคงใช้การได้หลายโหมดเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Custom, Cinema Pro, Cinema Home, Game หรือ Graphic โดยในส่วนของระดับความสว่าง (HDR Peak Brightness; 10% Window) ทำได้ราว 540 – 550 nits แต่หากอ้างอิงกับโหมด Vivid ความสว่างจะอยู่ที่ ที่ 764 nits ในขณะที่ขอบเขตสีทำได้ที่ 96.4% DCI-P3 หรือเท่ากับ 69.7% Rec.2020 หาก Sony จะส่ง A8G ไปสอบเทียบ ก็ถือว่าผ่านมาตรฐาน “Ultra HD Premium” ครับ
การสังเกตว่าขณะนี้ 65A8G กำลังแสดงผล HDR อยู่หรือไม่ สามารถดูได้จากสัญลักษณ์ “HDR” ตรงมุมขวาบนในหน้าเมนู Picture และกรณีที่รับชม Dolby Vision Content โหมดภาพก็จะเปลี่ยนเป็น Dolby Vision ด้วย
ดุลสีเมื่อรับชม HDR Content ในโหมด Custom, Cinema Pro/Home, Game, Graphic ไปในแนวทางเดียวกันตามตัวเลือก Color Temp = Expert1 โดยติดโทนเย็นนิดนึง ทว่ามองด้วยตาไม่รู้สึกว่าอมฟ้า โดยรวมถือว่าดีใกล้เคียง D65 แต่หากเทียบกับรุ่น A9F จะทำได้เที่ยงตรงกว่าเล็กน้อยครับ ดุลสีเมื่อรับชม HDR Content ในโหมด Custom, Cinema Pro/Home, Game, Graphic ไปในแนวทางเดียวกันตามตัวเลือก Color Temp = Expert1 โดยติดโทนเย็นนิดนึง ทว่ามองด้วยตาไม่รู้สึกว่าอมฟ้า โดยรวมถือว่าดีใกล้เคียง D65 แต่หากเทียบกับรุ่น A9F จะทำได้เที่ยงตรงกว่าเล็กน้อยครับ
แต่แน่นอนว่าจุดนี้สามารถปรับภาพละเอียดในส่วนของ White Balance เพิ่มเติมได้ ดุลสีของ A8G ก็จะเที่ยงตรงขึ้นไม่ต่างจากรุ่น A9F เลยครับ
A8G เป็นทีวีอีกรุ่นของ Sony ที่ได้การรับรองมาตรฐาน IMAX Enhanced ยืนยันว่าหากนำมารับชม IMAX Enhanced Content จะถ่ายทอดคุณภาพของภาพและเสียงได้อย่างยอดเยี่ยม ทดสอบกับ A Beautiful Planet ในฟอร์แม็ต IMAX Enhanced 4K HDR Blu-ray Disc ภาพดูโดดเด่นเตะตามากทั้งรายละเอียด คอนทราสต์ และสีสัน สีดำที่ดำสนิทของเทคโนโลยี OLED ยิ่งขับแสงของดาวเคราะห์ออกจากพื้นหลังอันดำสนิท ทั้งหมดนี้เป็นอานิสงส์จากคุณภาพของอุปกรณ์ที่ดีมาตั้งแต่ต้นทาง (IMAX Original Film) กระบวนการทำมาสเตอริ่ง ไปจนถึงปลายทางของการแสดงผล (TV)
มาดูความสามารถเมื่อนำ A8G มาเล่นเกมดูบ้าง เมื่อเทียบกับมาตรฐานทีวีในปัจจุบัน ตัวเลข HDMI Input Lag ของ A8G ที่ทำได้ต่าที่สุด 47.3 ms (อิงโหมดภาพ Game/Graphics) อาจดูว่าสูงอยู่บ้าง แต่กับการใช้งานจริงนั้น ไม่พบว่าส่งผลกระทบลดทอนศักยภาพการเล่นเกมแอ็คชั่นที่ต้องอาศัยการตอบสนองฉับไว สิ่งที่ต้องชมเชยสำหรับโหมดภาพ Game/Graphics ของ Sony คือ ดุลสีที่เที่ยงตรงดูเป็นธรรมชาติ แสงเงาถูกต้อง สีสันไม่โอเวอร์ แต่จะตรงกับรสนิยมหรือเปล่า ก็สุดแท้แต่ความชอบส่วนบุคคลครับ มาดูความสามารถเมื่อนำ A8G มาเล่นเกมดูบ้าง เมื่อเทียบกับมาตรฐานทีวีในปัจจุบัน ตัวเลข HDMI Input Lag ของ A8G ที่ทำได้ต่าที่สุด 47.3 ms (อิงโหมดภาพ Game/Graphics) อาจดูว่าสูงอยู่บ้าง แต่กับการใช้งานจริงนั้น ไม่พบว่าส่งผลกระทบลดทอนศักยภาพการเล่นเกมแอ็คชั่นที่ต้องอาศัยการตอบสนองฉับไว สิ่งที่ต้องชมเชยสำหรับโหมดภาพ Game/Graphics ของ Sony คือ ดุลสีที่เที่ยงตรงดูเป็นธรรมชาติ แสงเงาถูกต้อง สีสันไม่โอเวอร์ แต่จะตรงกับรสนิยมหรือเปล่า ก็สุดแท้แต่ความชอบส่วนบุคคลครับ

หมายเหตุ: โหมดภาพ Game และ Graphics ของ A8G จะ Off ตัวเลือก Motionflow โดยอัตโนมัติ และจะไม่สามารถเปิดใช้งานได้ แต่คงไม่มีความจำเป็นต้องใช้ Motionflow จำลองแทรกเฟรมภาพเคลื่อนไหวเวลาเล่นเกม