สรุป
ข้อดีของ Sony KD-65X9300C
1.มีโหมดภาพ HDR และโหมดสี BT.2020 (ถึงแม้ประสิทธิภาพของทีวีจะยังไม่ถึง)
2.มีฟีเจอร์อัพเกรดเสียง รองรับไฟล์ Hi-Res
3.Local Dimming ดีมาก
4.มีฟีเจอร์ Mastered in 4K ไว้ใช้กับแผ่นบลูเรย์ประเภท Mastered in 4K จะช่วยให้ภาพมีความคมชัด และสะอาดขึ้น แต่ต้องปรับแต่งเองจึงจะได้ผลลัพธ์ดีที่สุด
5.สามารถใช้จอยแพดในการควบคุมส่วนของ Android และเล่นเกมได้
6.ลำโพง Magnetic Fluid Speaker ให้เสียงได้ชัด กระจ่าง
ข้อเสียของ Sony KD-65X9300C
1.มุมมองภาพด้านข้างไม่ค่อยดีเท่าไหร่ สีสันดร็อปไปบ้าง
2.การปิดทีวีจากปุ่ม Power Off ไม่ใช่การปิดจริงๆ แต่เป็นการ Stand By
3.แอพพลิเคชั่นแบบ Local ยังน้อย
สิ่งต่างๆ ที่อยู่บน KD-65X9300C จัดได้ว่าถูกคัดและบรรจงมาแล้วเป็นอย่างดี แม้ดีไซน์จะไม่แตกต่างจากรุ่นเดิมมากนักแต่ก็มีการปรับเปลี่ยนให้ดูสวยงามมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นขอบด้านข้าง หรือจุดวางลำโพงด้านหน้าที่เห็นลำโพงแบบเต็มๆ ไม่ตัดขอบ คุณภาพของภาพเรียกว่าดีมาตั้งแต่โรงงาน โหมดภาพอย่าง Cinema Pro หรือ Cinema Home ก็ให้อุณหภูมิสีที่อยู่ในเกณฑ์ดีแล้ว แถมยังมีโหมดภาพ HDR, ขอบเขตสี BT.2020 ที่เอาไว้ใช้รองรับคอนเทนท์ในอนาคต ด้านเสียงเองก็ไว้วางใจลำโพง Magnetic Fluid Speaker + Hi-Res Up-scaling ได้เลย ส่วนเรื่องระบบปฏิบัติการถือวา Sony ทำการบ้านมาอย่างดี ออกแบบยูสเซอร์อินเตอร์เฟซให้ใช้งานได้ง่าย แม้ในปัจจุบันแอพประเภท Local ยังมีน้อย แต่แอพสำคัญๆ ก็มีให้ครบ การเล่นเกมก็สามารถใช้จอยแพดในการควบคุมได้ ทำให้ได้อารมณ์กว่าการใช้รีโมท หรือสมาร์ทโฟนควบคุม
คะแนน
Sony KD-65X9300C (2015)
8.5
หมายเหตุ : มาตรฐานคะแนนปี 2015