เสียง
ทีวีจะมีเสียงดีได้จำเป็นต้องอาศัยส่วนผสมหลักๆ สองอย่าง อย่างแรกคือจุดวางลำโพงที่ดี อย่างที่สองคือการใช้ลำโพงที่มีคุณภาพ ทั้งสองส่วนผสมนี้ล้วนมีอยู่ใน Sony KD-65X9300C เริ่มแรกจุดวางลำโพงอยู่ด้านหน้าทิศทางเสียงที่ส่งมาจึงส่งตรงเข้าสู่หูผู้ฟังโดยตรง เสียงไม่กองอยู่ด้านหน้าเหมือนกับรุ่นท็อปบางรุ่นที่เอาลำโพงไว้ด้านหลังเครื่อง หรือขอบด้านล่างทีวี ส่วนลำโพงที่ใช้ก็เป็น Magnetic Fluid Speaker ระบบ 2.2แชนแนล ประกอบไปด้วย
Tweeter(18mm) x2
Woofer(Magnetic Fluid Speaker, 80mm) x2
Subwoofer(Magnetic Fluid Speaker, 90mm) x2
กำลังขับรวม 12.5W+12.5W+12.5W+12.5W+20W+20W
Magnetic Fluid Speaker สามารถแสดงเสียงพูดและแหลมได้อย่างชัดและมีมิติไม่ว่าจะเป็นการเปิดชมภาพยนตร์ หรือฟังคอนเสิร์ต อย่างในตอนทดสอบผมได้ทดลองฟังกับคอนเสิร์ตของ Robbie Williams Live In tallinn เพลง Bodies และ Monsoon โดยเลือกโหมดเสียงเป็น Standard ซึ่งเป็นโหมดนี้ให้เสียงเปิดกว้างกว่าโหมด Live Football, Cinema และ Music มีข้อแนะนำเพื่อให้เสียงที่ได้คุณภาพอีกขั้นด้วยการปิด Surround Mode และปิด Advance auto volume เนื่องจากฟีเจอร์นี้จะช่วยคุมระดับเสียงไม่ให้เสียงสูงเสียงต่ำแตกต่างกันเกินไป หลังจากปรับแต่งค่าต่างๆ แล้วทดลองฟังพบว่าความใส ความชัดเจนของเสียงดนตรีแต่ละชิ้นสามารถส่งตรงมายังหูผมได้อย่างชัดเจน เพียงแต่ความทุ้มลึกของซับยังทำได้ในระดับกลางๆ ซึ่งถ้าใครชอบเบสหนักๆ ซับวูฟเฟอร์เสียงแน่นๆ แนะนำว่าให้ไปหาไวร์เลส ซับวูฟเฟอร์มาใช้ร่วมกับทีวีครับ
สิ่งหนึ่งที่ถูกพัฒนาขึ้นมาบนทีวีของ Sony ในปีนี้คือเรื่อง Hi-Res Audio ทีวีมีความสามารถที่จะเล่นไฟล์ระดับ Hi-Res ได้ (ไฟล์ที่มีคุณภาพเกิน 16bit 44.1KHz) และเมื่อเราเล่นไฟล์ประเภทนี้ทีวีก็จะรู้ได้ทันที โดยจะมีการแสดงโลโก้ HR ที่ท้ายเพลงนั้นๆ นอกจากนี้ทีวียังช่วยยกระดับคุณภาพเสียงให้สูงขึ้นด้วยฟีเจอร์ Hi-Res Up-Scaling เมื่อเราเล่นไฟล์ Hi-Res อีกด้วย
เพิ่มเติม
ทีวีที่มีระบบปฏิบัติการ Android นั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะถ้าติดตามข่าวสารในแวดวงจะทราบว่ามันมีมาราวๆ 2ปีแล้ว ซึ่งช่วงยุคแรกต้องบอกว่ามันยังไม่ดีพอที่จะใช้งานได้ อินเตอร์เฟซต่างๆ แทบจะโคลนมาจากในสมาร์ทโฟน แม้ว่าผู้ใช้จะคุ้นเคยกับรูปร่างหน้าตาก็จริง แต่มันก็ไม่มีความแปลกใหม่ และฟีเจอร์บางอย่างก็ไม่เหมาะที่จะมาอยู่บนทีวี แต่เมื่อ Sony พัฒนาระบบปฏิบัติการ Android ของตัวเองขึ้นมาสิ่งแรกที่สัมผัสได้เลยคือมันมีความเป็นเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร ดูดี ใช้งานง่าย ทำงานรวดเร็ว ขอเพียงเราเปิดใจและให้เวลาเรียนรู้กับเมนูแบบใหม่สักหน่อย แค่นี้ก็ใช้งานได้คล่องแล้ว
