มาถึงตอนนี้ก็เป็นที่แน่นอนแล้วว่าตลาดของบริการสตรีมมิ่งนั้นได้ร้อนระอุที่สุดเท่าที่เคยมีมาก็ว่าได้เพราะทั้งเจ้าตลาดเดิมอย่าง Netflix ที่กำลังจะมีคู่แข่งคนสำคัญจากยักษ์ใหญ่หลายเจ้าเข้ามาท้าชิงตำแหน่งเจ้าแห่งบริการสตรีมมิ่ง ไม่ว่าจะเป็น Disney+ จาก Disney, Apple TV+ จาก Apple และ Amazon Prime Video จาก Amazon ซึ่งในบทความนี้เราจะมาดูกันว่าแต่ละบริการนั้นมีจุดเด่น-จุดอ่อนอะไรกันบ้าง เดี๋ยวเรามาดูกันได้เลย

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาแบรนด์จีนเริ่มบุกตลาดทีวีหนักขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งการแข่งขันเมื่อมีจำนวนผู้ผลิตหลายเจ้าจะส่งผลดีต่อผู้บริโภค ที่เห็นได้ชัดนอกจากมีตัวเลือกรุ่นทีวีหลากหลายมากขึ้นแล้ว ระดับราคาก็ทยอยปรับตัวลงด้วย ปัจจุบันกำเงินไป 4 หมื่นบาท ก็ซื้อ 4K HDR OLED TV 55 นิ้ว ได้แล้ว…

ในบรรดา OLED TV ของ LG ประจำปี 2019 รุ่น B9 ถือเป็นรุ่นเล็ก ในแง่ความคุ้มค่า รุ่นนี้จึงเป็นที่จับตามองมากที่สุด แต่ประเด็นเรื่องของคุณภาพของภาพและเสียงจะทำได้ดีเพียงใด จะเป็นรองรุ่นท็อปๆ มากน้อยแค่ไหน มาพิสูจน์กันครับ…

แม้ว่าทุกวันนี้เราจะก้าวเข้าสู่ยุคของมีเดียวสตรีมมิ่งอย่างเต็มตัวแล้วก็ตามไม่ว่าจะด้วยบริการสตรีมมิ่งคอนเทนท์จาก Netflix, Hulu, Amazon Prime แต่เราเชื่อว่ายังมีคนจำนวนไม่น้อยที่ตอนนี้ก็พวกเขายังคงซื้อภาพยนตร์หรือซีรีส์ต่างๆ ในรูปแบบแผ่นกันอยู่ และเราจึงมาบอกเหตุผลดีๆ ว่าทำไมเราถึงยังต้องซื้อแผ่น Blu-ray หรืออื่นๆ กันอยู่ในตอนนี้

อีกหนึ่งคอนเทนท์นอกจากภาพยนตร์และซีรีส์ฉบับคนแสดงแล้ว ก็ยังมีอนิเมะที่เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่แฟนๆ Netflix นั้นชื่นชอบ และในปี 2019 นี้ Netflix ก็ได้จัดหนักจัดเต็มให้กับแฟนๆ อนิเมะด้วยการจับอนิเมะชุดใหญ่หลายๆ เรื่องให้แฟนๆ ได้ดูกัน

แน่นอนว่าเบอร์ 1 ในวงการสตรีมมิ่งในตอนนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Netflix บริการสตรีมมิ่งยักษ์ใหญ่จากสหรัฐที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากแฟนๆ ซึ่งแน่นอนว่าทุกสิ่งทุกอย่างยอมมีจุดอ่อนและแน่นอนว่า Netflix เองก็มีจุดอ่อนเหมือนกัน มาดู 3 ปัญหาหลักๆ ที่ Netflix มีแต่คู่แข่งเจ้าอื่นๆ นั้นไม่มีจะมีอะไรบ้างมาดูกัน

อีกหนึ่งสิ่งที่น่าจับตามองมากๆ ในตอนนี้ของวงการสตรีมมิ่งนั่นก็คือการเข้ามาร่วมวงของ Disney ในการแย่งส่วนแบ่งลูกค้าจาก Netflix ยักษ์ใหญ่ที่ครองความเป็นเจ้าแห่งสตรีมมิ่งกันมาสักพักใหญ่

สำหรับซีรีส์แฟนตาซีชื่อดังจากช่อง HBO อย่าง Game of Thronesนี้ก็ได้เดินทางมาถึงตอนสุดท้ายของซีซันสุดท้ายนี้และจบกันไปแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าซีรีส์อลังการแบบนี้ก็ไม่ได้มีมาให้ดูกันบ่อยๆ

ก็ต้องเรียกได้ว่าเขย่าวงการสตรีมมิ่งให้สั่นสะเทือนได้ไม่น้อยสำหรับ Disney+ บริการสตรีมมิ่งจากค่ายภาพยนตร์และความบันเทิงยักษ์ใหญ่อย่าง Dsiney ซึ่งการเข้ามาของยักษ์ใหญ่เจ้านี้ก็ทำให้แฟนๆ ที่เป็นสมาชิกของ Netflix หลายๆ คนเริ่มจะมีอาการลังเลใจอยากจะลองเปลี่ยนย้ายค่ายไปใช้ Disney+ แทน Netflix กันซะแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ได้รวบรวม 5 เหตุผลที่ว่าเราถึงไม่จำเป็นต้องยกเลิก Netflix และไปใช้ Disney+ แทน 5 เหตุผลนั้นจะมีอะไรบ้างไปดูกันได้เลย!!!

หลังจากที่ผู้ผลิตลำโพงชื่อดังอย่าง Klipsch ได้เปิดตัวหูฟังแบบ True Wireless แบบพรีเมี่ยมรุ่นแรกของแบรนด์ไปอย่าง Klipsch T5 กันไปเมื่อปีที่แล้วพร้อมด้วยเสียงตอบรับที่ดีจากผู้ที่รักในเสียงเพลงทั่วโลก

หลังจากเปิดตัว OLED TV เครื่องแรกของโลก (XEL-1 ขนาดจอภาพ 11 นิ้ว) เมื่อปี 2008 ก็หายหน้าไปจากตลาด OLED TV อยู่พักใหญ่ๆ ทว่าในปี 2017 Sony กลับมาทวงคืนบัลลังก์ได้อย่างเต็มภาคภูมิด้วยรุ่นเรือธง A1 และพยายามตอกย้ำความสำเร็จอีกครั้งด้วย “A8F” รุ่นใหม่ล่าสุดประจำปี 2018 นี้