ภาพ
สเปคด้านภาพ ViewSonic X10-4K เครื่องนี้ เป็น DLP โปรเจ็คเตอร์ที่ใช้แหล่งกำเนิดแสงแบบ LED สามารถ ใช้งานได้สูงสุด 30,000 ชั่วโมง ให้ ความสว่างสูงสุด 2400 LED Lumens ความละเอียดภาพแบบ 4K UHD 3840×2160 Pixel อัตราส่วนภาพแบบ 16:9 มี Contrast Ratio อยู่ที่ 3000000:1 แถมยังรองรับการแสดงผลแบบ HDR ได้อีกด้วย และเนื่องจากเป็น Short Throw Projector ฉายในระยะเพียง 1.77 เมตรก็สามารถให้ภาพได้ใหญ่ถึง 100 นิ้วแล้ว เรียกได้ว่าจัดเต็มสำหรับโปรเจ็คเตอร์แบบ Home Entertainment จริงๆ
***ข้อดีของโปรเจ็คเตอร์ที่ใช้แหล่งกำเนิดแสงแบบ LED คือสามารถเปิดเครื่องได้เร็วกว่า และอายุการใช้งานของแหล่งกำเนิดแสง (หลอดไฟ) ที่ยาวนานถึง 30,000 ชั่วโมง ซึ่งมากกว่าโปรเจ็คเตอร์ที่ใช้แหล่งกำเนิดแสงแบบหลอดไส้ทั่วไปที่ส่วนใหญ่มีอายุการใช้งานเพียงแค่ 3000-4000 ชั่วโมง เท่านั้น***
ถึงแม้ว่า ViewSonic X10-4K เครื่องนี้จะเป็น Smart Projecter แบบเน้นการใช้งานสะดวกสบาย แต่เรื่องคุณภาพของภาพก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ค่าที่วัดได้จาก โหมดสำเร็จรูป ของโรงงานถือว่าอยู่ในระดับ “ใช้ได้” โดยโหมดสำเร็จรูปที่ แนะนำ ให้ใช้คือโหมด User จะให้ภาพที่ถูกต้องที่สุด ภาพที่ได้ให้ สีสันออกแนวสดใส รุกเร้า อยู่บ้าง แต่ก็ยังคงมีความ เป็นธรรมชาติ อยู่ในระดับที่ดี สามารถใช้งานรับชมทั่วไปได้อย่างไม่มีปัญหาเลยครับ
ในส่วนของการ ปรับภาพแบบละเอียด ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยสามารถปรับในส่วนของ 1-Point white balance, Color management system (color space) และ Gamma ซึ่งการปรับค่าต่างๆ นี้จะส่งผลถึงภาพทั้งในแบบ SDR และ HDR เลยครับ
***เนื่องจากใช้ค่าปรับภาพทั้งแบบ SDR และ HDR รวมกัน จึงทำให้ภาพในส่วนของ HDR มีความเพี้ยนของภาพเล็กน้อยแต่ยังสามารถรับชมได้อยู่ แต่ในจุดนี้แนะนำให้รับชมในรูปแบบ SDR จะให้ผลลัพธ์ของภาพที่ดีกว่าครับ***
จากการวัดค่าขอบเขตสีทั้งก่อนปรับและหลังปรับในส่วนของมาตรฐาน Rec.709 นั้นทำได้ ทะลุ 100% ส่วนขอบเขตสีสำหรับมาตราฐานเครื่องฉายในโรงภาพยนตร์หรือ DCI-P3 ทำได้อยู่ที่ 83.2 % ถือว่าสูงพอสมควรสำหรับเครื่องฉายแบบ Home Entertainment ครับ
หลังจากปรับภาพกันไปแล้วที่นี้มาทดสอบการ รับชมจริง กันบ้างดีกว่าว่าภาพที่ได้จะเป็นอย่างไร โดยเรื่องแรกที่นำมาทดสอบเป็นเรื่อง A star is born ในฉากที่ Lady Gaga ร้องเพลงเล่นเปียโนอยู่ในคอนเสิร์ตช่วงกลางของเรื่อง สีผิว สีหน้าของ Lady Gaga นั้นมีความเป็นธรรมชาติ รายละเอียดในที่มืดของฉากหลังเวทีก็ทำได้ดีสำหรับโปรเจ็คเตอร์ในระดับราคานี้เลยครับ
เรื่อง La La Land ในฉากปาร์ตี้สระน้ำที่พระเอกและนางเอกเจอกันครั้งแรก สีสันของเสื้อผ้า สีของน้ำในสระ สีของต้นไม้ มีความสดเด้งพอสมควร ถูกใจใครหลายๆ คนอย่างแน่นอน
ดูหนังกันไปแล้วทีนี้มา ทดสอบการเล่นเกม กันบ้าง บอกได้เลยว่าการได้เล่นเกมบนจอภาพขนาดใหญ่นี่ได้อรรถรสเป็นอย่างมาก โดยได้ทดสอบการเล่นเกมขับรถ Gran turismo sport และ Street Fighter V ผ่านเครื่อง PS4 Pro และแม้เครื่องนี้จะมีโหมด Game มาให้แต่ไม่ได้ผลกับค่า Input Lag แต่อย่างใด ซึ่งจากการวัดค่าออกมาพบว่าในทุกๆ โหมดนั้นมีค่า Input Lag เท่าๆ กันเลย อยู่ที่ประมาณ 67-68 Ms ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ดีสามารถใช้เล่นเกมได้อย่างไหลลื่นไม่มีปัญหา
เนื่องด้วย X10-4K เครื่องนี้เป็นโปรเจ็คเตอร์แบบกึ่งพกพา เราจึงสามารถนำไปใช้ต่อกับคอมพิวเตอร์พรีเซ็นต์งานในที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย โดยสามารถเชื่อมต่อได้ผ่านทางสาย HDMI หรือ USB-C กับอุปกรณ์ที่รองรับได้เลย