Android ที่อยู่บน Sony KD-65X9300C เป็นเวอร์ชั่น 5.0.2 Lollipop มีหน่วยความจำภายในให้ติดตั้งแอพต่างๆ อยู่ 8GB ซึ่งเท่าที่สำรวจมาเวอร์ชั่นที่อยู่บน Sony TV ถือเป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดและสูงที่สุดในตลาด ในหน้าแรกของระบบปฏิบัติการจะเป็นที่ๆ รวบรวมทั้งอินพุต คอนเทนท์ที่น่าสนใจเช่นการเช่าดูวิดีโอออนไลน์, คลิปเด็ดจาก YouTube, สอนการใช้งาน Touch Pad Remote เป็นต้น ซึ่ง UI (User Interface) ของ Sony ออกแบบให้ใช้งานได้ง่ายมาก มีการแบ่งเมนูเป็นหมวดหมู่ต่างๆ และจัดเรียงลำดับความสำคัญของเมนูได้ดี
ระบบปฏิบัติการ Android นั้นขึ้นชื่อด้วยเรื่องของแอพพลิเคชั่นที่มีหลากหลาย แต่เราก็ต้องทำความเข้าใจด้วยว่าแอพฯ ส่วนใหญ่นั้นทำมาเพื่อติดตั้งลงบนสมาร์ทโฟนไม่ใช่ทีวี ดังนั้นแอพฯ ที่ใช้งานได้บนสมาร์ทโฟนก็ใช่ว่ามันจะใช้งานบนทีวีได้ด้วย ทว่าการที่เราจะต้องมานั่งดูว่าแอพฯ ไหนใช้ได้ใช้ไม่ได้มันก็ไม่ใช่เรื่องจริงไหมครับ? เพื่อแก้ปัญหานี้ Sony จึงคัดกรองแอพฯ ต่างๆ ที่สามารถใช้งานได้จริงบนทีวีมาแล้วให้ผู้ใช้ได้เลือกติดตั้งเอา ซึ่งจากเท่าที่ลองดูใน Play Store ก็ถือว่ามีเยอะมากอยู่ ยิ่งพวกแอพฯ ที่เราใช้กันเป็นประจำอย่าง YouTube, Browser, Media Player ก็มีให้โหลดใช้กัน ที่สำคัญในส่วนนี้เรายังสามารถใช้จอยแพดมาควบคุมได้ด้วย อย่างในรีวิวนี้ผมก็ได้ใช้จอยแพดในการควบคุมแอพฯ และเล่นเกม ซึ่งในการเล่นเกมผ่านจอยแพดบนจอทีวีใหญ่ๆ แบบนี้ถือว่าสร้างอรรถรสได้ดีกว่าเล่นบนสมาร์ทโฟน แม้เกมที่กินสเปคค่อนข้างสูง เช่น Overkill3 หรือ Nitro Nation ก็ยังเล่นได้ลื่นไหล ถึงแม้ช่วงแรกจะมีหน่วงตอนโหลดก่อนเข้าเกมบ้าง แต่เมื่อโหลดเสร็จแล้วก็ผ่านฉลุยเล่นกันเพลินเลยทีเดียว
อย่างไรก็ดีสิ่งที่น่าเสียดายก็คือแอพฯ ประเภทเกมยังมีให้เล่นฟรีน้อย ที่มีมาให้ดาวน์โหลดส่วนใหญ่จะต้องเสียเงินซื้อก่อนจึงจะเล่นได้ แต่ถ้าไม่นับพวกเกมแล้ว แอพฯ ที่ใช้งานทั่วไป ก็ถือว่ามีมาให้ครบ โดยภาพรวมการทำงานของบระบบปฏิบัติการทำได้ดี แต่ยังมีเรื่องของความเสถียรที่ยังต้องปรับปรุงอยู่ มีข้อควรจำเล็กน้อยครับว่าการกดปุ่ม Power Off บนรีโมทคอนโทรล จะไม่ใช่การปิดทีวีจริงๆ หากแต่เป็นการ Stand by การปิดทีวีที่แท้จริงจะต้องชักปลั๊กทีวีออกด้วย