31 Dec 2013
Review

The avant-garde of AVENTAGE !!! รีวิว Yamaha RX-A820 4K Ready Network AV Receiver


  • ชานม

Connectivity – ช่องต่อ

ใต้บานพับยังคงเป็นตำแหน่งจัดวางปุ่ม และช่องต่อสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นปุ่ม Tone Control ปุ่ม Program Mode (Listening Mode) และ Straight Mode

พร้อมช่องต่อ Front HDMI In, Video AUX, USB Input, YPAO Mic In และ Headphone Out เหนือบานพับขึ้นไปจะเห็นปุ่ม Scene Mode และปุ่มอื่นๆ วางเรียงรายอยู่ใต้จอแสดงผล (ปุ่มเหล่านี้ ส่วนใหญ่ ใช้งานกับภาคจูนเนอร์ และ Multi-zone Control)

ด้านหลัง แม้จำนวนช่องต่อจะน้อยกว่า AVENTAGE รุ่นเลข 4 ตัว แต่ชนิดความครบครันนั้นไม่ต่างกัน ช่องต่อที่สำคัญที่สุดอย่าง HDMI มีมากถึง 8 ช่อง (รวม Front) สำคัญรองลงมาอย่าง Video Component/Composite และ Digital Audio Coaxial/Optical ก็ไม่ขาด

เช่นเดียวกับ Ethernet Input (LAN) สำหรับใช้งานร่วมกับฟังก์ชั่น Network & Online Content ส่วนสายไฟเป็นมาตรฐาน IEC เช่นเดียวกับรุ่นบิ๊กๆ ถอดเปลี่ยนสายได้ ตำแหน่งการจัดวางไม่ทำให้หัวปลั๊กโตๆ ไปเบียดกับขั้วลำโพงแบบรุ่น 1010 ส่วน Dock Port ที่เคยมีในซีรี่ส์ก่อนๆ ตอนนี้ไม่มีแล้วนะครับ หากจะอัพเกรดอุปกรณ์เสริมทาง Dock Port เพื่อใช้งานฟังก์ชั่นพิเศษ เช่น Bluetooth ก็จะทำไม่ได้ แต่คงไม่จำเป็นกระมัง

หมายเหตุ: ช่องต่อ USB ที่เห็นทางด้านหลัง ใช้เพื่อเป็นแหล่งจ่ายไฟ (DC 5V) สำหรับอุปกรณ์เสริมบางอย่าง หากจะใช้งานเพื่อรับฟังดิจิทัลออดิโอจาก USB Storage Devices รวมถึง iPod/iPhone/iPad, Android Devices ให้ใช้ USB ช่องด้านหน้าเท่านั้น

อีกจุดที่แสดงถึงความครบครันด้านช่องต่อ คือ 7.2 Pre Out (รองรับการเชื่อมต่อซับวูฟเฟอร์ 2 ตัว) จะขาดก็แต่ Analog Multi-channel Input ซึ่งปัจจุบันโอกาสใช้มีน้อย หรือไม่ได้ใช้กันแล้ว

Features – ลูกเล่น

ถัดจากช่องต่อ มาดูกันว่า A820 มีลูกเล่นอะไรที่น่าสนใจบ้างครับ

เมื่อกดปุ่ม On Screen ที่รีโมตคอนโทรล จะเป็นการเรียก Video Overlay GUI Menu ซึ่งแสดงด้วยภาพสัญลักษณ์สีสันสวยงามซ้อนบนวิดีโอที่กำลังรับชม จึงไม่ทำให้รู้สึกติดขัดขณะรับชม อินเทอร์เฟสเรียบๆ ไม่ซับซ้อน ดูเข้าใจง่าย ถือเป็นส่วนสำคัญเพื่อใช้ปรับแต่งตั้งค่า รวมถึงการตรวจสอบข้อมูลการใช้งานต่างๆ

ประโยชน์ของการแสดงข้อมูลจากหัวข้อ Information คือ การตรวจสอบ Audio/Video Signal

แถวบน: ชื่ออินพุต; Enhancer Mode จะปรากฏขึ้นหากเปิดใช้ฟีเจอร์ปรับปรุงชดเชยคุณภาพเสียงนี้ (เหมาะกับคอนเทนต์ออดิโอความละเอียดต่ำ); และ ระดับมาสเตอร์วอลลุ่ม