ViewSonic X10-4K ได้ใส่ฟีเจอร์ Motion แทรกเฟรมภาพ เพื่อความลื่นไหลมาให้ด้วย โดยมีให้เลือกทั้งหมด 3 ระดับ คือ สูง กลาง ต่ำ ซึ่งจากการทดสอบใครที่ชอบภาพแบบลื่นๆ แนะนำให้เลือกเปิดในระดับต่ำ ก็เพียงพอแล้วครับ ภาพที่ได้จะลื่นกำลังดีโดยไม่มีวุ้นหรือกระตุกมาให้เราเห็นมากนัก
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่แม้ทุกวันนี้อาจถูกพูดถึงน้อยลงไปมากแล้ว แต่ก็ยังมีหลายคนที่ชื่นชอบการใช้งานฟีเจอร์นี้อยู่ นั่นก็คือฟีเจอร์การแสดงผลภาพแบบ 3D นั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่า X10-4K เครื่องนี้ก็รองรับการแสดงผล 3D แต่ทาง ViewSonic ไม่ได้ส่งแว่น 3 มิติมาให้ ผมจึงลองนำแว่น 3D DLP ที่ผมมีอยู่แล้วมาทดสอบ ภาพทีได้ถือว่าดีเลยทีเดียว มีลอยมีลึก มีความชัดตื้นของภาพ เรียกว่าผ่านฉลุยเลยครับ
เสียง
เรื่อง เสียง ของ X10-4K เครื่องนี้บอกได้เลยว่าไม่ธรรมดา มาพร้อมลำโพงขนาด 8Wx2 ที่ตัวลำโพงและโหมดเสียงต่างๆ ได้รับการออกแบบโดยผู้ผลิตเครื่องเสียงชื่อดังอย่าง Harman/Kardon เนื้อเสียงโดยรวมมีความ ใสชัดเจน เสียงเบสอยู่ในระดับที่ฟังสนุก สามารถให้อรรถรสในการดูหนัง ฟังเพลง ได้ดีเทียบเท่าลำโพง Bluetooth ดีๆ ตัวหนึ่งได้เลย
มี โหมดเสียง ให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ คือ ภาพยนตร์ และ ผู้ใช้ ซึ่งในส่วนของผู้ใช้นั้นเราจะสามารถ ปรับ EQ ได้ตามใจชอบ จากที่ผมได้ทดลองทำการปรับดูบอกได้เลยว่าประทับใจพอสมควร เพราะจากที่เคยทดสอบมาไม่ว่าจะเป็น โปรเจ็คเตอร์ หรือ ทีวี รุ่นต่างๆ เวลาเราปรับ EQ ต่างๆ มักจะไม่ค่อยเห็นผลอย่างชัดเจนสักเท่าไหร่ แต่กับ X10-4K เครื่องนี้ เสียงเปลี่ยนไปตามที่เราต้องการจริงๆ อย่างสัมผัสได้ครับ
สรุป
ข้อดี
1.มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Smart ในตัวเรียกได้ว่าเป็น Best of Smart 4K Projector ในตอนนี้เลยก็ว่าได้
2.มีแอปพลิเคชั่นยอดฮิตอย่าง YouTube และ Netflix ให้สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานรับชมผ่านตัวเครื่องได้เลย
3.มีฟีเจอร์ Auto Focus และ Auto Keystone ช่วยให้การติดตั้งสะดวกสบาย
4.ลำโพงและระบบเสียงจาก Harman/Kardon ที่ให้คุณภาพเสียงที่ดีแถมยังสามารถใช้เป็นลำโพง Bluetooth ไร้สายได้อีกด้วย
ข้อเสีย
1.ขาตั้งเป็นแบบพับทำ ไม่สามารถปรับความสูงแบบละเอียดได้ แต่สามารถใช้งานได้ง่ายในการติดตั้งแบบทั่วไป
2.ไม่มี Optical Zoom หรือ Digital Zoom มาให้
3.แอป Netflix เป็นรูปแบบเดียวกับมือถือเวอร์ชั่นเก่ารองรับความละเอียดภาพสูงสุดแค่ 720p เท่านั้น แต่หากรับชมในระยะที่เหมาะสมภาพที่ได้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี
สรุป ViewSonic X10-4K เครื่องนี้เป็น Smart Projector ความละเอียดภาพแบบ 4K รองรับ HDR ใช้แหล่งกำเนิดแสงแบบ LED สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 30,000 ชั่วโมง มีฟีเจอร์ Auto Focus กับ Auto Keyston ที่ช่วยให้ติดตั้งเครื่องได้อย่างง่ายดาย รองรับการเชื่อมต่อ Internet ไร้สายแบบ Wi-Fi จาก Dongle ที่แถมมาให้ในกล่อง ใช้ระบบปฏิบัติการ Android ที่มีการปรับแต่งมาให้ใช้งานบนโปรเจ็คเตอร์เครื่องนี้ได้อย่างราบรื่น มีแอปพลิเคชั่นดูหนังดูวีดีโอยอดฮิตอย่าง YouTube กับ Netflix มาให้ในตัว มาพร้อมลำโพงและระบบเสียงจาก Harman/Kardon ที่ให้เสียงที่ดี แถมยังสามารถใช้งานเป็นลำโพง Bluetooth ไร้สายได้อีกด้วย