แถวล่าง: แสดงฟอร์แม็ตเสียงต้นฉบับของคอนเทนต์; CINEMA DSP จะปรากฏขึ้นหากเลือก Listening Mode ที่เกี่ยวเนื่องกับระบบ CINEMA DSP; และ Listening Mode (Sound Program) ที่กำลังรับฟังอยู่ในขณะนั้น

เช่นกันว่า สามารถตรวจสอบ Video (In) Signal และคุณสมบัติของจอภาพ (HDMI Monitor) ที่กำลังเชื่อมต่อกับ RX-A820 อยู่ ทั้ง HDMI Out 1 และ HDMI Out 2 ว่ารองรับสัญญาณ Video Resolution ระดับใดบ้าง

ข้อมูลในส่วนของ Video Signal จะเกี่ยวเนื่องไปถึงความสามารถถัดมาของ A820 คือ 4K Video Pass-through อธิบายง่ายๆ คือ AVR เครื่องนี้รองรับสัญญาณ 4K หากอนาคตมีเพลเยอร์ที่เล่นฟอร์แม็ต 4K แท้ๆ ได้ ก็สามารถนำมาใช้งาน ต่อสัญญาณผ่าน AVENTAGE เครื่องนี้ได้เลย (เปิดดู 4K จอไม่ดำ)

นอกจากนี้ A820 ยังมีวิดีโอสเกลเลอร์ เพื่อทำการอัพสเกลสัญญาณภาพจากวิดีโอคอนเทนต์ที่มิใช่มาตรฐาน HD ให้มีความละเอียดสูงถึงระดับ “4K” อันจะช่วยยกระดับปรับปรุงคุณภาพการรับชมให้ดีขึ้นระดับหนึ่ง… ที่กล่าวมานี้เป็นคุณสมบัติพื้นฐานของ Yamaha AVENTAGE ปี 2012 ทั้งสิ้น (ในรูป ตัวเลือก Video: Resolution “4K” ไม่สามารถเลือกได้ เนื่องจากจอภาพที่ใช้ทดสอบ ยังไม่รองรับสัญญาณ 4K)

หมายเหตุ: ผลของการใช้งาน วิดีโอสเกลเลอร์ (1080p Upscale) ของ A820 จะกล่าวถึงอีกครั้งช่วงรายงาน คุณภาพภาพ 

ภาคขยายหลักที่มีมาให้ทั้ง 7 แชนเนล บวก 2 แชนเนลเสริม จาก Presence Channels นั้น สามารถกำหนดปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้ เช่น หากมิได้ใช้งานลำโพง Surround Back สามารถนำไป Bi-amp คู่หน้า หรือนำไปใช้งานในแบบมัลติโซนก็ได้ เป็นการเพิ่มอรรถประโยชน์จากความยืดหยุ่นได้เป็นอย่างดี

หมายเหตุ: ในกรณีที่นำไปติดตั้งใช้งานแบบ Multi-Zone ทาง Yamaha ให้ฟีเจอร์สำหรับขยายขอบเขตเติมเต็มความบันเทิงภายในบ้านได้ ด้วย “Party Mode” โดยเป็นการกระจายเสียงไปยังลำโพงทุกแชนเนลที่เชื่อมต่อ คล้ายๆ การกระจายเสียงในโรงแรม – สถานบันเทิง (รูปแบบ Listening Mode คล้าย 5/7 Ch Stereo แต่จะไม่มีการ apply CINEMA DSP)

อีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่ยังคงใช้ประโยชน์ได้ดีเช่นเดียวกับรุ่นปีที่แล้ว คือ Standby Through (ฟังก์ชั่นเดียวกับ HDMI Through ของบางยี่ห้อ) กล่าวคือ AVR สามารถปล่อยผ่านสัญญาณวิดีโอจากแหล่งโปรแกรม HDMI ไปยังทีวีได้ แม้จะอยู่ในสถานะ Standby จึงไม่มีความจำเป็นต้อง Power On AVR ตลอดเวลา เช่น เวลาจะชมเคเบิลทีวี รายการข่าว ละคร แบบลำลอง ไม่เน้นคุณภาพเสียงรอบทิศทางจากชุดโฮมเธียเตอร์ ก็สามารถฟังเสียงผ่านลำโพงของทีวีได้ทันที ผลที่ได้ คือ ความสะดวก ไม่ต้องถอดสลับสาย HDMI อีกทั้งอัตราการใช้พลังงานของ AVR จะลดลงไปมากเทียบกับต้อง Power On AVR ทิ้งไว้ และทีเด็ดอีกประการของฟีเจอร์นี้ (เฉพาะ Yamaha) คือ ถึงแม้ AVR อยู่ในสถานะ Standby ก็ยังคงกดเลือก เปลี่ยนอินพุต HDMI จากรีโมตคอนโทรลได้ด้วยความสามารถของฟีเจอร์ Standby Through

หมายเหตุ: ถึงแม้การเปิดใช้ฟังก์ชั่น Standby Through นี้ จะทำให้อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าของ AVR เมื่ออยู่ในสถานะ Standby เพิ่มขึ้นจาก 0.1 วัตต์ เป็น 3 วัตต์ แต่ก็น่าจะดีกว่าต้อง Power On AVR ไว้ตลอด

ฟีเจอร์ที่น่าจะคุ้นเคยกันแล้ว อย่าง HDMI Audio Returm Channel (ARC) หรือ เทคนิคการส่งสัญญาณเสียงจากโทรทัศน์มายัง AVR ผ่านสาย HDMI เพื่อรับฟังเสียงผ่านชุดลำโพงโฮมเธียเตอร์ ยังคงมีอยู่เช่นเดิม เวลาใช้งาน จะต้อง On หัวข้อ HDMI Control และเปลี่ยน Input Selector ไปที่ AV4 ทั้งนี้ทีวีจะต้องรองรับฟังก์ชั่น ARC ด้วย จึงจะสามารถใช้งานได้ (ทีวีรุ่นที่รองรับมักจะมีคำว่า ARC กำกับไว้ที่ช่อง HDMI In)

ฟีเจอร์หนึ่งที่ทาง Yamaha ยึดมั่นให้ความสำคัญมาตั้งแต่ AVR รุ่นก่อนๆ คือ เรื่องของการประหยัดพลังงาน โดยแยกหัวข้อออกมาเฉพาะว่า ECO

ตัวเลือก Auto Power Down จะเป็นการกำหนดให้ AVR ปิดตัวลง (Standby) โดยอัตโนมัติเมื่อไม่มีการตอบสนองใดๆ จากผู้ใช้ ตามเวลาที่กำหนด ส่วนตัวเลือก ECO Mode จะเป็นการกำหนดให้ AVR ทำงานในโหมดประหยัดพลังงาน ในสถานะดังกล่าว อัตราการใช้พลังงานขณะที่ภาคขยายทำงาน และเมื่อเปิดเครื่องทิ้งไว้ (Idle) จะลดลง แต่ระดับวอลลุ่มสูงสุดจะถูกจำกัดไว้ เหมาะกับการรับชมรับฟังละคร ข่าว ฯลฯ ที่มิได้ต้องการเสียงตึงตังได้ดีนักแล ส่วนจะกระทบคุณภาพเสียงเวลาฟังแบบจริงจังไหม เดี๋ยวรายงานช่วงคุณภาพเสียงอีกทีครับ

หมายเหตุ:
– เมื่อทำการเปลี่ยนแปลงตั้งค่าในส่วนของ ECO Mode ระบบของ AVR จะทำการปิด และเปิดทำงานอีกครั้งพร้อมสถานะ ECO Mode On หรือ Off
– การสังเกตว่าขณะนี้ AVR อยู่ในสถานะ ECO Mode – On อยู่หรือไม่ ให้ดูจากตัวหนังสือ “ECO” ที่แสดงบนจอสถานะ
– จากการตรวจวัดอัตราการใช้พลังงานขณะ RX-A820 อยู่ในสถานะ Idle (เปิดเครื่องทิ้งไว้เฉยๆ) พบว่าลดลงจาก 40W เหลือ 33W เมื่อตั้งค่า Eco Mode – On หรือลดลงราว 17.5%